วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2568

ศูนย์ทนายฯ เผย อานนท์ นำภา คัดค้านต่อกระบวนพิจารณา หลังถูกสั่งตัดพยาน ในการไต่สวนคดี #ละเมิดอำนาจศาล หลังศาลเข้าปรึกษาอธิบดีศาลทั้งวัน ก่อนนัดฟังคำสั่ง วันที่ 28 มี.ค. 68

 


ศูนย์ทนายฯ เผย อานนท์ นำภา คัดค้านต่อกระบวนพิจารณา หลังถูกสั่งตัดพยาน ในการไต่สวนคดี #ละเมิดอำนาจศาล หลังศาลเข้าปรึกษาอธิบดีศาลทั้งวัน ก่อนนัดฟังคำสั่ง วันที่ 28 มี.ค. 68


ตามที่วันนี้(5 มี.ค. 68) เวลา 09.00 น. ศาลอาญา นัดหมายไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลของ “อานนท์ นำภา” เหตุถอดเสื้อประท้วงศาลที่ไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญในคดีมาตรา 112 #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์1 เพื่อยืนยันสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 67


เหตุในคดีนี้ สืบเนื่องจากนัดสืบพยานคดี #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์1 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 67 อานนท์ ในฐานะจำเลย ได้ถอดเสื้อประท้วงศาลเป็นครั้งที่สอง หลังเคยถอดเสื้อประท้วงมาแล้วครั้งหนึ่งในนัดสืบพยานก่อนหน้า เนื่องจากผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนยืนยันไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญที่จะใช้ถามค้านพยานโจทก์ให้ โดยอ้างว่าการออกหมายเรียกเอกสารดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 และให้ทนายความถามค้านพยานโจทก์ต่อโดยไม่มีพยานเอกสารดังกล่าว


ทันทีที่อานนท์ถอดเสื้อออก ศาลได้มีคำสั่งให้พิจารณาคดีลับ ทั้งสั่งห้ามนำข้อมูลในห้องพิจารณาคดีไปเผยแพร่ อ้างว่าเนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง อีกทั้งศาลได้ตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลกับอานนท์กรณีถอดเสื้อในห้องพิจารณาคดี โดยระบุว่า ศาลเคยได้ปรามจำเลยในการถอดเสื้อในการถอดเสื้อในครั้งก่อนแล้ว ครั้งนี้จำเลยยังทำการถอดเสื้อ เห็นว่าเป็นการก่อความวุ่นวายและแสดงตนไม่เรียบร้อยในศาล ไม่เคารพการพิจารณาคดี


โดยช่วงสายวันนี้(5 มี.ค.) ศูนย์ทนายฯ ได้รายการบรรยากาศก่อนเริ่มไต่สวนว่า อานนท์ นำภา ถอดเสื้อประท้วงในห้องพิจารณาอีกครั้ง หลังในนัดไต่สวนคดี #ละเมิดอำนาจศาล วันนี้(5 มี.ค.) ศาลพยายามให้ผู้เข้าฟังการพิจารณาออกจากห้องพิจารณา ยกเว้นเฉพาะทนายและญาติ แต่ไม่ได้มีคำสั่งพิจารณาเป็นการลับ อ้างว่าเป็นคำสั่งจากผู้บริหารศาล


ทนายพยายามแถลงคัดค้าน และอานนท์ได้ถอดเสื้อประท้วงอีกครั้ง โดยยืนยันว่าเป็นการพยายามรักษาเกียรติของประชาชนในการเข้าดูการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย


ต่อมาศาลอนุญาตให้ประชาชนที่เข้าฟัง แยกไปนั่งเก้าอี้อีกฝั่ง และให้ตำรวจศาลเก็บมือถือและบัตรประชาชนไว้ทั้งหมด ก่อนเริ่มมีการไต่สวนพยานฝ่ายผู้กล่าวหา


คืบหน้าล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเหตุการณ์ในวันนี้ว่า


สืบเนื่องจากศาลสั่งตัดพยานปากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ที่อยู่ในวันเกิดเหตุประท้วงถอดเสื้อในห้องพิจารณาคดีที่ศาลที่ไม่ออกหมายเรียกพยานเอกสารสำคัญในคดีมาตรา 112 #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์1 เพื่อยืนยันสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2567


ต่อมาในช่วงบ่าย ศาลแถลงว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่ทนายต้องการจะให้ขึ้นเบิกความในนัดไต่สวนนี้ ติดปฏิบัติหน้าที่ในห้องพิจารณาคดีอื่นอยู่ อานนท์จึงแถลงเพิ่มว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ขึ้นเบิกความ เนื่อจากการประท้วงของเขาคือการประท้วงต่อคำสั่งขอผู้พิพากษาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอคติของผู้พิพากษา โดยยืนยันว่าเขาจะขึ้นไต่สวนหลังจากที่เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ได้มาเบิกความ หากพยานปากดังกล่าวไม่ว่างวันนี้ สามารถเลื่อนการไต่สวนไปวันอื่นได้ โดยย้ำว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาประวิงคดี เพราะยังเหลือไต่สวนพยานฝั่งผู้ถูกกล่าวหาอีกที่ยังไม่ได้เดินทางมาในวันนี้


อย่างไรก็ตาม ศาลได้ขึ้นไปปรึกษาผู้บริหาร และกลับลงมาอ่านรายงานกระบวนทันที #โดยระบุว่าจะตัดพยานปากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ ในวันนี้ศาลได้ไต่สวนผู้กล่าวหาจนเสร็จสิ้น ส่วนผู้ถูกกล่าวหาแถลงยืนยันว่าจะเข้าเบิกความหลังพยานปากหน้าบัลลังก์ แต่ศาลเห็นว่าอานนท์ประวิงคดี จึงสั่งให้ตัดพยานผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ก่อนนัดฟังคำสั่งวันที่ 28 มี.ค. 2568 เวลา 09.30 น.


เช่นเดียวกัน แอดมินเพจอานนท์ นำภา ได้โพสข้อความระบุว่า


คำร้องคัดค้านและประท้วงศาล

ลงวันที่ 5 มี.ค. 2568

ณ ศาลอาญา


ระหว่างไต่สวน ศาลตัดพยานผู้กล่าวหาซึ่งเป็นประจักษ์พยานเพียงปากเดียวในคดี ไม่เรียก VDO วงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ อันทำให้ผู้ถูกกล่าวหาไม่อาจต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ มีลักษณะเช่นเดียวกับคดีอาญามาตรา 112 ที่ผู้ถูกกล่าวหา ถูกตัดสิทธิในการเรียกพยานหลักฐานเข้าต่อสู้คดี


จากกระบวนการยุติธรรมของศาลในคดีต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเรียกร้องให้ปฎิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งกระผมและเพื่อนๆไม่ได้รับความยุติธรรม พอสรุปได้ดังนี้


1. ในคดีอาญา มาตรา 112 กระผมถูกดำเนินคดีเพียงเพราะวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตและเป็นความจริง แต่กลับถูกกล่าวหาว่าพูดเท็จในการพิจารณาคดี กลับไม่ยอมเรียกพยานหลักฐานมาให้พิสูจน์ความจริง อันนำมาสู่การถอดเสื้อประท้วงศาลในคดีนี้


2. การพิจารณาคดีของศาลในบางคดี ใช้การพิจารณาลับ พิจารณาลับหลังจำเลยซึ่งลี้ภัยทางการเมือง ไม่เปิดโอกาสให้ต่อสู้อย่างเต็มที่


3. ในคดีม.112 ถูกตีความขยายไปจนเลยเถิด ทั้งบุคคลที่กฎหมายบัญญัติให้คุ้มครอง ขยายไปถึงพฤติการณ์หรือการกล่าวความจริงก็เป็นความผิด มิได้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย


4. กระผมและจำเลยหลายคนไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ถูกคุมขังจนไม่อาจต่อสู้คดีด้วยความยุติธรรม หลายคนต้องอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิและเสียชีวิตระหว่างการถูกคุมขัง


5. ศาลในหลายคดีมีทัศนคติไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข วินิจฉัยและตัดสินคดีไม่สอดคล้องและไม่เป็นไปตามกฎหมาย


ทั้งหมดเป็นความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรมไทยในคดีม.112 และ คดีการเมืองอื่นๆ กระผมจึงขอคัดค้านและประท้วงต่อกระบวนการยุติธรรม โดยการโกนคิ้วขวาข้างเดียว เพื่อให้เห็นถึงความบิดเบี้ยว ความไม่ยุติธรรม


การประท้วงนี้เป็นวิธีที่สันติและกระทำไปด้วยความมุ่งหมายให้กระบวนการยุติธรรมกลับสู่ปกติเสียที

ลงชื่อ

อานนท์ นำภา

ผู้ถูกกล่าวหาคดีม.112


สำหรับ อานนท์ นำภา ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


ซึ่งขณะนี้ตัดสินไปแล้ว 6 คดี มีโทษจำคุกรวมตอนนี้ 18 ปี 10 เดือน 20 วัน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา