“ขนุน” อดอาหาร “ทวงคืนสิทธิประกัน!!” เข้าสู่วันที่ 18 แล้ว ศูนย์ทนายฯ อัพเดท ขนุนหัวใจเต้นช้าลง ชาง่ายขึ้น กล้ามเนื้อกระตุกบ่อยครั้ง เจ้าตัวฝากกวี 4 บท สิบแปดวันที่แสนสุดทรมาน ด้านตะวัน-ทานตะวัน โพสหลังเข้าเยี่ยม “ขออย่าต้องสูญเสียใครไปอีกเลย”
วันนี้ (10 มี.ค. 68) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า 10 มี.ค. 2568 ทนายความเข้าเยี่ยม “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 112 ทราบจากขนุนว่า อัตราการเต้นของหัวใจต่ำ มีอาการชาง่ายขึ้น และกล้ามเนื้อกระตุกบ่อยครั้ง หลังอดอาหารประท้วงเป็นวันที่ 18 แล้ว จากการถูกปฏิเสธสิทธิประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยงดรับประทานอาหารและนมตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 2568 และถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. 2568
วันนี้ทนายได้เข้าเยี่ยมพร้อมกับ “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ขนุนได้อ่านกลอนให้ตะวันฟัง เขาบอกว่า เขานั่งเขียนกลอนให้ตะวันเมื่อคืน ก่อนเล่าถึงผลตรวจร่างกายเช้าวันนี้ว่า ค่าโพแทสเซียมขึ้นมาเป็น 3.6 (ตามเกณฑ์คือ 3.5 – 5) หลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มี.ค.) เขากินเกลือแร่ไปหนึ่งซอง แต่อัตราการเต้นของหัวใจต่ำลงทุกวัน วันนี้อัตราการเต้นหัวใจอยู่ที่ประมาณ 62 ครั้งต่อนาที (ตามเกณฑ์คือ 60 – 100) และเกิดอาการชาง่ายมาก แค่ยกมือขึ้นมาเท้าโต๊ะหรือเอามือขึ้นมาวางบนอกตอนนอนแป๊บเดียวก็จะรู้สึกชาแล้ว ต้องเอามือวางราบกับพื้นถึงจะนอนได้ นอกจากอาการชา มีอาการปวดกระเพาะและท้องร้องทั้งวัน รู้สึกว่ากล้ามเนื้อกระตุกอยู่บ่อยครั้ง
ทานตะวันกำชับกับขนุนว่า ให้สังเกตอาการชาให้ดีว่าถี่แค่ไหน เพราะมันเกี่ยวกับค่าเกลือแร่ในร่างกาย และต้องระวังว่าจะเกี่ยวเนื่องกับอาการอื่นด้วย
ขนุนเล่าต่อว่า เขากำลังคิดว่าจะไม่รับวิตามินและสารอาหารแล้ว แต่ก็ขอเวลาคิดเพิ่มและจะตัดสินใจอีกทีวันพรุ่งนี้ ตอนนี้น้ำหนักเหลือ 65 กิโลกรัมแล้ว โดยวันนี้เขาลดปริมาณน้ำหวานลง จากสองขวดเหลือขวดเดียวและยังไม่ได้รับวิตามินอื่นเพิ่ม ทานตะวันบอกกับขนุนว่า ถ้าจะไม่รับยาบำรุง อย่างน้อยทานยาเคลือบกระเพาะก็ยังดี รักษากระเพาะไว้หน่อย
ก่อนทนายและตะวันจะกลับ เขาเล่าว่า เมื่อคืนมีคุณลุงเตียงใกล้กันอาละวาด ถอดสายน้ำเกลือจนเลือดไหล แล้วลุงคนนั้นก็สะบัดไปสะบัดมาจนเลือดท่วมตัว ผู้ช่วยกับพยาบาลต้องมาเช็ดเลือดให้แล้วผูกลุงเขาไว้กับเตียง หลังจากนั้นลุงคนนั้นก็เรียกขนุนให้ช่วยไม่หยุด พูดเซ้าซี้ว่า “ไอ้หนุ่มไม่สนใจกันหน่อยหรอ” “ลุงจะไม่ไหวแล้วช่วยลุงหน่อย” สุดท้ายผู้ช่วยต้องมาเข็นเตียงลุงย้ายไปห้องอื่น
สุดท้าย ขนุนฝากกลอน “ทวงคืนสิทธิประกัน!!” ออกมา
สิบแปดวันที่แสนสุดทรมาน
จากอาการของราคาที่ต้องแลก
เพียงเพื่อสิทธิประกันสุดผันแปร
ทั้งที่แค่เป็นสิทธิพื้นฐานป่ะ ?
ทั่วช่องท้องเผาไหม้เช่นอเวจี
เรี่ยวแรงที่หดหายเกินจะฝัน
หนังที่เริ่มห่อหุ้มกระดูกนั้น
เพียงเพื่อมั่นบนหลักการผมยอมเสี่ยง
ท้องที่ร้องไม่ใช่เสียงความหิวโหย
คือเสียงโวยที่ก้องด่าหลักการเบี้ยว
มันต้องการเพียงกลับบ้านเพื่อไปเรียน
แต่ถูกเขียนขีดทิ้งไร้หลักธรรม
ผมหวังแค่ได้สิทธิอิสรภาพ
ตามหลักการกฎหมายไทยเสมอกัน
ไม่ถูกพรากชีวาทัณฑ์กักขัง
เพื่อได้กลับคืนอ้อมกอดของครอบครัว
สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ
ผู้ต้องขังทางการเมือง
ทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์
10 มี.ค. 2568
เช่นเดียวกัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน โพสข้อความว่า
วันนี้ (10 มี.ค.) ไปเยี่ยมขนุนที่รพ.ราชทัณฑ์
ทุกความทรงจำที่นั่นยังคงย้ำเตือนถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
ขนุนนั่งอยู่ในห้องเยี่ยมห้องเดิมที่เราเคยนั่ง
และผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงหนึ่งของการเยี่ยม ขนุนอ่านบทกลอนนึงที่แต่งเองให้ฟัง ชื่อบทกลอนว่า
“ถึงตะวัน”
กาลหนึ่งเรา เคยเห็นต่าง อย่างแสนสุด
กับกลยุทธ์ ที่ทุกข์กาย ยากนึกฝัน
ในยามนี้ เราจึงนึก ตามตะวัน
ต่อกฎทัณฑ์ ที่ไร้กรอบ และหลักเกณฑ์
จะให้นิ่ง หน้าติดดิน ถูกลอยเคว้ง
คงยากเกรง ไม่ใช่ ตัวเราเลย
ณ ตอนนี้ เราสู้ อย่างไม่เคย
เพื่อเอื้อนเอ่ย ถึงความ ยุติธรรม
เราหวังเพียง ต้องการ จะกลับบ้าน
หวังพบหน้า ที่คุ้นเคย อย่างที่ฝัน
หนทางเดียว ที่จะทำ ให้พบกัน
คือสิทธิ ประกัน ตามหลักการ
ขนุนอดอาหารมา 18 วันแล้ว
คืนสิทธิการประกันตัวให้เขาเถอะ
ขออย่าต้องสูญเสียใครไปอีกเลย
สำหรับ “ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นักกิจกรรมวัย 24 ปี และผู้ต้องขังในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์มาตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2567 หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุก 2 ปี กรณีปราศรัยในการชุมนุม #18พฤศจิกาไปราษฎรประสงค์ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563