วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568

"เท้ง ณัฐพงษ์" ยันไม่เสียของแน่ จ่อ นำข้อมูลซักฟอก ยื่นปปช.ถอดถอน "นายกฯอิ๊งค์" ลั่น ปฏิบัติการโรยเกลือ ยังมีต่ออีหลายช่องทาง แจงตั้งใจเดินไปถามนายกฯ แต่ไม่ได้รับคำตอบ เลยยิ้มถ่ายรูปร่วมเฟรมกัน


"เท้ง ณัฐพงษ์" ยันไม่เสียของแน่ จ่อ นำข้อมูลซักฟอก ยื่นปปช.ถอดถอน "นายกฯอิ๊งค์" ลั่น ปฏิบัติการโรยเกลือ ยังมีต่ออีหลายช่องทาง แจงตั้งใจเดินไปถามนายกฯ แต่ไม่ได้รับคำตอบ เลยยิ้มถ่ายรูปร่วมเฟรมกัน


วันที่ 26 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังจบการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ


โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 เสียง ไม่ไว้วางใจ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง


นายณัฐพงษ์ กล่วว่า ผลลงมติ 162 เสียง พรรคฝ่ายค้านคิดว่าครบถ้วน พรรคประชาชนมี 2 ท่าน ที่ทราบสถานะ อย่างวานนี้ (25 มี.ค.) น.ส.วรรณิภา ไม้สน เข้าโรงพยาบาล ส่วนนายสิริน สงวนสิน มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เราติดตามอยู่ด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนอื่น ๆ จะไปสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรรคร่วม


ส่วนการถ่ายรูปร่วมกับรัฐบาลนั้น นายณัฐพงษ์ บอกว่าเป็นกระบวนการปกติในสภา ซึ่งการที่ตนเดินไปนั้นก็อยากจะไปถามคำถาม นายกรัฐมนตรีว่า ที่ไม่ได้ชี้แจง แต่เหตุใดจึงเงียบ ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบอะไร มีแต่แต่เพียงการถ่ายรูปร่วมกัน


สำหรับการเตรียมยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า กำลังดูในข้อกฎหมาย และยุทธการโรยเกลือ ยังมีอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านกรรมาธิการหรือหน่วยงานต่างๆ ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการพูดคุยกันในพรรคและยืนยันว่าจะมีการดำเนินการอย่างแน่นอน โดยจะเริ่มทำงานตั้งแต่วันนี้ทันที


ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการให้นายกรัฐมนตรีถูกถอดถอนโดยองค์กรอิสระ แต่วันนี้กลับมาทำเองนั้น นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม หรือใช้กลไกที่สืบทอดจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อกันแกล้งทางการ แต่การดำเนินการนี้ตนยังไม่ได้แถลงข่าวเนื่องจากจะต้องดูความชัดเจนและตรงไปตรงมาในการใช้กฎหมาย แล้วต้องดูว่าทำงานของรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมนี้มีส่วนไหนที่เราจะดำเนินการได้บ้าง ยกตัวอย่างเรื่องการที่นายกรัฐมนตรีวางแผนเพื่อหนีภาษี แม้ไม่ต้องไปเป็นการร้องเรียน แต่การตรวจสอบโดยระบบรัฐสภาก็สามารถทำให้ครอบครัวของนายกรัฐมนตรียอมจ่ายภาษีได้


นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาชน ที่วานนี้นายกรัฐมนตรีมีการพาดพิงว่าให้แสดงจุดยืนออกมาก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยระบุว่า ภายในรัฐสภาชุดนี้จะไม่มีทางกลับไปร่วมรัฐบาล กลับกัน ตนถามกลับนายกรัฐมนตรีว่ามีจุดยืนเป็นอย่างไร ย้อนแย้ง หรือตรงข้ามกับสิ่งที่เป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอดหรือไม่ ซึ่งตอนนี้คิดว่าเร็วไปในการถามคำถามนี้ เพราะที่ผ่านมาแต่ละพรรคโดยเฉพาะพรรคที่อยู่ในสภาปัจจุบัน ก็อาจจะมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นปกติในเรื่องการเมืองที่จะย้ายไปฝั่งรัฐบาลบ้างหรือฝ่ายค้านบ้าง ตนมองว่าช่วงที่ใกล้ยุบสภา หรือเลือกตั้งใหม่ ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการแสดงจุดยืน


พร้อมกล่าวต่อว่า ตนไม่อยากเห็นการทำงานอย่างตรงไปตรงมาของฝ่ายค้านนำไปสู่การดำเนินคดีปิดปาก แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ยับยั้งการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ซึ่งเมื่อวานนี้ปฏิบัติการไอโอที่ สส.ชยพล ไม่ได้อภิปราย ตนก็รู้สึกเสียดายว่าไม่ได้สะท้อนให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองทุกพรรึถูกจับตาโดยกองทัพ


สำหรับภาพรวมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งสองวันนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวขอบคุณพรรคฝ่ายค้านที่ร่วมอภิปราย เรื่องข้อมูลไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ที่รัฐบาลบอกว่าการอภิปรายมีแต่ข้อมูลเดิมนั้น จึงอยากถามกลับว่า หลายปัญหาของประเทศไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาในอดีตหลายปี แต่เมื่อเป็นรัฐบาลจะมีการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมากน้อยแค่ไหน


สำหรับคำวิจารณ์ถึงและเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ที่ก่อนหน้านี้ขอไว้ห้าวัน แต่เมื่อใช้จริงกับถูกมองว่าใช้เวลาไม่นานนั้น นายณัฐพงษ์ อธิบายว่า วานนี้เราใช้เวลาอย่างเต็มที่ แต่ที่เลิกเร็วเป็นเพราะนายชยพล ถูกจำกัดการอภิปราย ส่วนวันแรกตนก็บอกว่าไม่มีประโยชน์ถ้าให้การอภิปรายลากยาวถึงเวลา 05:30 น. ควรให้มีการอภิปรายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในวันรุ่งขึ้น


ยังกล่าวต่อว่า ความสำคัญที่สุดของผู้แทนราษฎร ต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง ส่วนเกมการเมือง หรือสิ่งที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าถ่ายรูปร่วมกันนั้น จะเป็นอย่างไร ตนบอกว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะสิ่งสำคัญคือสิ่งที่ประชาชนมองเห็นว่าเราทำอะไรไปบ้าง และยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่มีอะไรเสียของ อยากให้รัฐบาลตั้งรับไว้ให้ดีเพราะหลังจากนี้จะมีการดำเนินการต่ออย่างแน่นอน ซึ่งข้อมูลที่เรามีก็เชื่อว่านายกรัฐมนตรียังตอบไม่ได้


ผู้สื่อข่าวถามถึงการโหวตที่มีเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านไปโหวตให้กับรัฐบาลนั้น นายณัฐพงษ์ เห็นว่าะเราไม่สามารถไปบังคับเสียงของสมาชิกได้ ที่ผ่านมาก็ทำงานตามกลไกของรัฐสภา และไม่ได้กลัวอะไรกับการที่จะต้องถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว เพราะสิ่งที่เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับเราคืออำนาจจากประชาชน


ผู้สื่อข่าวถามถึงการประเมินรอยร้าวและอายุการทำงานของรัฐบาล นายณัฐพงษ์ ระบุว่าไม่สามารถไปประเมินแทนนายกรัฐมนตรีได้ แต่สิ่งที่พูดแทนได้ในฐานะประชาชน คือถ้านายกรัฐมนตรี ยังดำรงตำแหน่งอยู่ อายุของประชาชนคนไทยจะสั้นลงทุกวัน ต้นทุนของประเทศนี้ก็จะลดลงทุกวัน


สำหรับการตอบคำถามประเด็นที่รัฐบาลส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กับประเทศจีน นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่ต้องควรยึดมั่นในหลักการสากล ไม่ควรดำเนินการนโยบายต่างประเทศที่ใช้วิธีการเข้าข้างกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด และการส่งตัวผู้ลี้ภัยนี้กลับ ประเด็นสำคัญที่สุดความอิสระของคณะตรวจสอบ ไม่ให้ภายนอกมองเข้ามาว่าประเทศไทยไปร่วมกระบวนการฟอกขาวให้กับประเทศอื่น

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อภิปรายไม่ไว้วางใจ68