วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568

"นายกฯแพทองธาร" แจงถูกตรวจสอบทรัพย์สินอย่างเข้มข้น ตั้งแต่รัฐประหาร 2549 บอกถึงอายุน้อยแต่เสียภาษี มากกว่า "วิโรจน์" ขอฝ่ายค้านชื่นชมเพื่อเป็นกำลังใจ ดีกว่าพูดสร้างความเกลียดชัง ด้าน "วิโรจน์" โต้เสียภาษีมาก แต่หาเทคนิคในการหลบเลี่ยงหนีภาษีต่างหากที่น่ารังเกียจ

 


"นายกฯแพทองธาร" แจงถูกตรวจสอบทรัพย์สินอย่างเข้มข้น ตั้งแต่รัฐประหาร 2549 บอกถึงอายุน้อยแต่เสียภาษี มากกว่า "วิโรจน์" ขอฝ่ายค้านชื่นชมเพื่อเป็นกำลังใจ ดีกว่าพูดสร้างความเกลียดชัง ด้าน "วิโรจน์" โต้เสียภาษีมาก แต่หาเทคนิคในการหลบเลี่ยงหนีภาษีต่างหากที่น่ารังเกียจ


วันนี้ (24 มี.ค. 68) เวลา 15.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงภายหลังรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.พรรคประชาชน อภิปราย


โดยนายกฯ กล่าวยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความตรงไปตรงมา ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ การที่ สส.กล่าวหาว่านายกรัฐมนตรีหนีภาษีนั้น ไม่เป็นความจริง ส่วนประเด็นทรัพย์สิน ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบตั้งแต่วันที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าครบถ้วนตามขั้นตอนทุกอย่าง ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบความถูกต้อง และเรื่องทุกอย่างที่ถูกฟ้องยังอยู่ในกระบวนการของ ป.ป.ช. ที่จะตรวจสอบตามขั้นตอน โดยยินดีที่จะแสดงข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง


นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อไปว่าทรัพย์สิน หนี้สิน และกิจการของครอบครัว ทั้งหมดถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น มาตั้งแต่การปฏิวัติรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ทุกบัญชี ทุกธุรกรรม อยู่ในสายตาของภาครัฐ อยู่ในที่เปิดเผย และโปร่งใส นอกจากนี้ยืนยันว่า ทรัพย์สินทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่ดินทุกแปลงทุกตารางวา ของตนเองและครอบครัว ได้รับการตรวจสอบจากภาครัฐทั้งหมด ไม่มีการซื้อที่ดินที่ไม่มีโฉนด ส่วนการทำธุรกรรมเรื่องหุ้นนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ก่อนที่จะเข้าสู่การเมืองหลายปี ทั้งนี้มีความตั้งใจในการปรับโครงสร้างการถือหุ้น โดยการซื้อขายผ่านตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note : PN) ยืนยันว่ามีหนังสือและติดอากรแสตมป์เรียบร้อย ซึ่งการซื้อขายในลักษณะนี้ บางรายการไม่มีการเสียภาษีเนื่องจากยังไม่มีการชำระเงินจึงไม่ทราบจำนวนเงินและยังเสียภาษีไม่ได้ ไม่ได้มีพฤติกรรมอำพรางใด ๆ


ส่วนที่ดินอัลไพน์เกิดขึ้นเกิดมานานมากแล้ว ครอบครัวของตนซื้อที่ดินแปลงนี้ ตอนที่ตนอายุ 11 ขวบและไม่ได้เป็นกรรมการ ก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องอภิปรายไว้ตั้งแต่ตอนนั้นหรือเปล่า และที่ดินของครอบครัวไม่เคยซื้อดินที่ไม่มีออกโฉนดจากหน่วยงานรัฐ เมื่อมีคดีความก็เป็นไปตามกระบวนการทุกอย่าง จนมาเป็นนายกฯก็ไม่มีการแทรกแซงใด ๆ และไม่เคยไปสั่งหน่วยงานไหนไปแทรกแซง หรือให้ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไม่ได้ ท่านอาจไม่เข้าใจกระบวนการในการทำงานแบบนี้ แต่ไปไปแทรกแซงแบบนั้นไม่ได้ อาจจะต้องอธิบายในอนาคตเพิ่มเติม


เรื่องนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม เดี๋ยวจะมอบหมายให้รมว.มหาดไทยชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนที่ดินเขากระโดงเป็นกรณีพิพาทระหว่างกรมที่ดิน การรถไฟ และพี่น้องประชาชน ดิฉันจะกำชับเรื่องนี้อย่างดี ให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน ทุกขั้นตอนจะต้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ตามกระบวนการ ขอให้มั่นใจว่าจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆจะนำเข้ากระบวนการตามระบบ ตามระเบียบจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความวุ่นวายต่าง ๆ ตามมา 


นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้ายว่าสิ่งใดที่รัฐบาลทำได้ดี ควรให้การชื่นชมเพื่อเป็นกำลังใจต่อกัน เชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายล้วนมีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ การพูดเพื่อก่อความเกลียดชังหรือความแตกแยกมองว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง


ต่อมานายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ลุกขึ้นโต้ตอบทันทีว่า นายกรัฐมนตรีจะเสียภาษีมากกว่าใคร นั่นเป็นหน้าที่ของท่านนายกฯ อยู่แล้ว ตนมั่นใจ ว่าคนไทย 60 ล้านคนหรือมากกว่านั้น เสียภาษีน้อยกว่าท่านนายกฯ ทั้งนั้น แต่ขอให้กลับไปดูมาตรา 50 (9) ของรัฐธรรมนูญ บุคคลมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ตามที่กฎหมายบัญญัติ ประชาชนจะเสียมากหรือเสียน้อย ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน


ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกประท้วงนายภราดรว่า ขอประท้วงท่านประธาน ในข้อ 9 ไม่อยากให้ท่านประธานเปลี่ยนญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระทู้ แล้วการพาดพิง ตนเข้าใจว่าสามารถใช้สิทธิ์ได้ แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดมาทั้งหมด ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่พาดพิงถึงนายวิโรจน์เลย ดังนั้นท่านประธาน โปรดควบคุมการประชุมด้วย


จากนั้น ประธานในที่ประชุมวินิจฉัยว่า ตนพยายามฟังนายวิโรจน์อยู่ ว่าจะเข้าเรื่องที่นายกรัฐมนตรีพาดพิงอย่างไร ขอให้กระชับ


ก่อนที่นายวิโรจน์ กล่าวว่า เสียภาษีมากน้อยไม่ได้สำคัญ ตราบใดที่ประชาชนทุกคน คนตัวเล็กตัวน้อยเสียภาษีตามที่กฎหมายบัญญัติ เขาถือว่าทำได้ถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญแล้ว 


“เสียภาษีมาก แต่หาเทคนิคในการหลบเลี่ยงหนีภาษีต่างหากที่น่ารังเกียจ” นายวิโรจน์ กล่าว


ทำให้นายภราดร กำชับทิ้งท้ายว่าประเด็นไม่ได้อยู่ในการพาดพิง การพาดพิงคือพาดพิงไปถึงบุคคลใด และทำให้บุคคลนั้นเสียหาย ท่านนายกฯ ไม่ได้พาดพิงไปถึงนายวิโรจน์และทำให้เสียหาย เพราะฉะนั้น การชี้แจงเมื่อสักครู่นี้ ไม่ใช่เป็นลักษณะพาดพิง ถือว่านายวิโรจน์อภิปรายจบไปแล้ว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อภิปราย151 #อภิปรายไม่ไว้วางใจ68 #ไม่ไว้วางใจนายก