วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ข้อสังเกตกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ ตอน 2 ประเด็น "ความชอบธรรม"

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : เมื่อปัญญาคนรุ่นใหม่...ไม่หลงทาง!!!


ยูดีดีนิวส์ : 25 ก.พ. 63 ช่วงบ่ายวันนี้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้โพสต์บทความล่าสุดเรื่อง "เมื่อปัญญาชนรุ่นใหม่ไม่หลงทาง" ซึ่ง อ.ธิดา ได้เขียนถึงอดีตปัญญาชนไทย โดยเฉพาะรุ่น 14 ตุลา 16 ที่ส่วนใหญ่หันไปสนับสนุนการทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว

ปัญญาชนคนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา่ทั่วประเทศที่เคลื่อนไหวแสดงออกภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่นั้นเป็นสัญญาณที่ดีในการร่วมด้วยช่วยกันสร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยอย่างอารยประเทศ โดยเนื้อหาบทความดังกล่าวมีความว่า...

เมื่อปัญญาชนรุ่นใหม่ไม่หลงทาง!!!

ที่ผ่านมาเป็นเวลากว่าทศวรรษที่ปัญญาชนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรุ่น 14 ตุลา 16 หันไปสนับสนุนขบวนการกองเชียร์รัฐประหาร คมช. 2549 มาจนถึง คสช. 2557 ต่อต้านขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยและความเท่าเทียม พูดง่าย ๆ คือปัญญาชนรุ่น 14 ตุลา 16 จำนวนมากที่เป็นอดีตแกนนำกลายเป็นฝ่ายหนุนอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม ซึ่งไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว ซ้ายเก่าหลายคนก็เช่นกัน ตลอดจนแกนนำ NGO จำนวนมาก สร้างความสับสนให้กับสังคมไทยและสังคมโลก ที่มีความเชื่อถือปัญญาชนและ NGO ว่าเป็นฝ่ายเสรีนิยมและเป็นเสรีประชาธิปไตย แต่เมื่อปัญญาชนเหล่านี้กลับอยู่ฝ่ายตรงข้าม จึงทำให้การเมืองไทยและการต่อสู้ของประชาชนประสบความยากลำบาก ที่ปัญญาชน ชนชั้นกลางไทย กลายเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยแลลอารยประเทศ

มีการสร้างวาทกรรมทางการเมืองที่เป็นวาจาแห่งความเกลียดชังมากมายที่เป็นการใส่ร้ายโดยไม่สนใจการทำความจริงให้ปรากฏ และปฏิเสธที่จะค้นหาความจริง และถือว่าขบวนการสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นสมุนบริวารทุนสามานย์

มาบัดนี้ การเคลื่อนไหวของปัญญาชนต่อกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ที่แพร่สะพัดไปตามมหาวิทยาลัย บ่งชี้ว่าปัญญาชนเหล่านี้เป็นอิสระจากการครอบงำความคิดของผู้หลงผิดเดือนตุลา และโชคดีที่นักวิชาการประชาธิปไตยและปัญญาชนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งคน 6 ตุลา ยังอยู่กับขบวนประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด รวมทั้งจิตวิญญาณต่อสู้ของนักประชาธิปไตยรุ่นใหม่ ได้กระจายตัวไปยังสำนักศึกษาต่าง ๆ

นี่เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะมวลชนพื้นฐานได้ต่อสู้มากว่า 12 ปีแล้ว เขาบาดเจ็บ ล้มตาย ถูกจับกุมคุมขังเป็นจำนวนมาก แกนนำทั้งหลายก็ล้วนถูกดำเนินคดี เข้า-ออก คุกกัน และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

เมื่อเรามีปัญญาชน ชนชั้นกลาง คนรุ่นใหม่ มาเป็นกำลังสำคัญของขบวนการต่อสู้ นี่ถือว่าขบวนการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านการสืบทอดอำนาจ (ของฝ่ายอำนาจนิยม อนุรักษ์นิยม) กำลังเข้มแข็ง เติบใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญ!!!

พี่น้องประชาชนไทยผู้รักประชาธิปไตยและรักความยุติธรรมย่อมยินดีเป็นอย่างยิ่ง และต้อนรับคนรุ่นใหม่เหล่านี้ที่จะร่วมช่วยกันสร้างประเทศไทยที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนไทยอย่างแท้จริง

ธิดา ถาวรเศรษฐ
25 ก.พ. 63

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ข้อสังเกตกรณี "ยุบพรรคอนาคตใหม่"

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : การยุบพรรคกับวงจรอุบาทว์การเมืองไทย

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

บทความ อ.ธิดา ต่อกรณี ผบ.ทบ. รับผิดชอบโดยหลั่งน้ำตาขอโทษ!!!


บทความล่าสุดของ อ.ธิดา ต่อกรณี ผบ.ทบ. รับผิดชอบโดยหลั่งน้ำตาขอโทษ!!!

***ที่ร้องไห้นั้น...เล่นละครชัด ๆ***

จากคำแถลงของ ผบ.ทบ. ที่กล่าว “ขอโทษ” ต่อโศกนาฏกรรมโคราช ไม่สามารถตอบคำถามของประชาชนไทยและสังคมโลกได้ ที่ทหารประจำการ 1 คนสร้างปัญหา เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ โดยใช้อาวุธของกองทัพกราดยิงประชาชนเสียชีวิต 29 ราย บาดเจ็บกว่า 50 ราย และคู่กรณีเบื้องค้นก็เป็นนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา เป็นทหารประจำการ

คำถามจากประชาชน คือ กองทัพจะรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และรับผิดชอบที่จะไม่ให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไร? จะปรับรื้อโครงสร้าง วิธีคิด วิธีทำงานใหม่ทั้งหมดหรือไม่?

นี่เป็นเรื่องหลักการและระบบของกองทัพในระบอบประชาธิปไตย

ไม่ใช่เรื่องบุคคล "ดี" หรือ "ไม่ดี"

ผบ.ทบ. จะอ้างว่าตนเป็นแบบอย่างที่ดีและพยายามคัดคนดี แต่ดูแลไม่ทั่วถึง เพราะมีคนนับแสนคน ผู้บริหารองค์กรสำคัญจะคิดเช่นนี้ไม่ได้ ตัวบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ยิ่งกว่านั้นคือ การมีระบบและโครงสร้างที่ดีในการบริหาร, ตรวจสอบ, สร้างกำลังพลที่มีคุณภาพ และคุณธรรมของผู้ถืออาวุธที่ได้รับมอบอำนาจจากประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ เจ้าของอำนาจ ไม่ใช่ถืออำนาจที่มีอาวุธมาข่มขู่ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน

ปัญหาสำคัญของชนชั้นนำจารีตนิยม อำนาจนิยมอย่างหนึ่งคือ การอ้างคำว่า “คนดี” สมมุติว่า ผบ.ทบ. เป็นคนดี ถามว่าคุณจะทำให้กองทัพ 2 แสนกว่าคนเป็นกำลังพลที่เป็นคนดีทั้งหมดได้หรือไม่? ก็ตอบได้ว่าเป็นไปไม่ได้! แล้วเมื่อพวกเขาเป็นผู้ถืออาวุธร้ายแรง...แล้วเป็นยังไง? ทหารคลั่งคนเดียว ฆ่าคนถึง 29 คน บาดเจ็บกว่า 50 คน สร้างความหวาดกลัววิตกกังวลในสังคมไทยอย่างหนักหน่วง ขาดความเชื่อมั่นว่ากองทัพไทยจะเป็นกองทัพที่ปกป้องอธิปไตย ประเทศชาติ และดูแลความมั่นคงของประเทศ ของประชาชนได้จริง

จ่า 1 คน ยังฆ่าประชาชนได้เยอะแยะ!!!

ในระบอบประชาธิปไตยในอารยประเทศกองทัพจึงต้องขึ้นต่อรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย (จริง ๆ ไม่ใช่ปลอม ๆ) แต่โดยที่กลุ่มจารีตนิยม อำนาจนิยม ไม่สามารถอ้างคำพูดและความชอบธรรมใด ๆ ในการเข้ามายึดอำนาจ สืบทอดอำนาจ นอกจากคาถาว่า “พวกเขาเป็นคนดี” พวกมาจากการชนะเลือกตั้งที่แล้วมาล้วนเป็นคนไม่ดี ชนะเพราะนโยบายประชานิยม!

ถูกต้องที่เราควรให้คนดีเป็นผู้ปกครอง แต่คนดีนั้นควรถูกรับรองจากการตัดสินใจของประชาชน ไม่ใช่คนหยิบมือเดียวบอกว่า “เขาคือคนดี”

ผบ.ทบ. ไม่ต้องร้องไห้!!!

แค่ก้มหัวคำนับประชาชน แล้วบอกว่า ผมต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ขอเปิดโอกาสให้ผู้อื่นมาจัดการ สังคายนากองทัพไทยใหม่ ให้เป็นกองทัพของประชาชนไทย ประเทศไทย ที่มีความคิดทันสมัย มีระบบงานที่ดี สร้างกำลังพลที่มีประสิทธิภาพ มีขีดความสามารถที่ทัดเทียมในเวทีโลก ในฐานะทหารอาชีพจริง ๆ ไม่ใช่ทหารแบบเจ้านาย แบบพ่อค้าธุรกิจ

ตอนท้ายนี้ยิ่งหนัก นอกจากแสดงอำนาจในความสัมพันธ์เชิงอำนาจแบบขุนนางเก่าแก่แล้ว ยังกดประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์ โดยเทียบว่าสุนัขยังดีเสียกว่า

นี่แสดงว่าที่ร้องไห้นั้น เล่นละครชัด ๆ

ธิดา ถาวรเศรษฐ
13 ก.พ. 63

"ธิดา" เยี่ยมให้กำลังใจ "พายัพ-จ่าประสิทธิ์" ไม่ปล่อยให้โดดเดี่ยว

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ความคับแค้นใจ พฤติกรรมการเลียนแบบ และความชุ่ยของกองทัพไทย!!!

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

"ณัฐวุฒิ" และคณะน้อมรับคำตัดสินของศาล และยืนอยู่บนความจริง ลั่นเป็นห่วงสถานการณ์ประเทศขณะนี้

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : การก่อเกิดและชีวิตของขบวนการประชาชนทางการเมือง


ยูดีดีนิวส์ : 5 ก.พ. 63 บทความล่าสุดของ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ซึ่งได้โพสต์ในเฟสบุ๊คแฟนเพจบ่ายวันนี้ อ.ธิดา ให้สุภาษิตคำพังเพยเปรียบเปรย "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลา (และเรื่องราว) พิสูจน์คน" ว่าเป็นนักต่อสู้ประชาชน...จริงหรือไม่?  ความว่า

การก่อเกิดและชีวิตของขบวนการประชาชนทางการเมือง
โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อบรรลุภารกิจก็จะสลายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งมวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทย ซึ่งจะสลายตัวไปเมื่อมีการทำรัฐประหารสำเร็จ องค์กรจัดตั้งของมวลชนอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นเครื่องมือเบิกทางให้กับการทำรัฐประการก็ถือว่าบรรลุภาระหน้าที่ก็สลายตัวไป แต่ถ้ายังทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลต่อก็อาจถูกจัดการโดยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้

ฝ่ายมวลชนที่ต่อต้านขบวนการจารีตนิยมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต่อต้านการทำรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่แล้วมาในอดีตจะเป็นขบวนการ 14 ตุลาคม 2516 หรือ พฤษภา 2535 ก็มีอายุไม่นาน แม้จะประสบความสำเร็จในการขับไล่เผด็จการทหารบางช่วงเวลา มักมีปัญหาความขัดแย้งและหรือถูกทำให้สลายตัวไป

ตรงข้ามกับการก่อเกิด นปช. ขบวนการประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการของคนเสื้อแดงที่ต่อสู้มายาวนานตั้งแต่ 2549 จนปัจจุบัน 2563 มีความสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ ถูกจับกุมคุมขัง คดีความมีทุกประเภท ตั้งแต่หมิ่นประมาทไปจนถึงผู้ก่อการร้าย โทษจำคุกส่วนใหญ่ก็หนัก แม้จะเป็นข้อหาหมิ่นประมาทก็ตาม เมื่อพูดถึงคนในองค์กรนปช. ก็หมายถึงองค์กรสันติวิธีที่ไม่มีกองกำลังอาวุธ ไม่มีการยึดสถานที่ราชการ หรือยึดทำลายร้านค้า, ตึกรามบ้านช่อง ไม่ใช่ขบวนการเผาบ้านเผาเมืองและล้มเจ้าแต่ประการใด แต่การใส่ร้ายป้ายสี โจมตีด้วยความเท็จและมุ่งทำลายล้างจากฝ่ายจารีตนิยม เผด็จการทหาร ยังดำรงอยู่ สืบทอดมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาอำนาจเผด็จการทหารและชนชั้นนำจารีตนิยม

คำถามคือขณะนี้สถานการณ์ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและนปช. เป็นอย่างไร?

ดิฉันคิดว่าสถานการณ์ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและต่อต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร ขยายตัว และมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งในส่วนพรรคการเมืองและประชาชนทั่วไป ในขณะที่แกนนำนปช.เดิม ก็ต้องสาละวนกับการต่อสู้คดี ทั้งทางอาญา, แพ่ง และเข้าคุกเป็นส่วนใหญ่ เราก็มีคนใหม่ ๆ แกนนำใหม่ ๆ พรรคการเมืองใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยภาพรวมดิฉันคิดว่าดีกว่าเมื่อก่อนนี้ แม้จะไม่มีการชุมนุมขนาดใหญ่ดังยุคก่อนก็ตาม เพราะเป็นต้นไม้ที่ผลัดใบเก่า ผลิตใบใหม่ แตกกิ่งก้านสาขามากขึ้น ไม่ใช่พุ่งชะลูดเป็นไผ่ลำเดียว แต่เป็นการแตกกอ ขยายตัว ด้านหนึ่งอาจคิดว่าไม่มีความเป็นเอกภาพ แต่ดิฉันพิจารณาว่าตราบเท่าที่ฝ่ายปฏิปักษ์อำนาจประชาชนเป็นหนึ่งเดียวชัดเจน การต่อสู้ของประชาชนก็จะมีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ใหญ่ร่วมกัน นี่คือเอกภาพในเป้าหมายปัจจุบัน จังหวะก้าวในการต่อสู้น่าจะไม่ยากในการทำความเข้าใจ และปฏิบัติได้อย่างเป็นเอกภาพ และยังต้องใช้หลักแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตน, กลุ่มตน เหนือกว่าผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
ส่วนแกนนำนปช. เดิม ๆ ส่วนมากก็เวียนกันเข้าคุกและต่อสู้คดียาวนานนับสิบ ๆ ปี ขาและแขนก็ถูกพันธนาการโดยโซ่ตรวนทางกฎหมาย (ที่ประชาชนไม่ได้เขียนและไม่ได้ใช้อำนาจ) และบ้างก็ไปสังกัดพรรคการเมืองต่าง ๆ กัน ทั้งที่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยและพรรคฝ่ายเผด็จการ ถ้ายึดผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก หวังผลตอบแทนจนได้เข้าอยู่เป็นอำนาจรัฐ ภาวะนักต่อสู้ก็จะหมดไป บางคนไม่หมดก็จริง แต่ภาวะนักต่อสู้หรือนำการต่อสู้จะจางไปเรื่อย ๆ
นี่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลา (และเรื่องราว) พิสูจน์คน ว่าเป็นนักต่อสู้ประชาชนจริงหรือไม่ แต่ไม่ต้องวิตกไป เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ การต่อสู้ของประชาชนที่ก้าวหน้านั้นมีชีวิต ไม่ได้หยุดนิ่ง ยึดติดกับบุคคลหรือองค์กรใด ๆ

นี่เป็น 13 ปีของการต่อต้านเผด็จการที่ยาวนานกว่าการต่อสู้ของขบวนการประชาชนใด ๆ ที่เคยมีมาในอดีต เมื่อภารกิจยังไม่บรรลุ การต่อสู้ของประชาชนก็จะขับเคลื่อนต่อไป

ธิดา ถาวรเศรษฐ
5 ก.พ. 63

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ธิดา ถาวรเศรษฐ : ไม่ไว้วางใจ "นายกฯและรมต." ในปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม