วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2568

”ณัฐพงษ์“ เสนอจัดการน้ำเกษตรพิจิตร หน้าแล้งมีน้ำใช้-หน้าฝนน้ำไม่ท่วม ”พริษฐ์“ ชี้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำขอวชาวพิจิตร ที่ถูกซ้ำเติมด้วย “ดิน น้ำ ลม ไฟ”

 


”ณัฐพงษ์“ เสนอจัดการน้ำเกษตรพิจิตร หน้าแล้งมีน้ำใช้-หน้าฝนน้ำไม่ท่วม ”พริษฐ์“ ชี้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำขอวชาวพิจิตร ที่ถูกซ้ำเติมด้วย “ดิน น้ำ ลม ไฟ” 


วันที่ 2 มีนาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน พร้อมด้วยอาจารย์เดชรัต สุขกำเนิด และคณะทำงานจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ดูปัญหา ต.วังโมกข์ อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร โดยมีประเด็นที่พูดคุยเกี่ยวกับ ปัญหาการบริหารจัดการน้ำเเละราคาข้าวในเบื้องต้น( ข้อเสนอจัดการน้ำเพื่อพี่น้องเกษตรกรจังหวัดพิจิตร หน้าแล้งมีน้ำใช้-หน้าฝนน้ำไม่ท่วม )


โดยหลังการลงพื้นที่ นายณัฐพงษ์ โพสข้อความว่า


ภารกิจผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนวันนี้ (2 มี.ค.) ช่วงเช้า ผมเดินทางไปจังหวัดพิจิตรเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ พบว่าปัญหาที่สำคัญคือความแห้งแล้งซึ่งกระทบต่อการทำเกษตรของประชาชนในพื้นที่


เวทีแรกที่ผมได้รับฟังปัญหา คือที่วัดสระบอระเพ็ด อำเภอวชิรบารมี ประชาชนในพื้นที่เลือกทำนาเป็นส่วนมาก เผชิญปัญหาทั้งราคาข้าวตกต่ำ แต่ต้นทุนการผลิตสูง เกษตรกรขาดเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี หน่วยงานรัฐยังขาดการวิจัยพันธุ์ข้าวในพื้นที่ที่จะช่วยให้สามารถแข่งขันกับภูมิภาคได้ และการจัดการน้ำที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการทำเกษตรในพื้นที่ โดยช่วงหน้าแล้งน้ำถูกกันไว้ใช้ในพื้นที่อื่นทำให้พื้นที่ตรงนี้แห้งแล้ง ไม่เพียงพอต่อการทำเกษตร แต่เมื่อเป็นช่วงน้ำหลาก น้ำก็ถูกปล่อยเข้าพื้นที่จนพืชผลได้รับความเสียหาย 


การบริหารจัดการน้ำที่มีปัญหาเกิดจากการแบ่งเขตชลประทานที่ไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง ประชาชนในพื้นที่จึงต้องการให้มีการถ่ายโอนเขตชลประทานของตนเองใหม่ เพื่อให้มีการบริหารจัดการน้ำที่สะดวกมากยิ่งขึ้น


พรรคประชาชนเข้าใจปัญหา และความต้องการของพี่น้องประชาชน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทีมงานพรรคประชาชนจังหวัดพิจิตร ได้ช่วยประสานกับสำนักงานชลประทานที่ 4 ในการจัดสรรน้ำมาสำหรับการทำนาไปแล้ว


ส่วนข้อเสนอของพรรคประชาชน ในระยะสั้นพรรคประชาชนจะเสนอให้มีการทำข้อตกลงระหว่างสำนักงานเขตชลประทานในการจัดสรรน้ำเพิ่มเติม 100 ล้านลูกบาศก์เมตร จากที่ส่งเข้ามาในคลองท่อทองแดง 550 ล้านลูกบาศก์เมตร (จากปริมาณน้ำใช้การได้ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร) 


ในระยะต่อไป จะเสนอให้มีการทำอ่างเก็บน้ำ เพื่อเก็บน้ำที่ผันเข้ามาในทุ่งบางระกำตอนช่วงน้ำหลาก และสามารถส่งมาให้พื้นที่ทำนาในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของจังหวัดพิจิตร โดยข้อเสนอเหล่านี้จะส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มี สส.จากพรรคประชาชน ทำงานอยู่เพื่อผลักดันต่อไป


ด้านนายพริษฐ์ ระบุว่า ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ที่ถูกซ้ำเติมด้วย “ดิน น้ำ ลม ไฟ” ที่จังหวัดพิจิตร 


เช้านี้ ผมได้ร่วมเดินทางกับผู้นำฝ่ายค้าน และคณะฯ ไปที่จังหวัดพิจิตร (ต.วังโมกข์ อ.วชิรบารมี)


พิจิตรเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่โดยเฉพาะการปลูกข้าว (คิดเป็นเกือบ 90% ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด) จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ปัญหาที่ถูกสะท้อนมากที่สุดในเวทีรับฟังความเห็นวันนี้ คือปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ที่มีราคาลดลงถึง 30-50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากตันละ 10,000 บาทเหลือเพียงตันละ 5,000-7,000 บาท


ในบริบทของจังหวัดพิจิตร ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาทั้ง “ดิน น้ำ ลม ไฟ”


“ดิน” - ชาวนาในพิจิตรส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง แต่ต้องเช่าที่ดินเพื่อทำนา ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่ยังทำให้เกิดคำถามและความไม่แน่นอนว่าเงินจะตกถึงมือเกษตรกรเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ หากมีโครงการของรัฐในอนาคตที่เป็นการชดเชยเจ้าของพื้นที่ทางการเกษตรที่เป็นพื้นที่รับน้ำและไม่สามารถทำการเกษตรได้ในบางเดือนของแต่ละปี


“น้ำ” - ชาวนาในพื้นที่บริเวณอําเภอวชิรบารมี ได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการน้ำที่ขาดประสิทธิภาพ เพราะในช่วงหน้าแล้ง น้ำถูกกันไว้ใช้ในพื้นที่อื่นจนทำให้พื้นที่ดังกล่าวแห้งแล้งและไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำการเกษตร แต่พอเป็นช่วงหน้าฝน น้ำกลับถูกปล่อยเข้าสู่พื้นที่จนพืชผลได้รับความเสียหายและทำการเกษตรไม่ได้


“ลม” - ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ มีส่วนมาจากความล้มเหวของรัฐบาลในการประเมิน “ทิศทางลม” ผิดพลาด เพราะในขณะที่รัฐบาลส่งสัญญาณให้เกษตรกรทำนาปรังเพิ่มเติมในการประชุม กนช. เมื่อปลายปีที่แล้ว (พ.ย. 67) แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการรองรับการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดโลกจากการที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติอีกครั้ง ซึ่งถูกคาดการณ์ไว้ในรายงานของสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตรที่เผยแพร่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเช่นกัน (ธ.ค. 67)


“ไฟ” - แม้เราเข้าใจดีว่ามาตรการห้ามเผาในภาคการเกษตรของรัฐบาลมีเจตนาที่ดีในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ แต่รัฐบาลกลับไม่มีการเตรียมการล่วงหน้าและมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการช่วยสนับสนุนเกษตรกรรับมือกับโครงสร้างต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน เพื่อทำให้เกษตรกรสามารถปรับรูปแบบการทำนาจากแบบที่มีการเผาเป็นแบบที่ไม่มีการเผาได้อย่างแท้จริง


ทั้งนี้ ทีม สส. พรรคประชาชน ที่มาร่วมรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะในวันนี้ จากทั้ง กมธ. เกษตร (ณรงเดช อุฬารกุล) และ กมธ. น้ำ (คริษฐ์ ปานเนียม / กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี) จะเดินหน้าใช้กลไกสภาฯเพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาดังกล่าวต่อไป


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เท้งทั่วไทย #พรรคประชาชนพิจิตร #พรรคประชาชน