ฝ่ายค้านรับแทน! 'วิโรจน์' รับหนังสือจากเครือข่ายประชาชน 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจาก “ปลาหมอคางดำ” บอกแพทองธาร ถ้าไม่รู้ ไปให้พ่อเล่าให้ฟังจะแก้ปัญหายังไง ด้านณัฐชา ย้ำ ปรึกษาพ่อเสร็จแล้ว ท่านนายกกลับมาตอบผมด้วย ยันจะไม่ละเลย เดินหน้าผลักดันปัญหานี้ต่อไป
วันนี้ (18 มี.ค. 68) บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลประตู 5 กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด ประมาณ 1,000 คน ได้ปักหลักชุมนุมประท้วงให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำโดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มายังทำเนียบรัฐบาลโดยยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ดังนี้
ข้อที่ 1 ตั้งคณะกรรมการอิสระ กลับไปหาผู้กระทำความผิดกรณีปลาหมอคางดำระบาด
ข้อที่ 2 กำจัดปัญหาปลาหมอคางดำภายใน 1 ปี
ข้อที่ 3 ประกาศเขตภัยพิบัติ 19 จังหวัด
ข้อที่ 4 หน่วยงานรัฐจะต้องเป็นผู้แทนเกษตรกรผู้เสียหายดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเพื่อให้เกิดการชดใช้และเยียวยาเกษตรกร
ต่อมา เวลา 13.00 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เดินทางไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า วันนี้มาเป็นตัวแทนผู้นำฝ่ายค้านรับหนังสือร้องเรียนจากผู้ชุมนุม พร้อมให้สัมภาษณ์ โดยวันนี้นายวิโรจน์มีท่าทีดุดันกว่าปกติ ระบุว่า รัฐบาลต้องยอมรับความจริงก่อนว่าปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำเป็นปัญหาใหญ่ เพราะ จากรายงานของคณะอนุกรรมาธิการปลาหมอคางดำฯ (อนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุ และแนวทาง แก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์) ที่มี สส.กาย ณัฐชา ร่วมอยู่ในคณะ เคยส่งรายงานการศึกษาให้กับรัฐบาลแล้ว มองว่า รายงานดังกล่าว สามารถชี้ผู้ต้องสงสัยได้ระดับหนึ่ง รัฐบาลสามารถเอาไปขยายผลต่อดำเนินการตามกฎหมายได้
นายวิโรจน์ บอกด้วยว่า “เชื่อเถอะ แพทองธารรู้อยู่แก่ใจ รายงานของอนุกรรมาธิการฯ ส่งให้แล้ว ยกเว้นว่าอ่านไม่ออก หรือถ้าไม่อ่านผมเชื่อว่าพ่อเขาก็ต้องอ่าน เพราะพ่อเขาช่างเรียนรู้ เขาก็ไปถามจากพ่อเขา เพราะคนอย่างเขาไม่อ่านอยู่แล้ว พ่อเขาอ่านแน่นอน ให้พ่อเขามาเล่าให้ฟังว่าจะแก้ยังไง”
“ปลาหมอคางดำอยู่ดีดีจะว่ายน้ำผ่านมหาสมุทรขึ้นที่อ่าวไทยได้เองหรอ หรืออยู่ดีดีมีพระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลา เรียกมันมาโผล่ที่บ่อกุ้งของประชาชนหรอ” พร้อมบอกว่า เชื่อว่าความเจ็บแค้นของประชาชนอยู่ที่ว่า รัฐบาลมาให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหานี้มันคลี่คลายแล้ว มาบอกว่าไปตรวจแล้วเจอปลาหมอคางดำแค่ตัวเดียว มองว่าแบบนี้ ทำร้ายใจประชาชน
ทั้งนี้เชื่อว่า ที่วันนี้ผู้ชุมนุมรู้สึกว่าไม่พอใจอย่างมาก เพราะขนาดเอาปัญหามาให้บอกถึงที่ แต่รัฐบาลกลับมามารับหนังสือ ไม่แก้ไขอะไรเลย จะให้เขาแบกความทุกข์มา แล้วแบกความทุกข์กลับไปหรอ
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะถูกนำไปอธิบายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ บอกว่า เรื่องนี้ต้องตามดู อะไรที่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน แล้วรัฐบาลนั่งคดไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น ก็จำเป็นต้องใช้กลไกของสภาทุกอย่างที่มี จัดการนายกที่ไม่รู้สี่ รู้แปด
“เท้าไม่ติดดิน ผมไม่รู้รองเท้าไข่มุก เวลามันใส่แล้วมันลอยจากพื้นหรือยังไง เท้าติดดินบ้างได้ไหมอะ เอาไปกินบ้างได้ไหม จะได้รู้ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อย ทำไมครับ หรือว่ารองเท้าไข่มุก คู่ละ 50,000 กว่าบาท ใส่แล้วมันลอยจากพื้น ตีนเนี่ยแดงเลย ติดพื้นไม่ได้”
ส่วนการที่ส่งอธิบดีกรมประมงมาดูสถานการณ์แทน นายวิโรจน์ บอกว่า เข้าใจว่าอธิบดีมาตามหน้าที่ และก็เข้าใจที่ท่านบอกให้ประชาชนกลับไปก่อน แต่จะกลับได้อย่างไร ก็ควรมารับหนังสือก่อนซิ แล้วยิ่งไปกว่านั้น ท่านอธิบดีกลับไปก่อนแล้ว
นายวิโรจน์ ตั้งคำถามว่า พรรคเพื่อไทยหัวใจคืออะไร หัวใจคือประชาชนจริงหรือ ถ้าหัวใจคือประชาชนไม่ต้องย้อนไปไกล ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ปี 2566 ไปไหว้ขอคะแนนถึงบ่อกุ้ง บ่อปลาได้ แต่วันนี้ เขามาหาถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลยังมาเจอไม่ได้
พร้อมทั้งย้ำว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ ประกาศเขตภัยพิบัติ เพื่อเยียวยา ชดเชยความเสียหาย ต้องเอาผิดกับคนที่เอาปลานรกเข้ามา ไม่ควรปล่อยปะละเลย หรือว่าคุณจะเอาปลาพวกนี้ไปอยู่ชั้น 14 หรือจะเอาไปอยู่ในบึงบ้านคุณเพื่อดูอัตราการขยายพันธุ์
นายวิโรจน์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากประกาศเขตภัยพิบัติชดเชยเยียวยาประชาชน รัฐบาล จะได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนด้วยซ้ำ แต่เชื่อว่าที่ไม่ทำเพราะเกรงใจกลุ่มนายทุนผู้ต้องสงสัย ที่อยากจะให้เรื่องนี้เงียบ รัฐบาลเกรงใจนายทุนหลายกลุ่มหลายก้อน หากเป็นมืออาชีพต้องแยกความสัมพันธ์ส่วนตัวกับส่วนรวม ผมไม่ได้บอกว่าให้คุณไปโกรธเกลียดเขา แต่ต้องแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
ประเด็น เกรงใจกลุ่มทุน กับประชนเก่งจะเอาตร.จับ ผมไม่ได้จะให้เกลียดกันแต่ต้องทำงานตรงไปตรงมา + ต้องเอาผิดคนเอาปลานรกเข้ามา หรือจะเอาปลาไปอยู่ชั้น 14 ในบ้าน
จากนั้นณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ โพสข้อความระบุว่า ปรึกษาพ่อเสร็จแล้ว ท่านนายกกลับมาตอบผมด้วยนะครับ
หลังจากได้รับการประสานจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะมีการยื่นหนังสือต่อท่านนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้าน ผมไม่อาจนิ่งเฉยให้พี่น้องประชาชนต้องต่อสู้เพียงลำพังได้ เราได้ใช้ทุกกลไกในฝ่ายนิติบัญญัติที่สามารถทำได้ แต่วันนี้ชาวบ้านบอกว่า ‘ไม่ไหวแล้ว’ พวกเขานำความทุกข์ ความเดือดร้อน และความเศร้าที่เกิดจากปัญหานี้ มาส่งถึงตัวแทนประชาชนเพื่อส่งต่อให้ผู้บริหารของบ้านเมือง
วันนี้ผมจึงได้มาลงพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์และรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในหลายจังหวัด สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวินาที แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ ทำไมเรื่องนี้กลับเงียบลง? แล้วอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้?
เราจะไม่ปล่อยให้เสียงของประชาชนถูกละเลย และจะเดินหน้าผลักดันปัญหานี้ต่อไป
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปลาหมอคางดำ #พรรคประชาชน