วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

ธิดา ถาวรเศรษฐ : กกต. ต้องทบทวน ตรวจสอบข้อมูลและปรับทัศนคติในการทำงานให้โปร่งใส

ขอบคุณจากใจ ... สื่ออาสาฯ ยูดีดีนิวส์ ทุกท่าน


ยูดีดีนิวส์ : 29 มี.ค. 62 แม้การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 มึ.ค. 62 จะผ่านไปแล้ว แต่ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการยังไม่สามารถประกาศให้ประชาชนไทยทราบก็ตาม

ทีมงานยูดีดีนิวส์ขอขอบคุณสื่ออาสาฯ ตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้งทุกท่าน ทั้งที่ผ่านการอบรมหรือไม่ได้ผ่านการอบรม เพราะทุกท่านล้วนมีจิตอาสาที่ตั้งใจทำงานตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีทั้งการส่งข้อมูล, ภาพถ่าย และคลิปวีดีโอ มายังศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์เป็นจำนวนมาก รวมทั้งรายงานบรรยากาศที่ประชาชนพากันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามหน่วยหรือเขตเลือกตั้งที่สื่ออาสาฯ ประจำพื้นที่อยู่

นับเป็นความตื่นตัวของประชาชนที่ให้ความสนใจและไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังอุทิศตนเป็นสื่ออาสาฯ ตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้งอีกด้วย ภารกิจครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการทำงานภาคประชาชนอย่างแท้จริง เป็นการทำงานด้วยจิตอาสาที่ไม่ได้หวังผลประโยชน์ใด ๆ แต่ทำในฐานะประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้าไปสู่ระบอบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ขอขอบสื่ออาสาฯ ทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง แต่ภารกิจการตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่เสร็จสิ้น เพราะยังไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากกกต. ดังนั้นขอให้สื่ออาสาฯ ทุกท่านยังคงเฝ้าจับตามอง สังเกตการณ์ความผิดปกติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะทางกกต.ยังจะต้องมีการแจกใบส้ม, ใบแดง ให้แก่ผู้สมัครส.ส. นับต่อจากนี้ หากพบว่ามีเหตุการณ์ที่ไม่ชอบมาพากล ก็สามารถบันทึกเรื่องราว ภาพถ่าย คลิปวีดีโอ ส่งมายังสูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ได้ทันที

สุดท้าย ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ มีความยินดีหากประชาชนผู้รักประชาธิปไตยท่านใดสนใจในการเป็นนักข่าวอาสายูดีดีนิวส์ เพียงท่านเพิ่มเพื่อนในไลน์ พิมพ์คำว่า “ยูดีดีนิวส์” หรือเพียงสแกนคิวอาร์โค้ทตามด้านล่าง 


ท่านก็สามารถเป็นนักข่าวอาสายูดีดีนิวส์ได้อย่างง่ายดาย

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

องค์การนักศึกษา มธ. แถลงการณ์เรียกร้องให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.


ยูดีดีนิวส์ : 27 มี.ค. 62 วันนี้ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้โพสต์แถลงการณ์ในเฟสบุ๊คเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้

แถลงการณ์องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เรื่อง เรียกร้องให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง

สืบเนื่องจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พุทธศักราช 2562 ภายใต้การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่ามีความผิดปกติในหลายกรณีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของผลคะแนนที่เกิดขึ้นในหลายเขตเลือกตั้ง ความผิดปกติในการนับคะแนนที่ล่าช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงกรณีการดำเนินการที่หละหลวมก่อให้เกิดความเคลือบแคลงต่อผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่มีเหตุและผลที่เพียงพอในการตอบคำถามต่อสื่อและสังคมโดยรวม อ้างอิงจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่ควบคุมและดำเนินการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

นอกจากนี้การจัดเลือกตั้งดังกล่าวได้มีการใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่ประสิทธิภาพในการจัดการเลือกตั้งนั้นกลับสวนทางกับงบประมาณที่ได้ใช้ไป ซึ่งประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการสูญเสียความเชื่อมั่นที่แต่ละประเทศมีต่อประเทศไทย ทั้งในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะตัวแทนของนักศึกษาได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจต่อประเด็นดังกล่าวมาโดยตลอด ว่าอาจจะส่งผลทำให้เกิดความขัดแย้งหากคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่สามารถที่จะคงไว้ซึ่งความสุจริตและเที่ยงธรรมได้ เรามีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีคำตอบที่ชัดเจนและเพียงพอ ที่จะทำให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จัดการเลือกตั้งขึ้นในครั้งนี้

ในนามขององค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอประณามการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้งในครั้งนี้ ถึงความบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งส่งผลอย่างร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในแง่ความสุจริตและเที่ยงธรรมของผลการเลือกตั้ง ทั้งนี้ทางองค์การฯ มีความประสงค์เป็นอย่างยิ่งที่จะให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ว่าการทำงานนั้นต้องคำนึงถึงประชาชนและอยู่บนหลักของความสุจริตและเที่ยงธรรม

ด้วยความเคารพต่อระบอบประชาธิปไตย
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คำแถลงจากรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กรณีการเลือกตั้งไทย


ยูดีดีนิวส์ : 27 มี.ค. 62 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะประชาชนชาวไทยเท่านั้น ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเฝ้ารอคอยผลการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะเป็นอย่างไร  

เนื่องจากมีความผิดปกติในกระบวนการการเลือกตั้งและมีการรายงานผลที่ผิดพลาดมากมาย สหรัฐอเมริกาจึงร่วมเรียกร้องห้มีการประกาศผลการเลือกตั้งโดยเร็ว และให้มีการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นทุกกรณีอย่างยุติธรรมและโปร่งใส

โดยวานนี้ (26 มี.ค.) นายโรเบิร์ต พาลาติโน รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำแถลงถึงการเลือกตั้งในประเทศไทย รายละเอียดดังนี้


คำแถลงจากรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ 
โรเบิร์ต พาลาดิโน

การเลือกตั้งในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มีนาคม

เรายินดีกับพลเมืองไทยหลายสิบล้านคนที่ออกมาแสดงพลังในการเลือกตั้งที่รอคอยกันมาเป็นเวลานานเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศไทยกลับมามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีกครั้ง การลงคะแนนเสียงของประชาชน การรายงานข่าวอย่างเข้มข้นของสื่อเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง รวมไปถึงการอภิปรายข้อเท็จจริงอย่างเสรี เป็นสัญญาณบวกแสดงถึงการกลับสู่รัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยที่สะท้อนความต้องการของประชาชน

เรายืนเคียงข้างประชาชนชาวไทยในการเรียกร้องให้มีการประกาศผลการเลือกตั้งโดยเร็ว และให้มีการตรวจสอบรายงานความผิดปกติที่เกิดขึ้นในทุกกรณีอย่างยุติธรรมและโปร่งใส

สหรัฐอเมริการอคอยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งชุดใหม่ของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมค่านิยมต่างๆ รวมถึงประชาธิปไตย ความมั่นคง และความเจริญมั่งคั่งของพลเมืองทุกคน อันจะนำประเทศของเราทั้งสองให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

"ธิดา" นำคณะสื่ออาสาฯ ยูดีดีนิวส์ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงกกต. เรียกร้องเปิดเผยคะแนนทุกหน่วย!!!

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

พรุ่งนี้!!! ยูดีดีนิวส์ชวนไปเลือกตั้งพร้อมสังเกตการณ์ทุกหน่วย


ยูดีดีนิวส์ : วันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 62เป็นวันที่พี่น้องประชาชนชาวไทยเฝ้ารอคอยร่วม 5 ปี หลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57  นั่นคือวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ และหลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าจะมีผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ดูได้จากการที่ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรและนอกเขตที่ผ่านมารวม 87.22% ของผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนไว้  

ทั้งนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ยืนยันความพร้อม 100% ในการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงกรณีที่มีการโพสต์เกี่ยวกับปากกาหมึกล่องหนในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมากนั้น ทางกกต.ได้สั่งการให้กกต.จังหวัดตรวจสอบปากกาด้วย  แต่เพื่อความมั่นใจและสบายใจ ผู้มาใช้สิทธิสามารถนำปากกาไปเองได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งก่อน 

นอกจากนี้ทางศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ก็ได้สอบถามไปยัง นายนวัต บุญศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย กกต. เกี่ยวกับการนำปากกาส่วนตัวไปเอง ก็ได้รับคำยืนยันว่า สามารถนำติดตัวไปเองได้ 


อนึ่ง ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ ได้สัมภาษณ์ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ในประเด็นที่น่าเป็นกังวลสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะข่าวที่แพร่หลายในโลกโซเชียลเรื่องปากกาล่องหนนั้น ในทัศนะของอ.ธิดาเห็นว่า ไม่เคยปรากฎมาก่อนและไม่คุ้มค่าในการจะใช้ปากกาดังกล่าวทำให้บัตรเลือกตั้งกลายเป็นบัตรเสียจำนวนมาก


สิ่งที่ อ.ธิดา เป็นห่วงก็บัตรเลือกตั้งที่อาจมีปัญหา เช่น มีการนำเทียนไปขูดบริเวณช่องที่จะทำเครื่องหมายกากบาทบางช่อง เป็นเหตุให้ไม่สามารถกากบาทได้  ขอให้ประชาชนสังเกตบัตรเลือกตั้งที่ได้รับจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งให้ดี  และเมื่อพบปัญหาก็ให้รีบยกมือและแจ้งให้กรรมการประจำหน่วยฯ ทราบและขอบัตรใหม่ทันที

ดังนั้นวันพรุ่งนี้  ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ขอเชิญชวนพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้มากที่สุด ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. พร้อมกันนี้ขอให้อาสาสมัครตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้งยูดีดีนิวส์ปฏิบัติภารกิจและเฝ้าสังเกตการณ์ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้  หากพบเหตุรีบบันทึกภาพ/วีดีโอและแจ้งรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าวมาที่ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ทันที

ที่สำคัญคือเวลาหลังปิดหีบเลือกตั้ง (17.00 น.) คือเวลานับคะแนนทุกหน่วยพร้อมกันทั่วประเทศ  อาสาตรวจสอบยูดีดีนิวส์และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยต้องเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบปัญหาการขานคะแนนผิดพลาดอย่างหนึ่งอย่างใดก็สามารถทักท้วงได้  

ขณะเดียวกันก็สามารถส่งภาพบรรยากาศการเลือกตั้งและการนับคะแนน มาที่ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ได้ตลอดทั้งวัน.

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ทุกกระบวนท่า...วิชามาร!!!

ธิดา ถาวรเศรษฐ : วาทกรรม "อภิสิทธิ์" กับ "บิ๊กตู่" เรื่อง "การสืบทอดอำนาจ

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562

‘ณัฐวุฒิ’ ถาม ‘อภิสิทธิ์’ ไม่เอา ‘ประยุทธ์’ เป็นนายกฯ แต่อยากให้เผด็จการอุ้มตัวเองนั่งเก้าอี้ เป็นแคนดิเดตฯ อีกคนของพลังประชารัฐ?


‘ณัฐวุฒิ’ ถาม ‘อภิสิทธิ์’ ไม่เอา ‘ประยุทธ์’ เป็นนายกฯ แต่อยากให้เผด็จการอุ้มตัวเองนั่งเก้าอี้ เป็นแคนดิเดตฯ อีกคนของพลังประชารัฐ? - เดินแต้มไม่ธรรมดา เปรียบ ‘มาร์ค’ เสนอตัวขึ้นแทน ‘บิ๊กตู่’ ถ้ากระแสตก ไม่ใช่ยืนยันหลักการประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์คงต้องการปลุกกระแสพรรคช่วงโค้งสุดท้าย จึงประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แทงกั๊กมาตลอด แต่การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รับว่า พร้อมร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐกลับเป็นเรื่องย้อนแย้ง เพราะพรรคการเมืองนี้เป็นของพล.อ.ประยุทธ์ตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ กติกาและทุกอย่างที่ทำกันมาก็เพื่อสร้างความได้เปรียบให้ การที่บอกว่าไม่เอาการสืบทอดอำนาจแต่เอาพลังประชารัฐจึงไม่รู้แปลว่าอะไร

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ถ้าจะให้ตีความง่ายๆ คือ ไม่ยอมให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ แต่อยากให้อำนาจเผด็จการอุ้มตัวเองเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ ตนยังจำได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์และพวกเคยอุ้มนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ไปแล้ว แต่เจ๊งไม่เป็นท่า คราวนี้เขาจึงอยากเป็นเอง คงหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตอบแทนบุญคุณบ้าง การประกาศแบบนี้ไม่ใช่การยืนยันหลักการประชาธิปไตย แต่เป็นการยื่นข้อเสนอให้พรรคพลังประชารัฐพิจารณาถ้ากระแสพล.อ.ประยุทธ์ไปต่อไม่ได้ หลายคนบอกว่าจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง แต่ตนว่าไม่ แผนการสืบทอดอำนาจยังอยู่ เพียงแต่มีตัวเลือกเพิ่ม เหมือนนายอภิสิทธิ์เสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพลังประชารัฐอีกคน การเดินแต้มนี้ถือว่าไม่ธรรมดา กะว่าจะได้ทุกมุม ไม่เห็นแก่เสียเลย เห็นแก่ได้อย่างเดียว

(ภาพจากเฟซบุค Banrasdr Photo)

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

ธิดา ถาวรเศรษฐ : สถานการณ์การจัดการเลือกตั้งที่น่ากังวล!

วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2562

เลือกตั้งครั้งแรกของ ‘เนติวิทย์’ กับฉากปฏิญาณตนกระหึ่มกองทัพ

แฟนเพจ 'ยูดีดีนิวส์ - UDD News' สัมภาษณ์ ‘เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล’ อดีตประธานสภานิสิตจุฬาฯ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ ปี 3 วัย 22 ปี ผู้เคยนั่งเก้าอี้ประธานซึ่งมาจากการเลือกตั้งและถูกยึดอำนาจในภายหลังเช่นกัน ทั้งในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกในการเข้าคูหา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เลือกผู้แทน ขณะที่ก่อนหน้านี้ ‘แฟรงค์’ ใช้สิทธิครั้งแรกในการออกเสียงประชามติ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7ส.ค.59

สำหรับวันที่ 24มี.ค.62 เขาจะได้เลือกส.ส.เขต, ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายกรัฐมนตรีที่เสนอชื่อโดยพรรคการเมือง จากการกากบาท 1 ช่อง ในบัตร 1 ใบ เช่นเดียวกับผู้มีสิทธิทุกคน

- การใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกกับบรรยากาศที่มีพรรคการเมืองถูกยุบในโค้งสุดท้าย ท่ามกลางเสียงกระหึ่มการนำปฏิญาณตนของผบ.ทบ. คิดว่าคนรุ่นตัวเองกำลังจะอยู่กับอนาคตแบบไหน

เป็นการเลือกตั้งที่น่าหวาดเสียวที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทย และอาจจะเป็นการเลือกตั้งที่น่าตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของคนรุ่นใหม่หลายๆ คน

นับแต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ครั้งนี้ถือว่าเราเห็นตัวละครต่างๆ ทางการเมือง ออกมาโลดแล่นมาก

มีการเปลี่ยนแปลงที่เราไม่คิดไม่ฝันเกิดขึ้น ตั้งแต่เหตุการณ์ ‘8 กุมภาฯ’ มาจนถึงปัจจุบันนี้ มีหลายอย่างให้เห็น รู้สึกตื่นเต้น ดีใจด้วยส่วนหนึ่งที่ตัวเองได้อยู่ในเหตุการณ์แบบนี้

แต่ก็รู้สึกกังวลกับอนาคตของประเทศไทยเหมือนกันว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มีความเป็นขั้วแบบนี้ สุดท้ายแล้วมันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ดีขึ้น

-เนื้อหาที่ผบ.ทบ.พูดต่อสาธารณะ ถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง คิดว่าบทบาทกองทัพกับการเมืองควรจะเป็นอย่างไร

ผมว่าผบ.ทบ.ควรจะวางตัวให้เหมาะสม เพราะทุกวันนี้ผบ.ทบ.กำลังเอาตัวมาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งผมเข้าใจว่าผบ.ทบ. อาจจะรู้สึกว่านโยบายบางพรรคการเมืองจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ
แต่กองทัพก็ต้องอยู่ภายใต้รัฐบาล ไม่ใช่อยู่เหนือรัฐบาล

ดังนั้น สิ่งที่ ผบ.ทบ.ทำตอนนี้ จริงๆ ผมว่า เป็นการขัดหลักการของกองทัพในประเทศที่เจริญแล้วในโลกนี้ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า ผบ.ทบ. อยากให้กองทัพของไทยเป็นกองทัพที่เจริญและดูดี มีสภาพที่ดีหรือเปล่า

หรือว่าเป็นกองทัพที่ชมแต่ตัวเอง ให้รางวัลกับคนของตัวเอง แต่ไม่ได้มองถึงโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเลย

สิ่งที่กองทัพควรทำ คือยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย

ในขณะที่กองทัพทำการถวายบังคม ทั้งที่การถวายบังคมถูกยกเลิกไปแล้วด้วย ดังนั้น สิ่งที่ผบ.ทบ.ทำ จึงเป็นการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่เหมาะสมคือการโค้งคำนับ เพราะมีพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งผมทำตาม ผมจึงมองว่า ผบ.ทบ.ไม่ควรไปทำแบบนั้น

สิ่งนี้สะท้อนว่าสังคมเราเชื่อผู้มีอำนาจ เขาทำเราก็ทำ แต่เราไม่ได้ดูเลยนะว่าสิ่งที่เขาทำถูกต้องไหม ก็ไม่แปลก ผบ.ทบ. ออกมาบอกว่ากองทัพของเราเป็นทหารมืออาชีพ

คือฟังๆ ต่อๆ กันมาว่าเป็นมืออาชีพ ชมกันเอง แต่ไม่ศึกษาว่าจริงๆ แล้วมืออาชีพเป็นยังไง ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ นี่คือสิ่งที่เขาไม่เห็น แต่คนไทยส่วนใหญ่เห็นนะ (หึหึ)

-ที่ผ่านมาพรรคการเมืองถูกยุบง่ายๆ คิดเรื่องนี้ยังไง

เป็นผลดีต่อคสช. ในการสืบทอดอำนาจ ทำให้การเมืองไทยติดหล่ม ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ในสังคม แทนที่จะมีการแลกเปลี่ยนปฏิสัมพันธ์ปรับตัวเรียนรู้เข้าใจกันของกลุ่มต่างๆ

แต่ชนชั้นนำบางกลุ่มของไทยก็ต้องการจะครองอำนาจแบบนี้ต่อไป ซึ่งสุดท้ายจะเป็นผลเสียกับตัวพวกเขาเอง และเป็นผลเสียกับคนไทยส่วนใหญ่ด้วย

สิ่งที่พวกเขาทำ ไม่เป็นผลดีกับใครเลย และเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะการทำแบบนี้ เป็นการผลิตบทเรียนทางประวัติศาสตร์แห่งความขัดแย้งซ้ำไปซ้ำมา ไม่สนใจหลักนิติรัฐนิติธรรม จะทำอะไรก็ได้เพื่อผลประโยชน์พวกพ้อง ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

-มีพรรคการเมืองให้เลือกน้อยลง เป็นปัญหาหรือไม่

ก็เป็นปัญหา ผมไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมือง รวมถึงการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่อยากเลือกพรรคนั้น

ถ้าในเขตนั้นเขาเห็นว่าพรรคนี้ดีที่สุด ไม่มีตัวเลือกอื่น แต่เขาไม่ได้เลือก เราจะรับผิดชอบยังไง มันแสดงให้เห็นว่าเราไม่เคารพเสียงของประชาชน เสียงของประชาชนไม่ได้มีความสำคัญในประเทศนี้จริงๆ
คนรุ่นใหม่ต้องเรียกร้องว่า 1 คน 1 โหวตเป็นเรื่องสำคัญ

-คาดหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความสงบไหม

การเลือกตั้งครั้งนี้ คงไม่นำมาซึ่งความสงบ เพราะถ้าสงบก็คงสงบแบบมีรัฐประหาร หรือการใช้อำนาจบาทใหญ่ของกลุ่มทหาร
ผมหวังว่าครั้งนี้ประชาชนจะมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแข็งขัน ไม่ใช่เงียบอยู่ภายใต้ปากกระบอกปืน สิ่งนี้เกิดขึ้นมาตลอด บางทีเราสงบแบบไม่ได้สงบกันจริงๆ

ถ้าเราอยากสงบกันจริงๆ ต้องให้คนมีส่วนร่วม คนมีสิทธิได้พูด ไม่ใช่ว่าพอเค้าคิดแตกต่างจากเรา เราก็ไปยุบพรรค หรือไปใช้อำนาจบาทใหญ่ ไปใช้ทหารล้อมบ้าน ไปปรับทัศนคติ สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่การสงบจริงๆ ผมหวังว่า มันจะไม่ใช่การสงบแบบนั้น

ความสงบแท้จริงคือ คนในสังคมนี้เข้าใจกัน นี่คือสิ่งที่คาดหวัง แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ไม่ได้มาจากกลุ่มผู้มีอำนาจอย่างเดียว

ประชาชนต้องเรียกร้องด้วย เมื่อเราเป็นคนไทยในประเทศแห่งนี้ พวกเราทั้งหลายก็ควรจะมีสิทธิและอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเสมอกัน เท่าเทียมกันทางกฎหมายนี่เป็นสิ่งสำคัญมาก

- 24 มีนา 62 คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรและไม่อยากเห็นอะไร

ไม่อยากเห็นการโกงหรือขัดขวางการเลือกตั้ง ยิ่งกว่านั้นคือ ไม่อยากเห็นกระบวนการต่างๆ ที่จะนำไปสู่การกลั่นแกล้งกันทางการเมืองกับพรรคอื่นๆ หลังจากนั้นด้วย เพราะว่าคสช.เองถือว่ากุมไพ่ทางการเมืองเหนือกว่าทุกพรรคอยู่

ดังนั้น อาจจะนำไปสู่การกลั่นแกล้งทางการเมือง ไปสู่การยุบพรรคอื่นๆ อีกก็ได้ สิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นอีก ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น

ผมอยากเห็นการเมืองแบบสร้างสรรค์ การเมืองแบบที่ทำผิดก็ขอโทษกัน ออกมายอมรับผิด รู้ว่าการใช้อำนาจของตัวเองอาจจะทำลายประเทศชาติในระยะยาวด้วย ผมว่าทหารควรจะตระหนัก

-หนังสือเล่มใหม่ล่าสุด

ผมแปลกับเพื่อนที่จุฬาฯ หนังสือชื่อ ‘คู่มือพิชิตการเลือกตั้ง’ เพิ่งออกมาวันที่ 8 มี.ค.62 สำหรับคนที่สนใจการเมืองหรือธุรกิจ จะได้รับประโยชน์จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ สั่งซื้อได้ทางออนไลน์
ขียนโดยชาวโรมันเมื่อ 2 พันปีที่แล้ว แนะนำวิธีชนะการเลือกตั้ง นักการเมืองอ่านแล้วจะเข้าใจตัวเอง

คนอ่านอ่านแล้วจะรู้ทันนักการเมืองทั้งนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งและไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี เขียนแนะนำไว้แบบนี้

(สัมภาษณ์โดย ฟ้ารุ่ง ศรีขาว)

สั่งซื้อหนังสือ ‘คู่มือพิชิตการเลือกตั้ง’ คลิ๊ก
https://samyanpress.bentoweb.com/.../495068/product-495068
กับ 'นักเรียนเลวในระบบการศึกษาแสนดี' ประวัติการต่อสู้ในโรงเรียน
https://samyanpress.bentoweb.com/.../467769/product-467769

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562

ธิดา ถาวรเศรษฐ : กติการัฐธรรมนูญเรื่อง "เจ้านาย" กับ "การเมืองไทย"

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562

อบรมอาสาฯ ตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้ง ช่วงที่ 3 ยิ่งชีพ iLaw

หนุ่มเชียงใหม่เผยเบอร์ปริศนาโทรหาแม่บอกให้ผู้ถือบัตรไปเลือก พปชร.


นัท (นามสมมติ) ชายหนุ่มมีชื่อทะเบียนบ้านที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แต่ปัจจุบัน เขากับแม่ อาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มีคนโทรมาบอกแม่เขา ซึ่งเป็นผู้ถือบัตรประชารัฐให้ไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อที่จะสามารถต่ออายุบัตรได้ ยืนยันว่าตนเองไม่มีเหตุโกรธเคืองอะไรกับผู้สมัครพรรคนี้

นัท โพสต์ข้อความพร้อมเบอร์ที่โทรมาหาเขาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.62 ผ่านเฟสบุ๊คตนเอง และเปิดสาธารณะ แต่เนื่องจากวันต่อมาโพสต์ดังกล่าวหายไป นัท อธิบายเหตุผลว่า เนื่องจากมีคนที่รู้จักตนบอกกับตน โดยอ้างว่า เจ้าของเบอร์ที่โทรมาอยากคุยกับตนด้วย ตนรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงลบโพสต์ดังกล่าวออก 

ต่อมา นัท โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คด้วยว่า "ถ้าผมหายไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมโดนอะไร"

ที่มา : ประชาไท


นศ.ศิลปากร อัดเสียงขณะมีคนโทรให้ไปเลือกผู้สมัครพรรคนี้ ไม่แจ้งความเพราะกลัว

เฟสบุ๊คที่ศิรัญญา ทองเชื้อ นศ.ม.ศิลปากร โพสต์เมื่อ 23 ก.พ. เวลา 14.05 น.

ศิรัญญา ทองเชื้อ นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ปทุมธานี ศิรัญญา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในวันที่ 23 ก.พ. 2562 เวลา 11.21 น. มีผู้หญิงซึ่งไม่ได้แจ้งชื่อ โทรศัพท์มาขอให้ไปใช้สิทธิ์เลือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 3 ชื่อ ศักดิ์ชัย เสาะแสวง ซึ่งตนก็ได้รับฟังและบันทึกเสียงเอาไว้โดยไม่ได้ตอบโต้ซักถามอะไรในการพูดคุย ไม่ได้มีเงื่อนไขหรือเชื่อมโยงกับบัตรคนจน 

แต่ข้อสังเกตก็คือ มีเพื่อนทั้งที่รู้จักตัว และเพื่อนในทวิตเตอร์ โดนโทรศัพท์พูดคุยหลายคน ทุกคนที่ติดต่อมาเป็นสมาชิกโครงการสวัสดิการแห่งรัฐทั้งหมด โดยที่บางคนที่ส่งข้อมูลมาให้เธอก็ได้มีการบันทึกเสียงการสนทนาไว้ด้วย จากนั้นพรรคพลังประชารัฐติดต่อมาถามถึงรายละเอียดก็ได้ให้ไป แต่ก็ไม่ได้กล่าวขออภัย 

แต่ต่อมาทางพรรคพลังประชารัฐได้ประกาศทางแฟนเพจว่า การโทรศัพท์เพื่อหาเสียงไม่ได้เป็นการกระทำของพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด

ศิรัญญา กล่าวว่า ไม่น่าจะมีสาเหตุอื่น เนื่องจากตนจะไม่เปิดเผยเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวในทางสาธารณะอยู่แล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นการนำข้อมูลเบอร์โทรจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้เป็นข้อมูลในการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ

สำหรับสาเหตุที่ไม่ไปแจ้งความนั้น ศิรัญญา กล่าวว่า "กลัวภัยมืด"

ที่มา : ประชาไท