วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ด่วน! ศาลสั่งจำคุก ไบร์ท - ฟอร์ด คนละ 15 วัน ปรับคนละ 500 บาทกรณีละเมิดอำนาจศาลถ่ายรูปในศาล โดยโทษจำคุก รอการลงโทษไว้ 1 ปี

 


ด่วน! ศาลสั่งจำคุก ไบร์ท - ฟอร์ด คนละ 15 วัน ปรับคนละ 500 บาทกรณีละเมิดอำนาจศาลถ่ายรูปในศาล โดยโทษจำคุก รอการลงโทษไว้ 1 ปี


วันนี้ (31 พ.ค. 64) เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ลศ.1/2564  ที่ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา กล่าวหา นายอรรถพล หรือครูใหญ่ บัวพัฒน์ นายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง และนายอนุรักษ์  เจนตวนิชย์  ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64  เวลาประมาณ 18.10 น. ไบรท์ ชินวัตร ได้โพสต์เฟซบุ๊คชื่อ ไบรท์ ราษฎร เป็นภาพถ่ายของนายอรรถพล และนายชินวัตร นอนอยู่ในห้องเวรชี้ ศาลอาญาเป็นภาพนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะ บอตทอมบลูส์ ผ่านระบการประชุมทางจอภาพ หรือวิดิโอคอนเฟอเร้นซ์ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบว่าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 มี.ค. 64 พนักงานอัยการได้ส่งตัวฟ้องทั้งสามกับพวก รวม 18 คนต่อศาลอาญา  โดยเข้าห้องเวรชี้เพื่อรอสอบคำให้การ ปรากฏว่าช่วงเวลา 13.07 น.ขณะที่ศาลเปิดระบบการประชุมทางจอภาพปรากฏภาพนายไชยอมร นั้นนายอนุรักษ์ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพนายไชยอมร  ต่อมาเวลา 13.10 น.นายชินวัตรได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปตัวเองและนายอรรถพล  อันเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล


โดยนายชินวัตร เเละนายอนุรักษ์ เดินทางมาศาล นายอนุรักษ์ กล่าวว่ายอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผู้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปในพื้นที่ศาลจริง แต่ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อยืนยันให้บุคคลภายนอกได้รู้ ว่าทางราชทัณฑ์และทางศาล ดูแลแกนนำ คือ แอมมี่ ที่ถูกคุมขังอย่างไรหลังจากนี้ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของการดำเนินคดีตามปกติ


ด้านนายชินวัตร กล่าวว่าต้องการเดินทางมายืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำจริงส่วนครูใหญ่ไม่ได้ทำผิดร่วมด้วย แม้การถ่ายรูปในพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นเรื่องผิด แต่ยืนยันว่าถ่ายเฉพาะแค่ภาพบุคคล เป็นสิทธิ์ที่ควรจะถ่ายได้ ส่วนที่ตัดสินใจสวมกางเกงขาสั้นและรองเท้าไม่รัดส้นมา เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ ศาลต้องมีการปฏิรูป กลับมายึดหลักความยุติธรรมต่อไป ทั้งในเรื่องของการคุมขังผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งยังไม่ได้ มีคำสั่งตัดสินเด็ดขาดว่าเป็นผู้ทำผิด สิ่งเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น


อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ติดต่อนายอรรถพล หนึ่งในผู้ต้องหาที่ต้องเดินทางมาวันนี้ ซึ่งนายอรรถพลกล่าวเพียงว่ายังไม่ได้รับหมายเรียกใด ๆ จากศาลหรือเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ตัวเองอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อไม่มีหมายก็เลยไม่ได้เดินทางมา


ความคืบหน้าล่าสุด นายชินวัตร และนายอนุรักษ์ ให้การรับสารภาพ จำหน่ายคดีนายอรรถพล ออกจากสารบบความ ศาลพิเคราะห์จากการศาลพิเคราะห์จากการไต่สวนพยานแล้วเห็นว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหานำเครื่องมือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในบริเวณศาลอาญาที่ใช้ถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือบันทึกเสียงหรือกระทำอย่างอื่นในทำนองเดียวกัน เป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศศาลอาญา อันเป็นข้อกำหนดว่าด้วย การรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาล ดังนั้นการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่นายชินวัตร กับนายอนุรักษ์ เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ศาลจึงมีคำสั่งว่า ให้ลงโทษจำคุกคนละ 15 วัน ปรับคนละ 500 บาท เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองไม่ปรากฏว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนเห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

"ราษมัม" ยืนหยุดขัง หน้าศาลฎีกา เรียกร้องสิทธิประกันตัว อานนท์ - ไมค์ - จัสติน ด้าน"เพนกวิน"ร่วมด้วยครั้งแรก เผยการต่อสู้นับจากนี้ยังเหมือนเดิม

 


"ราษมัม" ยืนหยุดขัง หน้าศาลฎีกา เรียกร้องสิทธิประกันตัว อานนท์ - ไมค์ - จัสติน ด้าน"เพนกวิน" ร่วมด้วยครั้งแรก เผยการต่อสู้นับจากนี้ยังเหมือนเดิม


วันนี้ (29 พ.ค. 64) เวลา 17.30 น. ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ สลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 53 และนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน โดยบริเวณแห่งนี้ถูกขนานนามใหม่ว่า "ลานอากง" เนื่องจากร่วมกันทำพิธีเชิงสัญลักษณ์ เพื่อรำลึกถึงนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ผู้ต้องโทษคดี 112 ในวาระครบรอบการเสียชีวิต 9 ปี เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา 


สำหรับวันนี้ มีผู้ร่วมกิจกรรมในบริเวณที่กำหนด จำนวน 20 คนเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 โดยยืนเว้นระยะห่าง พร้อมถือป้ายภาพและข้อความ อาทิ "หยุดจับคนเห็นต่างเข้าคุก หยุดจับผู้บริสุทธิ์ยัดข้อหา" "คืนสิทธิ์ประกันตัว"  เพื่อเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวแก่นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมวลชนที่เกินจาก 20 คน จะกระจายตัวบริเวณข้าง ๆ โดยยืนเว้นระยะห่างกว่า 30 คน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงนอกเครื่องแบบ เฝ้าสังเกตการณ์เข้มงวด


โดยกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ "ยืนหยุดขัง" นี้จัดอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 67 แล้ว  ซึ่งมีการจัดทุกวันในเวลา 17.30 น. จนกว่าเพื่อนจะได้รับอิสรภาพ ซึ่งขณะนี้เหลืออีกอย่างน้อย 4 ราย ได้แก่ 1. นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ระยอง 2. นายอานนท์ นำภา 3. นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ จัสติน และ 4. นายแซม สาแมท 


โดยในวันนี้ คณะราษมัม มารดาของนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ร่วมทำกิจกรรมด้วย อาทิ นางยุพิน มะณีวงศ์ มารดาของ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง, นางมาลัย นำภา มารดาของ นายอานนท์ นำภา มาร่วมยืนด้วยโดยทั้ง 2 ยืนถือภาพของบุตรชายของตน ร่วมทั้งนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ได้ร่วมยืนโดยห้อยป้ายภาพทนายอานนท์ 


สำหรับวันนี้ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน และ น.ส.พลอยวรินทร์ หรือ พ้อย น้องสาวของนายพริษฐ์ ได้เดินทางมาร่วมยืนด้วย โดยนายพริษฐ์ ห้อยป้ายภาพ นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ ส่วนน้องสาวห้อยภาพ กลุ่มแกนนำราษฎร ระบุข้อความ "ปล่อยเพื่อนเรา หยุดคุกคามประชาชน" 


ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรก ที่นายพริษฐ์ ร่วมกิจกรรมทางการเมือง ภายหลังได้รับการประกันตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา


ต่อมาเวลาประมาณ 17.40 น. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เดินทางมาถึงหน้าศาลฎีกา พร้อมห้อยภาพ นายอานนท์ในชุดนักโทษระบุข้อความว่า "สิทธิประกันตัว ปล่อยเพื่อนเรา" 


จากนั้น 18.00 น. ทีมงานผู้จัดกิจกรรมนำยาหม่อง และยามาให้นายพริษฐ์ พร้อมทั้งนำเก้าอี้มาให้นายพริษฐ์นั่ง เนื่องจากจะเป็นลม ทำให้นายพริษฐ์เปลี่ยนเป็นนั่งแทน พร้อมดมยาดมและพัดเพื่อคลายร้อน เป็นระยะ ๆ 


โดยเมื่อครบกำหนด 1.12 ชั่วโมง ในเวลา 18.42 น.นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ได้กล่าวขอบคุณประชาชน  พร้อมทั้งเชิญชวนให้ทุกคนหันหน้าเข้าหาศาลฎีกา ชู 3 นิ้ว ตะโกนพร้อมกัน "ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์ คืนสิทธิการประกันตัว"


จากนั้นนานพริษฐ์ หลังได้รับการกักตัวครบ 14 วัน ได้มาร่วมกิจกรรมเป็นครั้งเเรกหลังจากได้รับการปล่อยตัว เเละฟื้นฟูสุขภาพจากการอดอาหารประท้วง ได้กล่าวว่า วันนี้ถึงเวลาที่เขาจะออกมาให้กำลังใจ และเรียกร้อง ให้กับกลุ่มเพื่อน ที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ พร้อมเล่าว่าขณะที่อยู่ในเรือนจำได้อ่านจดหมายที่ กลุ่มเพื่อนส่งเข้าไปหาทุกฉบับ เเละการสนับสนุนของมวลชน ทำให้เขามีเเรงใจอดอาหารได้ยาวนาน การต่อสู้นับจากนี้ยังเหมือนเดิม พร้อมทั้งได้เผยถึงสถานการณ์โควิดในเรือนจำ โดยบอกว่า ตัองใช้คำว่าพังพินาศ มาก เพราะพื้นที่เเออัด พื้นที่เเคบ ต้องอยู่ร่วมกัน 50 - 60 คน ในพื้นที่เล็ก ๆ ไม่มีทางที่จะไม่ติดเชื้อ ขณะที่ ระบบการดูเเลสาธารณสุข ด้านเเพทย์ ยังไม่ดีพอ จึงทำให้มีการติดเชื้อจำนวนมาก ทั้งนี้นายพริษฐ์ได้ทิ้งท้ายว่ารู้ตัวว่าร่างกายตนเองยังไม่เต็มร้อย ยืนได้ครึ่งชั่วโมง ต้องเปลี่ยนมานั่งหยุดขังแทน 


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. ศาลอาญารัชดาภิเษก นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, ทนายอานนท์ อำภา, นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือ จัสติน ซึ่งเเม่ทนายอานนท์ และ แม่ของไมค์ ตั้งความหวังว่า ลูกจะได้รับการประกันตัว พร้อมกับนัดหมายมวลชนให้ไปร่วมให้กำลังใจ ที่หน้าศาลอาญาในวันดังกล่าวด้วย


โดยในวันนี้ พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รอง ผกก.สน.ชนะสงคราม เดินทางมาสังเกตการณ์ด้วยตนเอง และบางช่วงเวลาขณะทำกิจกรรม พ.ต.ท.เอกภณ ได้ทำการนับจำนวนผู้ร่วมกิจกรรม ว่าเกินจำนวนที่กำหนด 20 คน ตามกฎหมายควบคุมโรคหรือไม่ ทั้งนี้ทีมงานผู้จัดกิจกรรม จึงขอความร่วมมือผู้สื่อข่าว ให้ยืนเก็บภาพโดยเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและข้อกฎหมาย ขณะที่ทีมงานนำเจลแอลกอฮอล์ และ เครื่องวัดอุณหภูมิมาบริการ 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คืนสิทธิประกันตัวให้ประชาชน #ยืนหยุดขัง


ปรพมวลภาพกิจกรรม










วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ทนายเผยศาลเลื่อนนัดไต่สวน "เพนกวิน" ปมโพสต์เฟซบุ๊ก "สาส์นแรกแห่งอิสรภาพ" ส่อผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ เป็นวันที่ 7 มิ.ย. 2564

 


ทนายเผยศาลเลื่อนนัดไต่สวน "เพนกวิน" ปมโพสต์เฟซบุ๊ก "สาส์นแรกแห่งอิสรภาพ" ส่อผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ เป็นวันที่ 7 มิ.ย. 2564


วันนี้ (27 พ.ค. 64) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลนัดไต่สวนคำร้อง เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือถึง นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัย กรณีนาย พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฏร 1 ในจำเลย 22 คน คดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยกำหนดเงื่อนไขห้ามพาดพิงสถาบันเบื้องสูง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "สาส์นแรกแห่งอิสรภาพ"  ว่า การกระทำดังกล่าวของนายพริษฐ์ ขัดต่อเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวหรือไม่


โดยวันนี้ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส  หรือทนายด่าง ทนายความของนายพริษฐ์  เดินทางมาศาล ภายหลังนายกฤษฎางค์ ทนายความ กล่าวว่าศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องที่นายสนธิญาณ สวัสดี ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เนื่องจากมีเหตุว่าจะกระทำผิดเงื่อนไขของศาล โดยศาลได้ออกหมายเรียกบิดาและมารดา กับ นายอดิศร จันทรสุข รองอธิการบดีฯ ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้กำกับดูแล แต่เนื่องจาก นายพริษฐ์ เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ร่างกายไม่แข็งแรงและอยู่ระหว่างกักตัว ขณะที่บิดา มารดา และผู้กำกับดูแลทั้งหมดอยู่ในช่วงกักตัว จากการสัมผัสผู้มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน จึงให้เลื่อนนัดไต่สวนผู้กำกับดูแลเป็นวันที่ 7 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

ศาลเลื่อนนัดไต่สวน เบนจา อะปัญ แนวร่วม มธ. คดีละเมิดอำนาจศาลเป็น 21 มิ.ย.64 เวลา 13.30 น. เหตุอยู่ระหว่างกักตัวเนื่องจากใกล้ชิดผู้ติดโควิด-19

 


ศาลเลื่อนนัดไต่สวน เบนจา อะปัญ แนวร่วม มธ. คดีละเมิดอำนาจศาลเป็น 21 มิ.ย. 64 เวลา 13.30 น. เหตุอยู่ระหว่างกักตัวเนื่องจากใกล้ชิดผู้ติดโควิด-19


วันนี้ (27 พ.ค. 64) เวลา 13.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ลศ.6/2564 ที่ผู้อำนวยสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ผู้กล่าวหา กับ น.ส.เบญจา อะปัญ อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผู้ถูกกล่าวหาฐานกระทำละเมิดอำนาจ ที่ห้องพิจารณาคดี 807 นั้น


ความคืบหน้าล่าสุด นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ทนายความประจำศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งข่าวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ น.ส.เบนจาอยู่ระหว่างกักตัว จากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงขอเลื่อนนัดไต่สวน โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 21 มิ.ย. 64 เวลา 13.30 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

“แอมมี่” ขึ้นศาล คดี 112 เผยหลังได้ประกัน มีความสุขเพียงครึ่งเดียว เพื่อนหลายคนยังอยู่ในคุก ศาลนัดตรวจพยานอีกครั้ง 28 มิ.ย. 64

 


“แอมมี่” ขึ้นศาล คดี 112 เผยหลังได้ประกัน มีความสุขเพียงครึ่งเดียว เพื่อนหลายคนยังอยู่ในคุก ศาลนัดตรวจพยานอีกครั้ง 28 มิ.ย. 64


วันนี้ (27 พ.ค. 64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีการนัดสอบคำให้การจำเลย หมายเลขดำ อ.1199/64 ซึ่งพนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้องนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues แนวร่วมกลุ่ม #ราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83, 91, 112, 217 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 


ในวันนี้ “แอมมี่” เดินทางมาพร้อมกับนางอรวรรณ แก้วิบูลย์พันธุ์ มารดา และ น.ส. ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยทนายแจมกล่าวว่า วันนี้เป็นวันนัดรายงานตัวหลังจาก “แอมมี่” ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว


โดย “แอมมี่” ได้เผยความรู้สึกหลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวว่า ได้ออกมาตนก็รู้สึกมีความสุขเพียงครึ่งเดียว เพราะยังมีเพื่อน ๆ อีกหลายคน เช่น ทนายอานนท์ นำภา, ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก, จัสติน ชูเกียรติ แสงวงศ์ รวมถึงผู้ต้องขังคดีทางการเมืองอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับอิสรภาพ นอกจากนี้ “แอมมี่” ยังแสดงความเห็นต่อการแพร่ระบาดโควิดในเรือนจำว่า สำหรับตน สิ่งที่เราต่อสู้กันอยู่ไม่ใช่การต่อสู้กับระบบของราชทัณฑ์ ต้องแก้ที่โครงสร้าง เพราะถ้าประเทศดีจริง คุกก็จะพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่โครงสร้าง 


ต่อมาเวลา 11.30 ทนายแจมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “แอมมี่” ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และศาลนัดตรวจพยานอีกครั้งในวันที่ 28 มิ.ย. 64


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ 

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

อัยการสั่งฟ้อง "แอมมี่" 3 ข้อหาหนัก ม.112 - วางเพลิง - พ.ร.บ. กรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำคลองเปรม ศาลนัดสอบคำให้การ 27 พ.ค.นี้

 


อัยการสั่งฟ้อง "แอมมี่" 3 ข้อหาหนัก ม.112 - วางเพลิง - พ.ร.บ. กรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำคลองเปรม ศาลนัดสอบคำให้การ  27 พ.ค.นี้


วันนี้ (25 พ.ค. 64) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชัยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์  อายุ 32 ปี เป็นจำเลย ในฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83 , 91, 112, 217 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6 ) พ.ศ 2526 มาตรา 4 พ.ร.บ.การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14


โดยคำฟ้องบรรยายพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 64 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีก 2 คน ที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องและหลบหนี ได้ร่วมกันวางเพลิงโดยใช้น้ำมันก๊าดราดและจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ซึ่งได้ประดิษฐาน ไว้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของเรือนจำกลางคลองเปรม จนไฟได้ลุกลามไหม้พระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมโครงไม้ เหล็กและอุปกรณ์ที่ประดับจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 6 รายการ และค่าติดตั้ง 1 รายการ รวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 60,000 บาท


การกระทำของจำเลยกับพวกข้างต้นจึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรล่วงละเมิด เป็นการแสดงออกด้วยประการใดว่าจะทำให้เสียหายในทางใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นอันตรายแก่ร่างกายทรัพย์สิน สิทธิเสรีภาพ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ อันไม่ใช่การใช้สิทธิ์ตามปกตินิยมนับ เป็นการแสดงอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นพระมหากษัตริย์และมีเจตนาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์


อีกทั้งจำเลยได้นำเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นภาพที่ไฟกำลังลุกไหม้ และมีการพิมพ์ข้อความว่า "สื่อคงไม่กล้าออก มิตรสหายท่านหนึ่งแจ้งว่า เมื่อคืนเกิดเหตุไฟไหม้ พระบรมฯ ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม คนละ 1 แชร์แด่อิสรภาพ #ปล่อยเพื่อนเรา" 


โดยจำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ที่ในบัญชีเฟสบุ๊ก ชื่อว่า The Bottom Blues ของจำเลย ซึ่งเปิดเป็นบัญชีสาธารณะประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้นพฤติกรรมของจำเลย จึงเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เหตุเกิดที่ แขวงลาดยาว เขตจตุจักรกรุงเทพมหานคร 


ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย


ศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาหมายเลขดำ อ.1199/2564 และนัดสอบคำให้การนายไชยอมร จำเลย ซึ่งได้รับการปล่อยชั่วคราววันที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

เยาวชนคนแรก "เพชร ธนกร" ถูกอัยการสั่งฟ้องคดี ม.112 กรณีม็อบวงเวียนใหญ่ 6 ธ.ค. คดีเดียวกับตี้ พะเยา - จัสติน

 


เยาวชนคนแรก "เพชร ธนกร" ถูกอัยการสั่งฟ้องคดี ม.112  กรณีม็อบวงเวียนใหญ่ 6 ธ.ค. คดีเดียวกับตี้ พะเยา - จัสติน


วานนี้ (24 พ.ค. 64) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน  รายงานว่าที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ว่า ธนกร (สงวนนามสกุล) หรือ “เพชร” เยาวชนอายุ 18 ปี เดินทางเข้ารายงานตัวตามนัด ในคดีที่ถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 กรณีการปราศรัยในการชุมนุม ม็อบ 6 ธันวา บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ก่อนพบว่าอัยการได้สั่งฟ้องคดีต่อศาลไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2564


ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 ธนกรถูกพนักงานสอบสวนสน.บุปผารามแจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมกับชูเกียรติ แสงวงค์ และ วรรณวลี ธรรมสัตยา โดยคดีมีนายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เป็นผู้กล่าวหา


โดยศาลมีกระบวนการจากห้องพิจารณาคดีลงมายังพื้นที่ซึ่งเป็นลานจอดรถของศาล พร้อมทั้งมีการจัดตั้งโต๊ะวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์และโต๊ะรายงานตัว  ทั้งนี้ศาลแจ้งกับธนกรและที่ปรึกษากฎหมาย (ทนายความ) ว่าพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องคดี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2564 ต่อมาศาลจึงได้อ่านคำฟ้องให้ฟัง 


รายละเอียดในคำฟ้องโดยสรุปกล่าวหาว่าเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 63 ในการชุมนุมที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ธนกรได้ขึ้นปราศรัยกล่าวถึงการปกครองของไทยว่าไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นระบอบสมบูรณญาสิทธิราชย์ รวมทั้งกล่าวถึงบทบาทของกษัตริย์กับการรัฐประหาร พร้อมกับเรียกร้องให้ปฏิรูปประเทศ 


อัยการระบุว่าเนื้อหาคำปราศรัยดังกล่าวเป็นการใส่ความพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ต่อประชาชนที่มาร่วมชุมนุม อันเป็นความเท็จ และเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทำให้พระองค์เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากบุคคลที่สาม ซึ่งได้เห็น รับชม รับฟังคำปราศรัยเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ 


ศาลได้สอบถามเรื่องการแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมาย จำเลยได้แถลงว่าแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายเองแล้ว โดยประสงค์จะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 


ที่ปรึกษากฎหมายของจำเลย ได้แถลงว่าเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา และจำเลยเพิ่งได้รับคำฟ้องในวันนี้ และเนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง ประกอบกับมีพยานเอกสารและพยานบุคคลเป็นจํานวนมาก จึงขอเวลาตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานเอกสารให้ถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่ง 


ศาลเยาวชนจึงได้มีคำสั่งให้เลื่อนนัดสืบพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 11 มิ.ย. 64 เวลา 09.00 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ6ธันวา

ภาคีSAVEบางกลอย บุกทำเนียบ จี้ 3 เงื่อนไข ชะลอดำเนินคดีชาวบ้าน เร่งแจงประเด็น ฮ. ถูกยิง ด้าน"ธรรมนัส" รุดรับหนังสือ รับปากลงนามเร่งแก้ปัญหา

 


ภาคีSAVEบางกลอย บุกทำเนียบ จี้ 3 เงื่อนไข ชะลอดำเนินคดีชาวบ้าน เร่งแจงประเด็น ฮ. ถูกยิง ด้าน"ธรรมนัส" รุดรับหนังสือ รับปากลงนามเร่งแก้ปัญหา


วันนี้ (25 พ.ค. 64) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 (สนง.กพ.เดิม) ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนภาคี #saveบางกลอย  นำโดย นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และนายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย ตัวแทนภาคีsaveบางกลอย เข้ายื่นหนังสือถึง ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย


เรื่อง ขอให้ชะลอการส่งสำนวนฟ้องชาวบ้านบางกลอย 28 ราย และเร่งรัดกระบวนการแก้ไขปัญหากรณีกะเหรี่ยงบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี


นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และได้รับทราบข้อมูลจากตำรวจและทนายว่าจะมีการเพิ่มข้อหาให้ชาวบ้าน วันนี้ตนก็อยากจะมายื่นหนังสือถึงท่านธรรมนัส ว่าคณะกรรมการฯ ที่แต่งตั้งขึ้นมามีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ทำไมต้องสั่งเร่งรัดการดำเนินคดี ตนก็อยากมาถาม รวมถึงมีการเปิดปฏิบัติการของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่อาจกระทบต่อการแก้ไขปัญหา


"อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังมีการใช้ปฏิบัติการที่เรียกว่า ใจแผ่นดิน ยอดดวงใจของแก่งกระจาน" หลังปรากฏข่าวว่าเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกยิงด้วยอาวุธปืนเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจถูกนำมาเชื่อมโยงกับชาวบ้านบางกลอยจนเกิดเป็นปฏิบัติการที่สร้างความขัดแย้ง อันไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล นายพงษ์ศักดิ์กล่าว


จากนั้นได้อ่านแถลงการณ์เสนอ 3 ข้อเรียกร้องเร่งด่วนสำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้แก่ 


1. ขอให้ท่านประสานงานหรือสั่งการไปยังพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน ให้ชะลอการดำเนินการฟ้องชาวบ้านบางกลอยทั้ง 28 คนไว้ก่อนรวมทั้งให้ยุติการแจ้งข้อหาเพิ่ม


2. ขอให้ท่านสั่งการให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากฎหมายและคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความเร่งรัดจัดประชุมโดยเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านคดีความของชาวบ้าน ก่อนการดำเนินการใด ๆ ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ


3. ขอให้ท่านประสานงานไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่เนื่องจากมีบันทึกข้อตกลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 64 และขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการฯ ที่ท่านประธานอยู่ รวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณียิงเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผลการดำเนินการปฏิบัติการใจแผ่นดิน "ยอดดวงใจแก่งกระจาน" อย่างเป็นทางการและตรงไปตรงมาต่อสาธารณะ


โดยธัชพงศ์ระบุว่า สำหรับกรณีที่ชาวบ้านถูกแจ้งความเพิ่มนั้นต้องการให้ชะลอการส่งสำนวน จนกว่าคณะอนุกรรมการจะดำเนินการแก้ไขปัญหาและหาข้อยุติให้กับชาวบ้านบางกลอยได้ อีกทั้งยังกล่าวถึงกรณีที่เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกลอบยิงว่า จุดที่ถูกยิงนั้นห่างจากหมู่บ้านบางกลอย 30 กิโลเมตร และห่างจากเส้นแบ่งชายแดน 2 กิโลเมตร โดยขอยืนยันว่าบริเวณใจแผ่นดินบนนั้นไม่มีชาวบ้านอยู่แน่นอน ซึ่งไม่มีทางเป็นชาวบ้านลงมือกระทำโดยเด็ดขาด อีกทั้งอาวุธที่ระบุว่าเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะยิงเฮลิคอปเตอร์ได้ จึงอยากให้ทางกระทรวงออกมาชี้แจง 


อย่างไรก็ดี ภาคีsaveบางกลอย พร้อมด้วยประชาชน ยังคงรวมตัวบริเวณหน้า กพร. ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมจับตาดูว่า ร.อ.ธรรมนัสจะมารับหนังสือด้วยตนเองหรือไม่ โดยระบุว่า หาก 16.00 น.ร้อยเอกธรรมนัสไม่ลงมารับหนังสือ จะปักหลักค้างคืนบริเวณ กพร. ต่อไป


จากนั้นตัวแทนกลุ่มภาคีsaveบางกลอย ยื่นหนังสือถึง ร.อ.ธรรมนัสฯ โดยมี นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับมอบ


ต่อมา เวลา 12.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับหนังสือจากทางกลุ่มภาคีฯ ด้วยตนเอง


โดย ร.อ.ธรรมนัส รับปากที่จะประสานงาน ให้ชะลอการดำเนินการสั่งฟ้องคดี รวมทั้งเร่งรัดให้มีการประชุมคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาฯ ต่อไป พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงให้กับ ภาคีsaveบางกลอย


ซึ่งธัชพงศ์ ได้กล่าวกับพี่น้องประชาชนว่าเราจะยังปักหลักรอจนกว่าจะได้เห็นหนังสือลงนามที่เป็นลายลักษณ์อักษรจาก ร.อ.ธรรมนัสบริเวณสำนักงาน กพ.ต่อไป โดยพี่น้องประชาชนราว 60 ยังคงปักหลักรอด้วย 


อย่างไรก็ตามขณะรอหนังสือที่ลงนามโดยรอ.ธรรมนัส นั้น "ชญาธนุส ศรทัตต์" หรือ เฌอเอม  ก็ได้กล่าวสปีชเรียกร้องให้เห็นความสำคัญของชาติพันธุ์ รวมถึงมีการแสดงสีดาลุยไฟจากกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก และกิจกรรมดนตรีจาก"เอ้ เดอะว๊อยซ์"  บริเวณ หน้ากพร.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์


ประมวลภาพ 









มายด์-ภัสราวลี ติดโควิด รีบแจงไทม์ไลน์ทันที!

 




มายด์-ภัสราวลี ติดโควิด รีบแจงไทม์ไลน์ทันที!

วันนี้ (25 พ.ค. 64) เวลาประมาณ 13.30 น. ที่เฟซบุ๊ก ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ น้องมายด์ เยาวชนผู้เคลื่อนไหวกลุ่มราษฎร ได้โพสต์แจ้งข่าวผลการตรวจโควิด-19 รอบสอง ซึ่งผลออกมาเป็นบวก โดยมายด์ได้โพสต์ข้อความว่า

มายด์ได้รับผลตรวจ Covid-19 แล้วนะคะ ผลออกมาว่ามายด์ได้รับเชื้อ เนื่องจากตอนแรกมายด์อยู่ในกลุ่มความเสี่ยง ทันทีที่ทราบก็เริ่มกักตัว  จึงขอชี้แจงไทม์ไลน์ดังนี้ค่ะ

7/5/64 - ได้รับความเสี่ยงแต่ยังไม่ทราบ
8/5/64 - อยู่ที่พัก
9/5/64 - อยู่ที่พัก
10/5/64 - ไปปราศรัยที่สกายวอล์ก
11/5/64 - อยู่ที่พัก (ทราบว่าเพื่อนติดโควิดตอนค่ำ)
12/5/64 - กักตัวอยู่ที่พัก
13/5/64 - ไปตรวจโควิดรอบแรก ผลเป็นลบ
             - ไปตามนัดอัยการที่อัยการกรุงเทพใต้
                *แจ้งให้อัยการทราบแล้วว่ามีความเสี่ยงและต้องกักตัว
14-21/5/64 - กักตัวอยู่ที่พัก ครบ 14 วัน
22/5/64 ไปตรวจโควิดรอบ 2
23/5/64 - กักตัวอยู่ที่พัก
24/5/64 - กักตัวอยู่ที่พัก ทราบผลการตรวจรอบ 2 ผลเป็นบวก
25/5/64 - เข้ารับการรักษา

#COVID19 #โควิด19
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ปัญญาชนไทยรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ครบ 2 เดือน"ยืน หยุดขัง" หน้าศาลอาญา ในวันครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร ย้ำจะยืนจนกว่าเพื่อนจะได้รับประกันตัวทุกคน

 


ครบ 2 เดือน"ยืน หยุดขัง" หน้าศาลอาญา ในวันครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร ย้ำจะยืนจนกว่าเพื่อนจะได้รับประกันตัวทุกคน


วันนี้ (22 พ.ค. 64) เวลา 17.30 น. ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ ซึ่งเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 53 และนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน โดยบริเวณแห่งนี้ถูกขนานนามใหม่ว่า "ลานอากง" เนื่องจากร่วมกันทำพิธีเชิงสัญลักษณ์ เพื่อรำลึกถึงนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ผู้ต้องโทษคดี 112 ในวาระครบรอบการเสียชีวิต 9 ปี เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา 


สำหรับวันนี้ มีผู้ร่วมกิจกรรมในบริเวณที่กำหนด จำนวน 20 คนโดยยืนถือป้ายภาพและข้อความ อาทิ "หยุดจับคนเห็นต่างเข้าคุก หยุดจับผู้บริสุทธิ์ยัดข้อหา" "คืนสิทธิ์ประกันตัว" "ตราชูต้องชูเพื่อมวลชน" เพื่อเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวแก่นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเหลืออีก 3 ราย ได้แก่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายอานนท์ นำภา, นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน


นายพันธ์ศักดิ์ ได้กล่าวว่าจะเข้ารายงานตัวตามหมายเรียกของ สน.ชนะสงคราม โดยหมายเรียกที่ทางกลุ่มได้รวบรวมมาจะมีด้วยกัน 2 ลักษณะ คือหมายเรียกที่ระบุชื่อตนเองกับพวกรวมทั้งหมด 12 คน จากกรณีการจัดกิจกรรมยืนหยุดขังเมื่อวันที่ 18-19 เม.ย. โดยแจ้งว่าได้ร่วมกันจัดกิจกรรมที่ฝ่าฝืนประกาศของกรุงเทพมหานคร เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้สมาชิกอีกหลายคนยังได้รับเป็นหมายส่วนตัวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปรายงานตัวที่ สน.ชนะสงคราม ในวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 10.00 น.


กระทั่งเวลา 18.42 น. ครบกำหนด 1 ชั่วโมง 12 นาที ยุติกิจกรรม 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #7ปีรัฐประหาร #คืนสิทธิประกันตัวให้ประชาชน


#ยืนหยุดขังday60

#ครบ2เดือนยืนหยุดขัง

#ครบ7ปีรัฐประหาร


ประมวลภาพกิจกรรม









วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ศาลอาญานัดไต่สวนประกันตัวอานนท์ นำภา - ไมค์ ภาณุพงศ์ วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น. พร้อมกับจัสติน ชูเกียรติ

 


ศาลอาญานัดไต่สวนประกันตัวอานนท์ นำภา - ไมค์ ภาณุพงศ์ วันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น. พร้อมกับจัสติน ชูเกียรติ 


วันนี้ (21 พ.ค. 64) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เวลา 11.00 น. ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว "ทนายอานนท์" และ "ไมค์" ภาณุพงศ์ จาดนอก โดยวางเงินสดจำนวน 2 แสนบาทเป็นประกัน สนับสนุนโดยกองทุนราษฎรประสงค์ 


ต่อมา เวลา 14.25 น. ศาลอาญามีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวทนายอานน์และไมค์-ภาณุพงศ์ คดี #19กันยาทวงอํานาจคืนราษฎร ในวันที่ 1 มิ.ย. 2564 เวลา 10.30 น. 


มุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ เป็นผู้ลงนามคำสั่ง

.

สำหรับทนายอานนท์ นำภา และนาย ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ได้ติดเชื้อโควิค-19 จากในเรือนจำ โดยขณะนี้นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แจ้งว่า ทนายอานนท์ได้ย้ายกลับมารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว ส่วนไมค์-ภาณุพงศ์ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #โควิดในเรือนจำ #COVID19 #โควิด19 #คืนสิทธิประกันตัวให้ประชาชน

สมยศ พร้อมอดีตผู้ต้องขังคดีการเมือง ยื่นหนังสือถึง "สมศักดิ์ เทพสุทิน" เร่งแก้ปัญหาและชี้แจงข้อเท็จจริงโควิด-19ในเรือนจำ หยุดบิดเบือนข้อมูล พร้อมเสนอข้อแนะนำจากประสบการณ์ตรง

 


สมยศ พร้อมอดีตผู้ต้องขังคดีการเมือง ยื่นหนังสือถึง "สมศักดิ์ เทพสุทิน" เร่งแก้ปัญหาและชี้แจงข้อเท็จจริงโควิด-19ในเรือนจำ หยุดบิดเบือนข้อมูล พร้อมเสนอข้อแนะนำจากประสบการณ์ตรง 


วันนี้ (21 พ.ค. 64) เวลา 11.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย พร้อมด้วย นายเอกชัย หงส์กังวาน นางสาววรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา  นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า นางสาวณัฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน ตัวแทนกลุ่มราษฎรที่เคยถูกดำเนินคดีในคดีการชุมนุมทางการเมือง แล้วถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำธัญบุรี และทัณฑสถานหญิงกลาง เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กรณีให้กระทรวงยุติธรรมเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น รวมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดในเรือนจำ 


ด้านนายเอกชัย ได้เรียกร้องให้ กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ต้องเปิดเผยความจริงและรายละเอียดการแพร่ระบาด จัดทำศูนย์ข้อมูลสื่อสารกลางแบบวันต่อวัน และเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตหากมีการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดจริง


ขณะที่นายสมยศ กล่าวว่าตามที่  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงยุติธรรม ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าสาเหตุการแพร่ระบาดในเรือนจำ มีผู้ต้องหากลุ่มราษฎรบางคนไม่ให้ความความร่วมมือในการตรวจร่างกายตอนแรกรับในช่วงกักตัว เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่เป็นความจริง ผู้ต้องหาทุกคนยินดีให้ตรวจร่างกาย เพียงแต่ไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พยายามมานำตัวไปตรวจในยามวิกาล 


พร้อมทั้งได้กล่าวถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์เคยระบุว่านายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และนายอานนทท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎรนั้น ติดเชื้อจากภายนอกก่อนถูกควบคุมตัวเจ้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 


และกรมราชทัณฑ์ปฏิเสธว่า นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ไม่ได้ติดเชื้อในเรือนจำ


อีกทั้งอดีตผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองที่มาร้องเรียนในวันนี้ ได้เผยว่า ตัวอย่างเหตุการณ์ทั้งหมดที่นำมาชี้แจงทำให้เห็นว่ามีการบิดเบือนข้อมูล และปิดบังข้อเท็จจริงการแพร่ระบาดเชื้อในเรือนจำ ที่มีมานาน แต่ทางกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมกลับไม่นำเสนอข้อเท็จจริง เพื่อให้ผู้ต้องขังระวังตัว จนเกิดการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ 


พร้อมทั้งได้บอกเล่าจากประสบการณ์ที่เคยถูกคุมขัง และรับทราบข้อมูลจากผู้ต้องขังในคดีการเมืองด้วยกัน พบว่าในเรือนจำสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการรักษาผู้ป่วย เนื่องจากยังมีความแออัด รวมทั้งสิ่งของอุปกรณ์จำเป็นในเรือนจำก็ไม่เพียงพอให้กับผู้ต้องขัง เช่น หน้ากากอนามัยที่ต้องใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก


จึงมาชี้แจงความเป็นจริง เพื่อแก้ปัญหา จากประสบการณ์ที่เคยทำคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยมีข้อเสนอแนะ 10 ข้อ ดังนี้คือ


1. อยากให้กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ยอมรับความจริง และเปิดเผยข้อมูลการแพร่ระบาดอย่างตรงไปตรงมา หากไม่มีข่าวว่ามีแกนนำกลุ่มราษฎรติดเชื้อ สาธารณชนก็จะไม่มีวันทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเรือนจำ


2. การคาดโทษเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ไม่สามารถควบคุมการแพทยระบาดในเรือนจำได้นั้นถือว่าไม่มีความเป็นธรรม เพราะเจ้าหน้าที่ต่างทำงานอย่างยากลำบากและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงควรได้รับเบี้ยเบี้ยงค่าตอบแทนให้คุ้มค่ากับการปฎิบัติหน้าที่


3. ควรจ่ายเงินชดเชยเยียวยาผู้ติดเชื้อในเรือนจำ โดยคำนวณตามอัตราประกันภัยทั่วไปจากการโควิด-19 เพราะมาจากความบกพร่องและได้ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของหน่วยงานรัฐ


4. ให้เปิดเผยความจริงและรายละเอียดการแพร่ระบาดในเรือนจำให้ญาติผู้ต้องขัง และสาธารณชนรับทราบ รวมทั้งจัดให้มีการอำนวยความสะดวกเพิ่มช่องทางเยี่ยมญาติทางออนไลน์ให้มากขึ้น


5. จัดหาวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่และนักโทษโดยเร็ว


6. ประสานงานให้ศาลยุติธรรมให้ประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาทุกรายแทนการสั่งคุมขัง หลีกเลี่ยงการขอฝากขังของพนักงานสอบสวน


7. จัดสวัสดิการพื้นฐานสำหรับผู้ถูกกักกันโรค เช่น การแจกหน้ากากอนามัยเจลล้างมือให้เพียงพอ และปรับปรุงคุณภาพอาหาร รวมทั้งจัดผ้าอนามัยให้กับผู้ต้องขังหญิงที่ถูกกักกันโรคที่ยังขาดแคลน


8. กรณีผู้ต้องขังที่ติดเชื้อที่รักษาอยู่ในห้องขังให้ส่งตัวไปรักษายังสถานพยาบาลอื่นเพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์


9. จัดการสาธารณูปโภคให้เพียงพอเช่น ไฟฟ้า น้ำประปา และผ้าห่ม


10. จัดยารักษาให้เพียงพอกับผู้ป่วยในเรือนจำ รวมทั้งอำนวยความสะดวกการปล่อยตัวนักโทษที่ติดเชื้อและติดตามผลหลังการปล่อยตัวไป


จากนั้น ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้รับหนังสือจากนายสมยศ และแนวร่วมกลุ่มราษฎร อดีตผู้ต้องขังคดีการเมือง


โดยเลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพยายามแก้ปัญหาปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาด และปัญหาความแออัดในเรือนจำ พร้อมจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอไปทางรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมได้ดูภาพรวมผู้ต้องขังในคดีอื่น ๆ ด้วย พร้อมทั้งกล่าวว่า ทางกรมราชทัณฑ์ถือว่าเป็นปลายน้ำในการรองรับและดูแลผู้ต้องขัง ย่อมต้องมีข้อบกพร่องในบางเรื่องบ้าง พร้อมย้ำว่าการแก้ปัญหาต้องใช้เวลา และที่สำคัญคืองบประมาณการสนับสนุน ซึ่งจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป


อย่างไรก็ตาม ประเด็นของรุ้ง ปนัสยากับกรมราชทัณฑ์ ที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน กรณีการติดเชื้อโควิด-19 ว่าติดจากเรือนจำจริงหรือไม่ ขณะนี้ทางกระทรวงได้ดำเนินการสืบสวนหาความจริงต่อไป


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #โควิดในเรือนจำ #ราษฎร #COVID19 #โควิด19


ประมวลภาพ