วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567

จดหมายจากเรือนจำ ‘อานนท์ ’ เขียนถึงลูก “การพยายามทำให้สังคมลืมพ่อ ลืมสิ่งที่พ่อและเพื่อนๆได้ต่อสู้ไว้ ยังคงดำเนินต่อไป ใครจะลืมพ่อ โลกลืมการต่อสู้ของพวกเรา หรือไม่ไม่สำคัญ ขอลูกยังคงจดจำ เท่านั้นก็เพียงพอพอ”

 


จดหมายจากเรือนจำ ‘อานนท์ ’ เขียนถึงลูก “การพยายามทำให้สังคมลืมพ่อ ลืมสิ่งที่พ่อและเพื่อนๆได้ต่อสู้ไว้ ยังคงดำเนินต่อไป ใครจะลืมพ่อ โลกลืมการต่อสู้ของพวกเรา หรือไม่ไม่สำคัญ ขอลูกยังคงจดจำ เท่านั้นก็เพียงพอพอ”


วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เพจเฟสบุ๊ค “อานนท์ นำภา” โพส ข้อความจดหมายฉบับวันที่ 2 ต.ค. 67 โดยมีใจความว่า


จดหมายฉบับลงวันที่ 9 ต.ค. 2567


วันนี้ตื่นเช้าเพื่อเตรียมตัวไปศาลธัญบุรี ตัวรุม ๆ เจ็บคอนิดน่อยน่าจะเพราะเมื่อวานต้องนั่งตากแอร์ในห้องพิจารณาที่ศาลอาญาทั้งวัน วันนี้ก็ต้องไปเจออากาศแบบนั้นอีก เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ต้องไป ไปทำหน้าที่ ไปพิสูจน์ความจริง


9 ตุลาคม 2567 ถึงปราณและขาล ลูกรักทั้งสอง


ดีใจและเป็นสุขใจที่ได้เจอปราณและขาลที่ศาลวานนี้ เป็นความสุขของคนเป็นพ่อที่คนเป็นพ่อเท่านั้นที่อาจเข้าใจ เจ้าขาลยังคงซุกซนเหมือนเดิมจนบางครั้งแม่ต้องอุ้มเจ้าขาลออกจากห้องพิจารณา ปล่อยให้ปราณได้คุยกับพ่อมากขึ้นระหว่างรอศาล เวลาไม่กี่นาที เรื่องราวร้อยพันมิอาจเล่าได้หมด มีเพียงอ้อมกอดก่อนลาเท่านั้นที่ช่วยเล่าแทน


ศาลยังคงมีปัญหากับการทำหน้าที่ทนายความของพ่อ การแต่งตัวในชุดนักโทษดูเหมือนจะเป็นเหตุผลในการไม่ให้ทำหน้าที่เพราะดูแล้วไม่สุภาพ เสมือนวิชาชีพทางกฎหมายถูกสงวนไว้ให้คนที่ดูดี สมบูรณ์เพียบพร้อม ต้องแต่งตัวแบบดูดี ไม่แปลกใจที่หลายองค์กรทางกฎหมายจะกีดกันคนพิการออกไปมิให้เข้าทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม แต่คราวนี้นอกจากศาลจะให้เหตุผลเรื่องการแต่งการแล้ว ศาลยังเชิญตัวแทนจากสภาทนายความให้มาไต่สวนถึงอำนาจหรือสิทธิในการทำหน้าที่ทนายความของพ่อในเดือนหน้าด้วย หลังจากที่สภาทนายความ เคยทำหนังสือยืนยันมาแล้ว 2 ครั้งว่า พ่อสามารถทำหน้าที่ได้


การจำกัดพื้นที่ของพ่อ การพยายามทำให้สังคมลืมพ่อ ลืมสิ่งที่พ่อและเพื่อนๆได้ต่อสู้ไว้ ยังคงดำเนินต่อไป ใครจะลืมพ่อหรือไม่ ไม่สำคัญ พ่อยังจดจำทุกเรื่องราวได้และต่อให้โลกลืมการต่อสู้ของพวกเรา ขอเพียงพวกเธอทั้งสองยังคงจดจำ เท่านั้นก็เพียงพอ


รักและคิดถึงลูกทั้งสอง

อานนท์ นำภา


สำหรับ อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 คดีแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 (เป็นคดีที่ 2) กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ปี ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ต่อมา 25 ก.ค. 67 ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดี #ม112 คดีที่ 4 ของ “อานนท์ นำภา” เหตุโพสต์ 2 ข้อความบนเฟซบุ๊ก ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. 2564 วิพากษ์วิจารณ์การใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินของรัชกาลที่ 10


ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1), (3) ให้ลงโทษฐาน 112 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี


ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี ไม่รอการลงโทษ


ทั้งนี้หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีของอานนท์ไปแล้ว 4 คดี ทำให้อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวม 14 ปี 20 วัน และยังมีโทษในคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีชุมนุม #ม็อบ27พฤศจิกา2563 ที่ถูกจำคุกอีก 2 เดือน รวมเป็น 14 ปี 2 เดือน 20 วัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม #อานนท์นำภา #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน