วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

บ้านโป่งไม่ทน! เดินเท้าเข้ากรุง "เดินไล่ลุงออกไปฉลองชัย เด็กเลี้ยงแกะตกกระป๋อง"

 


บ้านโป่งไม่ทน! เดินเท้าเข้ากรุง "เดินไล่ลุงออกไปฉลองชัย เด็กเลี้ยงแกะตกกระป๋อง"


เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. "กลุ่มบ้านโป่ง ไม่อินเผด็จการ" เดินเท้าจากหอนาฬิกาบ้านโป่งเมื่อวานนี้ (30 ก.ค. 65) ถึงหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายใต้ชื่อกิจกรรม "เดินไล่ลุงออกไปฉลองชัย เด็กเลี้ยงแกะตกกระป๋อง" ระยะทางรวม 74 กม.


ด้านสมาชิกของกลุ่มฯ ที่ร่วมเดินเท้ามาเปิดเผยว่า ทุกอย่างเลอะเทอะเกินไป อะไรนิดหน่อยก็หาข้ออ้างเพื่อใช้กฎหมายเล่นงานคนที่เห็นต่าง จึงถามว่าการรวมตัวกันเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่มีการห้ามใส่เสื้อสีดำ เหมาะแล้วหรือที่จะดำเนินคดีด้วยข้อหาอะไร


สำหรับวันนี้รู้สึกว่าเป็นการแสดงออกที่ดี อะไรก็ได้ที่ทำเพื่อที่จะส่งเสียงไปให้ผู้คนส่วนมากที่เขาอาจจะเพิกเฉยหรือไม่รู้ว่า ณ ปัจจุบันมีผู้ต้องขังทางการเมืองอย่างน้อย 31 คน ที่ไม่ได้รับการประกันตัว และในวันพรุ่งนี้ (01 ก.ค. 65) อยากเชิญชวนให้ติดตามว่า "ไบรท์ ชินวัตร" จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ยกเลิก112 #คืนสิทธิประกันตัว









ดุริยางค์กระชับมิตร กรุงเทพ-โคราช สุดคึกคัก ผู้ว่าฯกทม.ขอบคุณผู้ว่าฯโคราช ร่วมสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ถือเป็นมิติใหม่ความร่วมมือระหว่างจังหวัด ด้านผู้ว่าฯโคราช ขอบคุณผู้ว่าฯและทีมงานกทม.ให้โอกาสน้อง ๆ ต่างจังหวัดมาแสดง เชื่อประชาชนมีความสุข และประทับใจ

 


ดุริยางค์กระชับมิตร กรุงเทพ-โคราช สุดคึกคัก ผู้ว่าฯกทม.ขอบคุณผู้ว่าฯโคราช ร่วมสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ถือเป็นมิติใหม่ความร่วมมือระหว่างจังหวัด ด้านผู้ว่าฯโคราช ขอบคุณผู้ว่าฯและทีมงานกทม.ให้โอกาสน้อง ๆ ต่างจังหวัดมาแสดง เชื่อประชาชนมีความสุข และประทับใจ


วันนี้ (31 ก.ค. 65) ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก เขตบางกะปิ ตามที่กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม #วงดุริยางค์กระชับมิตร กรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยวงดุริยางค์จาก 4 โรงเรียนที่เข้าร่วม ได้แก่ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม และโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต จากกรุงเทพฯ โรงเรียนสุรนารีวิทยา และโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จากจังหวัดนครราชสีมา


สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมงานในวันนี้ จะต้องแสดงผลการตรวจ ATK ไม่เกินกว่า 48 ชั่วโมง และสำหรับผู้ที่ไม่มีผลการตรวจมาแสดง จะมีหน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 35 หัวหมาก สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร บริการตรวจ ATK ฟรีให้กับทุกคน ซึ่งตั้งจุดตรวจบริเวณด้านนอกทางเข้างาน 


เวลา 12.30 น. เริ่มเปิดประตูให้ผู้ชมเข้าไปยังภายในสนามกีฬา


ต่อมาเวลา 13.20 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมาถึงบริเวณงาน และไปยังสแตนเชียร์ฝั่งจ.นครราชสีมา โบกไม้โบกมือทักทายรอบสนาม


จากนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.เดินทางมาถึงและเดินไปที่แตนเชียร์ฝั่งกทม. โดยหันทักทายรอบสนาม ซึ่งมีเด็กนักเรียนอีกทั้งประชาชนผู้ร่วมงานต่างขอชนหมัดและถ่ายรูปอย่างคึกคัก


ทั้งนี้ นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ แสนดี บุตรชาย ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมชมดุริยางค์กระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย


เวลา 13.45 น.เริ่มงานด้วยการแสดงจากโรงเรียนมัธยมใน กทม. รวมทั้งการแสดงกลองยาว


จากนั้น นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเปิดงาน พร้อมได้จับมือและกล่าวขอบคุณ นายวิเชียร ผู้ว่าฯโคราช ที่ร่วมสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ความร่วมมือระหว่างจังหวัด 


ในเวลาต่อมา 14.30 น. เริ่มต้นการแสดงด้วยวงดุริยางค์จากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ได้ทำการบรรเลงบทเพลง อาทิ เพลงผ่านพิภพลีลา, Mont blanc, เพลงกรุงเทพมหานคร ของศิลปิน อัสนี-วสันต์ โชติกุล โดยผู้ชมบนสแตนด์ต่างร่วมส่งเสียงร้องไปด้วย, เพลงมาร์ชสเปน ตามลำดับ


โดยวงโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ได้บรรเลงปิดท้ายด้วยเพลงมหาชัยและเพลงมาร์ชสุทธิวราราม โดยมีการอัญเชิญคฑาครุฑพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2511 มายังสนามด้วย ซึ่งโรงเรียนวัดสุทธิเป็นโรงเรียนแรกและโรงเรียนเดียวที่ได้รับ


จากนั้น วง Suranaree girl wind symphony จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา ได้ลงสู่สนาม และบรรเลงเพลงแรกด้วยเพลงมาร์ชสุรนารี ตามด้วย The Sleepless Night ซึ่งประพันธ์โดย อ.จิณณวัตร มั่นทรัพย์ ภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเพลง Colors of the wind และปิดท้ายด้วยเพลงกราบเท้าย่าโมของศิลปิน สุนารี ราชสีมา พร้อมจินตลีลาประกอบเพลง


ตามด้วยการแสดงของโรงเรียนที่ 3 วงโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต กรุงเทพฯ โดยทำการแสดงด้วยเพลงโหมโรง หรือโอเวอร์เจอร์ อาทิ เพลงพระนครโอเวอร์เจอร์ และเพลงจังหวะชีวิตลิขิตฝัน เป็นต้น โดยช่วงท้ายการแสดงนักดนตรีได้ลุกออกมายืนเป็นวงกลม หันหน้าเข้าหาผู้ชมบนสแตนด์ ทำการการโซโล่แซกโซโฟนทีละคน รวมทั้งมีการวางเครื่องดนตรีลงพร้อมทั้งโบกมือในผู้ชม


ทั้งนี้ วาทยากรจากโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต กล่าวว่า เนื่องจากวงที่เห็นอยู่ข้างหน้าไม่ใช่วงวชิรธรรมสาธิตร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ร่วมกับวงดุริยางค์เครื่องลมเยาวชนไทย เพราะฉะนั้นเพลงในบางส่วนเราเลือกเพลงที่เยาวชนวงดุริยางค์เครื่องลมเยาวชนไทยเล่นได้อยู่แล้ว และส่วนใหญ่เป็นลักษณะโหมโรงทั้งหมด ซึ่งจะสังเกตว่าเพลงทั้ง 2 มีความคึกคัก อ่อนหวานในตัวและไม่ยาวจนเกินไปเพราะไม่อยากให้ผู้ชมรู้สึกไม่ได้อรรถรส หรือความเบื่อนั้นเอง จึงมีเพลง Flight of the Piasa เพลงพระนครโอเวอร์เจอร์ และปิดท้ายเพลงจังหวะชีวิตลิขิตฝัน


ปิดท้ายด้วยวงที่ 4 จากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา ซึ่งทำการแสดงแบบมาร์ชชิ่งแบนด์ โดยเพลงแรกคือเพลงมาร์ชราชสีมาวิทยาลัย ต่อด้วยเพลงศรัทธา ของศิลปินวงหิน เหล็ก ไฟ ซึ่งผู้ชมบนสแตนด์ต่างเปิดแฟลชโทรศัพท์และโบกตามจังหวะเพลงรอบอินดอร์สเตเดียม


จากนั้นครูผู้ฝึกสอนวงราชสีมาวิทยาลัยได้ร่วมร้องเพลงมาร์ชราชสีมา ซึ่งเป็นเพลงประจำจังหวัดนครราชสีมา ทำให้ผู้ชมบนสแตนด์ฝั่งนครราชสีมาร่วมร้องตามกระหึ่ม


ต่อมาปิดท้ายด้วยการแสดง"ราชสีมาวาร์ไรตี้ " โดยเล่นเมดเลย์เพลงลูกทุ่ง ซึ่งเชิญชวนผู้ชมบนสแตนด์ลงไปร่วมสนุก ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และนายแสนปิติ บุตรชาย ได้ลงไปร่วมในสนามด้วย สร้างบรรยากาศคึกคักมากมาย


เมื่อทำการแสดงครบทั้ง 4 วง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกทม. ได้มอบถ้วยรางวัล พร้อมเหรียญรางวัล และใบประกาศเกียรติคุณ ให้กับผู้อำนวยการ คณะครูและตัวแทนนักเรียนทั้ง 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนสุรนารี, โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย, โรงเรียนวัดสุทธิวราราม และโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต 


จากนั้นผู้ว่าฯ กทม. มอบของที่ระลึกให้กับ ดร.นิพัทธ์ กาญจนะหุต หัวหน้าภาควิชาดนตรี คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ผศ.เผ่าพันธ์ อำนาจธรรม คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งในวันนี้ทำหน้าที่เป็นผู้แสดงความคิดเห็นร่วมถึงข้อเสนอแนะสำหรับการแสดงทั้ง 4 วง


ในเวลาต่อมา นายชัชชาติ ผู้ว่าฯกทม. มอบของที่ระลึกแก่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะรูปเสาชิงช้าและต้นไทรน้อยใบแหลม

.

และนายวิเชียร ได้มอบหุ่นจำลองท้าวสุรนารีพร้อมของที่ระลึก แก่นายชัชชาติ 

.

จากนั้นผู้ว่าฯ และทีมผู้บริหารทั้ง 2 จังหวัด รวมทั้งผู้อำนวยการและคณะครูจากทั้ง 4 โรงเรียน ถ่ายรูปร่วมกัน 


โดยภายหลังเสร็จกิจกรรม นายชัชชาติ ได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าฯ จังหวัดนครราชสีมา ที่ทำให้วันนี้สำเร็จ โดยมีดนตรีเป็นจุดร่วม พร้อมชื่นชมนักเรียนจากจังหวัดนครราชสีมาเก่งมาก แสดงได้อย่างประทับใจ กองเชียร์ก็เช่นเดียวกันแรงไม่มีตกเลย “ถ้ามีโอกาสคงไปเยี่ยมโคราช” นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย


จากนั้นนายวิเชียร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในนามพี่น้องชาวนครราชสีมา ในนามน้อง ๆ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรนารีวิทยา ขอขอบพระคุณผู้ว่าฯ ชัชชาติ คณะทีมงาน กทม. และพี่น้องชาว กทม. ที่ให้โอกาสน้อง ๆ ต่างจังหวัดมาแสดงความสามารถให้พี่น้องชาว กทม. และทั่วประเทศได้ชม 


นายวิเชียรกล่าวต่อไปว่า คิดว่าทุกท่านที่ได้ชมคงจะมีความสุขและประทับใจกับการจัดงานครั้งนี้ของผู้ว่าฯ ชัชชาติ และพวกเรามีความยินดีเชิญผู้ว่าฯ และคณะของ กทม. ไปเยี่ยมจังหวัดนครราชสีมาด้วย” 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ดุริยางค์กระชับมิตร














บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับคณะวงดุริยางค์ทีมโคราช

 


บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับคณะวงดุริยางค์ทีมโคราช


ค่ำวานนี้ (30 ก.ค. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ พร้อมผู้บริหารสำนักการศึกษา ให้การต้อนรับคณะวงดุริยางค์ตัวแทนจังหวัดนครราชสีมา ในงานเลี้ยงต้อนรับคณะวงดุริยางค์ (Meeting) พร้อมร้องเพลงเต้นรำกับวงดนตรีกรุงเทพมหานครและคาราโอเกะอย่างสนุกสนานเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์














วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

"ทนายด่าง" เผย ทราบข่าววันนี้ อาการ"ใบปอ-บุ้ง"ทรุดหนักลงมาก ระบุช่วงวันหยุดทนายเยี่ยมไม่ได้ ชี้ ความยุติธรรมไม่มีวันหยุด ความตายก็เช่นกัน

 


"ทนายด่าง" เผย ทราบข่าววันนี้ อาการ"ใบปอ-บุ้ง"ทรุดหนักลงมาก ระบุช่วงวันหยุดทนายเยี่ยมไม่ได้ ชี้ ความยุติธรรมไม่มีวันหยุด ความตายก็เช่นกัน    


วันที่ 29 ก.ค. 65 ทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุถึงอาการของ "ใบปอ" ณัฐนิช และ "บุ้ง" เนติพร นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ความว่า


ผมรู้ว่า วันนี้อาการของน้องใบปอและบุ้งทรุดหนักลงมาก ผมทราบข่าวนี้จากผู้ที่มีเมตตาบางคนในเรือนจำหญิง 


ช่วงนี้ทนายความไม่ได้เข้าเยี่ยมเธอทั้งสองเพราะเป็นวันหยุด    


แต่สำหรับผมความยุติธรรมไม่มีวันหยุด ความตายก็เช่นกัน            


ที่จริงก็รู้มานานแล้วว่าเราไม่อาจหาความยุติธรรมจากคนชั่วร้ายและจากคนขี้ขลาดได้                                         


การขังน้องทั้งสองไว้ทั้งที่เธอยังเป็นผู้บริสุทธิอยู่เพียงถูกกล่าวหาในข้อหาที่เลื่อนลอยเท่านั้น ผมถือว่าเป็นการตบหน้าความยุติธรรมและความถูกต้องอย่างรุนแรง                


ผมขอให้หลักการที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อนที่จะมีคำพิพากษาว่าเขาผิดที่พร่ำสอนในโรงเรียนกฎหมายทั่วโลกนั้น จงไปลงนรกเสียเถิด                   

วันนี้ผมด่าตัวเองว่ามึงมันโง่ที่เชื่อในวิธีการที่ทำอยู่ทุกวันนี้   


ผมไม่เคยเรียนรู้ว่า ปืนนั้นมันใช้ฆ่าผู้บริสุทธิก็ได้ ใช้ประหารคนชั่วก็ได้ ปืนใช้ก่อรัฐประหารปราบปรามประชาชนก็ได้ และปืนก็ใช้ต่อสู้เพื่อเสรีภาพได้เช่นกัน                                


วันจันทร์หน้าถ้าไม่มีใบปอและผักบุ้ง             


ผมถือว่าผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะผมไปเชื่อถือในกระบวนการที่จอมปลอมตลอดมา


ขณะนี้ บุ้งและใบปอ ถูกคุมขังที่ ทัณฑสถานหญิงมา 88 วันแล้ว และอดอาหารประท้วงกระบวนการยุติธรรมมา 58 วัน ซึ่งล่าสุดบันทึกเยี่ยมที่ทนายได้เปิดเผยล่าสุดคือการเยี่ยมของวันที่ 27 ก.ค. 2565 บางส่วนระบุว่า "ใบปอ" ยังมีอาการเหนื่อยอ่อนและเพลียตลอด ขณะเธอยังกังวลถึงเทอมการศึกษาใหม่ที่กำลังจะมาถึง ว่าจะได้ออกไปเรียนหรือไม่ ด้าน "บุ้ง" แค่หายใจ ก็เจ็บที่หัวใจแล้ว 


โดยทั้งสอง “อยากให้พูดถึงนักโทษการเมืองทุกคน ทุกคดี ไม่ใช่แค่ 112 เราทุกคนควรได้ออกไปสู้คดี”


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ทะลุวัง #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

"ชัชชาติ" ตรวจสถานีสูบน้ำคลองบางซื่อ ขอเอกชนอย่าเพิ่งห่วงฮวงจุ้ย-ความสวยงาม ขวางกั้นน้ำพื้นที่ฟันหลอ ยันสถานการณ์น้ำเหนือยังอยู่ในเกณฑ์รับได้ ขออย่าโฟกัสเฉพาะแค่เรื่องอุโมงค์ แต่ต้องทำควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพคลอง ขอบคุณกรมราชทัณฑ์-ทหาร บอกเป็นมิติความร่วมมือที่ดี

 


"ชัชชาติ" ตรวจสถานีสูบน้ำคลองบางซื่อ ขอเอกชนอย่าเพิ่งห่วงฮวงจุ้ย-ความสวยงาม ขวางกั้นน้ำพื้นที่ฟันหลอ ยันสถานการณ์น้ำเหนือยังอยู่ในเกณฑ์รับได้  ขออย่าโฟกัสเฉพาะแค่เรื่องอุโมงค์ แต่ต้องทำควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพคลอง  ขอบคุณกรมราชทัณฑ์-ทหาร บอกเป็นมิติความร่วมมือที่ดี


วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 14.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำคลองบางซื่อ ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 


โดยนายชัชชาติ ระบุว่า จากการตรวจสอบระบบระบายน้ำ ทั้งระบบคลองและอุโมงค์ระบายน้ำ หัวใจ  คือคลองที่ กทม. ต้องระบาย 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ยุทธศาสตร์หลัก ๆ จึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพของคลอง


ทุกวันนี้คลองบางซื่อรับน้ำจาก 2 คลอง คือคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าว  ซึ่งมีปั๊มน้ำ 17 ตัว เราเปลี่ยนตัวใหม่เพียง 5 ตัว ที่เหลือมีอายุใช้มาแล้ว 15 ปี จากการจัดซื้อราคาตัวละ 4 ล้านบาท  หากปรับพวกนี้ จะช่วยการระบายน้ำได้ ดังนั้นตอนนี้ต้องไล่ทุกจุดให้ปั๊มทำงานได้ดี


ส่วนคลองบางซื่อ ไม่ได้ลอกคลองมาก 13 ปี ท้องคลองตื้น พร่องน้ำได้ไม่เต็มทึ่ จึงต้องเริ่มดำเนินการ  พร้อมทำเขื่อนไปด้วยให้เป็นลักษณะแก้มลิง หน้าอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งไม่ได้ใช้เงินเยอะเหมือนอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งจะเป็นแผนงบ ปี 65/66 และพยายามใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด ขออย่าไปโฟกัสเรื่องอุโมงค์มาก แต่ต้องทำควบคู่กัน ทั้งอุโมงค์และคลอง


นอกจากนี้ การเก็บขยะจากคลองบางซื่อพบว่าได้วันละ 3 ตัน หรือบางทีขยะเข้าไปในปั๊มน้ำทำให้เสียหาย จึงขอฝากทุกคนช่วยกัน ขณะที่พระราม 9 พบวันละ 5 ตัน


ทั้งนี้ต้องขอบคุณกรมราชทัณฑ์ และมองว่าเป็นมิติความร่วมมือที่ดีมาก ซึ่งทหารก็มาช่วยที่บางบัว และก็จะช่วยพร่องน้ำในแก้มลิงของกองทัพ  และไม่ได้ใช้งบเยอะ หลายที่เสียงตอบรับก็ดี  ขอยืนยันการที่ตนนั่งมอเตอร์ไซส์ไปดูน้ำท่วมไม่ได้สร้างภาพ แต่ต้องออกไปให้เห็นเส้นเลือดฝอย ไม่สามารถรู้ได้หากนั่งอยู่แต่ในห้องทำงาน   พร้อมลุยเต็มที่ น้ำเหนือลดลง ไม่ได้รุนแรงมาก อยู่ในสถานการณ์ที่เราดูแลได้ แต่ไม่ประมาท จุดฟันหลอได้สั่งให้เตรียมกระสอบทรายทันที  ส่วนที่เอกชนอยากฝากว่าอย่างน้อยต้องเสียสละกันบ้าง ช่วงนี้อาจไม่ต้องกังวลความสวยงามหรือฮวงจุ้ยมาก เอาชีวิตรอดก่อน


ต่อมา ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึงกรณีที่ พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงรายที่ 2 ที่ กทม. ว่า ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นายชัชชาติระบุอีกว่า ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวไปตรวจที่โรงพยาบาลแรกแต่ไม่พบเชื้อ ไม่สามารถระบุอาการได้ซึ่งโรงพยาบาลได้ปล่อยตัวกลับ ก่อนจะมาตรวจพบในภายหลัง นายชัชชาติ กล่าวว่าต้องทำความเข้าใจโรค  รวมอาการของโรคฝีดาษลิงอย่าสับสนกับโรคอีสุกอีใส


สำหรับประวัติผู้ติดเชื้อพบว่ามีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมและมีกลุ่มเสี่ยง 10 คนที่อยู่ในบ้าน ขออย่ากังวลเพราะว่าการติดเชื้อไม่ได้ติดกันง่ายเหมือน โควิด-19  สำหรับการสอบสวนโรคเพิ่มเติมในวันนี้นายชัชชาติระบุว่า ให้สำนักอนามัยและทีมสาธารณสุขลงพื้นที่สอบสวนโรคแล้ว พบว่ามีชาวต่างชาติอีกหนึ่งคน คาดว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อคนดังกล่าว จึงเร่งติดตามตัวสอบสวนโรคเป็นการด่วนและเก็บสารคัดหลังเพื่อตรวจหาเชื้อฝีดาษลิง 


นายชัชชาติกล่าวทิ้งท้ายว่า คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครจะมีการประชุมหารือร่วมกันอีกครั้งในวันจันทร์นี้ ซึ่งจะมีการขยายผลจากกลุ่มเสี่ยง 10 คน


ส่วนสถานการณ์ โควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังทรง นอกจากนั้น วันที่ 1 กันยายนนี้ กทม. จะซื้อยาจากองค์การเภสัชได้ และส่วนผู้ติดเชื้อสามารถรับยาผ่านระบบออนไลน์ได้ ไม่ต้องรอคิวแล้ว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์

#ชัชชาติสิทธิพันธุ์ #ผู้ว่าฯกทม







ธิดา ถาวรเศรษฐ : ความเหมือนและความต่างของกองทัพพม่า-ไทย

 


ความเหมือนและความต่างของกองทัพพม่า-ไทย

โดย อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ 29 ก.ค. 65

 

ขณะที่กองทัพพม่าเชิดชู : สหภาพ เอกภาพ อธิปไตย

 

กองทัพไทยเชิดชู : ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

 

ดูเหมือนมีความต่างกันที่ “คำขวัญและอุดมการณ์” แต่มีความเหมือนกันมากในความพยายามที่จะครองอำนาจเหนือประชาชน โดยใช้กำลังกองทัพ พร้อมปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนที่เห็นต่าง และใช้อาวุธทางกฎหมายลงโทษ จับกุมคุมขัง กระทั่งประหารชีวิต มีการลุกขึ้นสู้และการเลือกตั้งสำหรับประเทศพม่า ผลการเลือกตั้ง พรรค NLD ของ อองซานซูจี ก็ชนะทุกครั้ง แม้กองทัพจะเขียนกติกา เขียนรัฐธรรมนูญให้ได้เปรียบ มีทหารเข้าไปเป็นส.ส. อย่างน้อย 25% และจองตำแหน่งรัฐมนตรี เช่น กลาโหม, กระทรวงกิจการชายแดน, กระทรวงกิจการการเมือง เป็นของกองทัพเท่านั้น

 

และมีความต่างกันอีกอย่างคือ รัฐธรรมนูญถูกอ้างให้ทำรัฐประหารได้โดยไม่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ กระนั้นก็ล้มเหลวในการเลือกตั้งล่าสุดอีก ต้องทำรัฐประหาร ยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนประชาชนลุกขึ้นสู้ด้วยอาวุธไปแล้วในปัจจุบัน

 

กล่าวได้ว่าจากที่ พลเอก เนวิน ทำรัฐประหาร (ไล่เลี่ยกับจอมพล สฤษดิ์) จนปัจจุบัน ทหารพม่าครองอำนาจมาตลอด ดูแล้วคงผลัดกันศึกษาซึ่งกันและกัน ระหว่างกองทัพพม่า-ไทย เอาอย่างกันเพื่อหาวิธีให้ครองอำนาจนำตลอดไป

 

ความต่างที่หนักหน่วงคือ พม่ามีหลายชาติพันธุ์ ที่มีประชากร มีพื้นที่ และวัฒนธรรมที่แน่นอน และมีกองทัพของตนเอง มีประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อเอกราชร่วมกัน และเรียกร้องความเป็นรัฐอิสระตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 “สนธิสัญญาปางโหลง” ที่สัญญาจะให้อิสระแต่ละรัฐหลังรับเอกราชจากอังกฤษ 10 ปีแล้ว แต่นายพลอองซานถูกฆ่าตายพร้อมผู้นำรัฐต่าง ๆ ดังนั้นเป็นความขัดแย้งที่กองทัพพม่าถือชาติพันธุ์พม่าเป็นใหญ่ ไม่อนุญาตให้รัฐต่าง ๆ ของชนชาติอื่น แยกตัวออกไป และความเชื่อทางอุดมการณ์ “สหภาพ-เอกราช-อธิปไตย” เต็มที่ โดยมีเผ่าพันธุ์พม่าเป็นผู้ปกครอง ที่มีความเป็นเอกภาพและมีอธิปไตยเหนือดินแดนสหภาพทั้งหมด

 

ส่วนกองทัพไทย อาจไม่เผชิญปัญหาชาติพันธุ์ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แค่ 3 จังหวัดภาคใต้ ก็มีวิธีคิดแบบเดียวกันนั่นแหละ และกองทัพไทยยังมีอุดมการณ์แบบดั้งเดิมในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยึด “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ซึ่งทั้งสองกองทัพมีอุดมการณ์ขัดแย้งกับแนวคิดสิทธิมนุษยชน เสรีภาพ และความเสมอภาค ซึ่งเป็นเสาหลักของระบอบประชาธิปไตยแบบสากล กองทัพทั้งสองประเทศจึงมีความเหมือนกันในเชิงอุดมการณ์ที่ล้าหลัง ไม่อาจยอมรับสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพได้ จึงทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมต้องใช้ความรุนแรงในการจัดการกับประชาชน ก็เพื่อรักษาอำนาจของกองทัพที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนชนชั้นนำและกลุ่มเครือข่ายที่ได้ประโยชน์จากการครองอำนาจแบบเผด็จการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อำนาจเผด็จการของกองทัพ ทำให้ผู้ยึดอำนาจมั่งคั่งทางเศรษฐกิจด้วย จนมิอาจปล่อยมือไปได้ เพราะถ้าปล่อยให้อำนาจหลุดมือ อาจถูกเช็คบิลทั้งคดีความและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ความรุนแรงในการปราบปราม จับกุมคุมขัง จึงเป็นหนทางเดียวของกองทัพพม่ากับกองทัพไทย ที่มีกลุ่มคนและสถาบันล้าหลังต่าง ๆ สนับสนุน

 

อย่าได้ร้องขอความปราณีจากเผด็จการทหารพม่าที่อาจฆ่าอีก 41 คน

 

ถ้าเช่นนั้นก็คงเหมือนกับประเทศไทยที่ว่า อย่าร้องขอความปราณี ความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม จากรัฐเผด็จการจารีตนิยมไทยเช่นกัน ใช่หรือไม่?

 

หรือประเทศไทยจะเป็นมิคสัญญีอย่างพม่า!

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ

มวลชนอิสระปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ โกนหัวประท้วงกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องสิทธิประกันตัว "บุ้ง-ใบปอ"และนักโทษการเมืองทุกคน

 


มวลชนอิสระปักหลักหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ โกนหัวประท้วงกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องสิทธิประกันตัว "บุ้ง-ใบปอ"และนักโทษการเมืองทุกคน

 

วานนนี้ (28 ก.ค. 65) ที่บริเวณด้านหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เจริญกรุง 63 ผู้ชุมนุมที่มาปักหลักฝั่งตรงข้ามศาลเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนแล้ว โดยตั้งเป็นหมู่บ้านศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกคุมขังในเรือนจำเวลานี้ที่มีประมาณ 31 คน โดยเฉพาะ บุ้งและใบปอ กลุ่มทะลุวัง ที่อดอาหารมาร่วม 57 วันแล้ว และอาการน่าเป็นห่วง

 

โดยทุกวันจะมีกิจกรรมปราศรัย สลับกับร้องเพลง และเวลา 17.00 น. ของทุกวันจะจัดกิจกรรม #ยืนหยุดขัง ในเวลา 1.12 ชม. ยืนพร้อมชูป้ายปล่อยเพื่อนเรา จากนั้นจะยืนตรงชูสามนิ้ว พร้อมกับเปิดเพลงสรรเสริญประชาชน และวานนี้ก็เช่นเดียวกัน

 

สำหรับในเวลาต่อมา 20.00 น. ไบร์ท-ชินวัตร จันทร์กระจ่าง จากกลุ่มราษฎรนนทบุรี พร้อมด้วยมวลชนบางส่วน ประกาศโกนผมประท้วงกระบวนการยุติธรรม

 

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มที่ปักหลักที่หน้าศาลนั้น ได้มีมวลชนทยอยโกนหัวประท้วงทุกครั้งที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว บุ้งและใบปอ

 

โดยกิจกรรมในวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

สยามสแควร์แทบแตก! งาน #กรุงเทพกลางแปลง ฉายหนัง "รักแห่งสยาม ขณะก้าวไกลชวนรณรงค์ต่อเนื่องให้ #สมรสเท่าเทียม เกิดขึ้นจริง

 


สยามสแควร์แทบแตก! งาน #กรุงเทพกลางแปลง ฉายหนัง "รักแห่งสยาม ขณะก้าวไกลชวนรณรงค์ต่อเนื่องให้ #สมรสเท่าเทียม เกิดขึ้นจริง


วันที่ 28 ก.ค. 2565 บรรยากาศงาน #กรุงเทพกลางแปลง บริเวณ Block I สยามสแควร์ เขตปทุมวัน สัปดาห์นี้เป็นสุดท้ายแล้ว โดยวันนี้เป็นการฉายหนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" ซึ่งก่อนการฉายหนังได้มีการพูดคุยกับ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ โอ้-มาริโอ้ เมาเร่อ พีท-วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล 2นักแสดงนำ และสินจัย เปล่งพานิช ถึงเรื่องราวของภาพยนตร์ โดยก่อนการพูดคุย ทั้งหมดได้ร่วมกันร้องเพลงสร้างความสนุกสนาน


ซึ่งตั้งแต่ช่วงเย็น บรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก และยังคงมีร้านขายอาหารหลากหลาย มาตั้งขายให้ผู้ที่มางานได้หาซื้อกิน


ขณะเดียวกัน ไอติม - พริษฐ์ วัชรสินธุ และ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ จากพรรคก้าวไกล ได้เปิดบูธรณรงค์เพื่อให้ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเกิดขึ้นจริงและถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจร่วมกิจกรรมจำนวนมาก


โดยงานกรุงเทพกลางแปลงที่สยามสแควร์ยังมีงานอีก 2 วันโดยในวันที่ 29 ก.ค. ฉายเรื่อง ซีซันส์เชนจ์ (Seasons Change) เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และวันที่ 30 ก.ค. ฉายหนังเรื่อง สยามสแควร์ 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #กรุงเทพกลางแปลง