วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567

จม.จากเรือนจำ “อานนท์” เขียนถึงลูก ปีนี้ไทยได้มีตำแหน่งด้านสิทธิมนุษยชนในเวที UN ขณะที่ทิศทางด้านสิทธิมนุษยชนยังคงมืดมิด ก็ได้แต่หวังว่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น นั่นหมายถึงพ่อจะได้กลับบ้านไปอยู่กับลูก ๆ

 


จม.จากเรือนจำ “อานนท์” เขียนถึงลูก ปีนี้ไทยได้มีตำแหน่งด้านสิทธิมนุษยชนในเวที UN ขณะที่ทิศทางด้านสิทธิมนุษยชนยังคงมืดมิด ก็ได้แต่หวังว่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น นั่นหมายถึงพ่อจะได้กลับบ้านไปอยู่กับลูก ๆ 


วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เพจเฟสบุ๊ค “อานนท์ นำภา” โพส ข้อความพร้อมจดหมายโดยมีใจความว่า


ช่วงนี้ของปี 2563 หลังจากพ่อถูกจับในเหตุการณ์การชุมนุม 14 ตุลาคม 2563 ที่ทำเนียบแล้วถูกส่งตัวไปขังที่เชียงใหม่ 12 วัน จากนั้นก็เอาตัวไปขังต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพและได้ประกันตัวช่วงนี้ ตอนนั้นทราบจากทนายว่าการชุมนุมเปลี่ยนรูปแบบไป จากมีแกนนำเป็นไม่มีแกนนำ หลังจากได้ประกันตัว พ่อจึงได้เห็นภาพการชุมนุมช่วง กันยายน-ตุลาคม 2563 การชุมนุมของคนรุ่นใหม่ที่ทำให้ประเทศไม่เหมือนเดิม


24 ตุลาคม 2567 ถึงปราณและขาล ลูกรัก


ถ้านับจากการชุมนุมปี 2563 จนถึงวันนี้ ชีวิตของพ่อเกินกว่าครึ่งหนึ่งถูกขัฃในเรือนจำ น่าจะนานกว่าการขังเสื้อแดงเมื่อปี 2553 และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเมื่อใด ในช่วงปี 2553 เสื้อแดงหลายคนต้องลี้ภัยการเมือง ปี2563 ก็เช่นกัน ถ้านับจนถึงวันนี้ก็มีเยาวชนคนรุ่นใหม่ลี้ภัยการเมืองหลายสิบคนแล้ว ในหลายประเทศ


ปีนี้ทราบว่าไทยได้รับเลือกให้มีตำแหน่งด้านสิทธิมนุษยชนในเวที UN ในขณะที่ทิศทางด้านสิทธิมนุษยชนยังคงมืดมิด ก็ได้แต่หวังว่าหลายๆอย่างจะค่อยๆดีขึ้น จากการได้เข้ารับตำแหน่งของไทยในเวทีระดับโลก มันหมายถึงการที่พ่อจะได้กลับไปอยู่กับลูกๆ จะได้กลับบ้านด้วย


ระหว่างรอคอย การขบคิดทบทวนในหลายๆเรื่องก็จำเป็น การปกป้องไฟฝันไม่ให้มอดดับย่อมจำเป็น เหนื่อยได้ ล้าได้ แต่ห้ามหยุดเดิน หยุดฝันเด็ดขาด


ปล. อาการไข้ยังไม่หาย ยังเจ็บคอ งดออกกำลังกาย 1 อาทิตย์แล้ว หวังว่าจะหายในเร็ววัน


รักและคิดถึง ลูกทั้งสองคน

อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 คดีแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 (เป็นคดีที่ 2) กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ปี ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี



ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ต่อมา 25 ก.ค. 67 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดี #ม112 คดีที่ 4 ของ “อานนท์ นำภา” เหตุโพสต์ 2 ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. 2564 วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่ 10


ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1), (3) ให้ลงโทษฐาน 112 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี


ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ


ทั้งนี้หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีของอานนท์ไปแล้ว 4 คดี ทำให้อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวม 14 ปี 20 วัน และยังมีโทษในคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชุมนุม #ม็อบ27พฤศจิกา2563 ที่ถูกจำคุกอีก 2 เดือน รวมเป็น 14 ปี 2 เดือน 20 วัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม #อานนท์นำภา #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน