วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2567

“พีมูฟ” แถลงการณ์ จี้นายกฯ เร่ง ลงนามแต่งตั้งคกก. พร้อม ยื่น “นายก-รองนายก-ครม.” และ 2 กระทรวง จี้ถอนร่างกฤษฎีกา “พ.ร.บ.อุทยาน-คุ้มครองสัตว์ป่า” จากที่ประชุม ครม. พรุ่งนี้

 


“พีมูฟ” แถลงการณ์ จี้นายกฯ เร่ง ลงนามแต่งตั้งคกก. พร้อม ยื่น “นายก-รองนายก-ครม.” และ 2 กระทรวง จี้ถอนร่างกฤษฎีกา “พ.ร.บ.อุทยาน-คุ้มครองสัตว์ป่า” จากที่ประชุม ครม. พรุ่งนี้


วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ที่เพจ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P–move รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ แถลงการณ์ ‘ความคืบหน้าปักหลักชุมนุมการแก้ไขปัญหาของคนจน เดินหน้าทุกรูปแบบเพื่อเป้าหมายที่เป็นธรรม’ หลังปักหลักชุมนุมกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งทางพีมูฟยังคงยืนยันตามข้อเรียกร้องเดิมสามข้อ โดยเนื้อหาในแถลงการณ์มีดังนี้


นับเป็นเวลากว่า 14 วัน ที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้ปักหลักชุมนุม ณ ข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลโดยการนำของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเดินหน้ากลไกการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยเป้าหมายของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม มีข้อเสนอต่อรัฐบาล ดังนี้


1. ขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งรัดการลงนามในร่าง คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามที่พีมูฟได้เสนอ รวมถึงข้อเสนออื่นๆ ตามรายละเอียดที่ได้ยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 โดยกรรมการฯ ต้องมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) เป็นรองประธานคนที่ 1 รองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรวงทอง) เป็นรองประธานคนที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 7 กระทรวง ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 5 กระทรวง และตัวแทน ขปส.เป็นกรรมการโดยด่วน


2. เมื่อนายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้ง ตามข้อ 1. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้มีการเปิดประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ 1/2567 โดยเร่งด่วนเพื่อนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน


3. ให้นายกรัฐมนตรี นำผลแนวทางการแก้ไขปัญหาและประเด็นปัญหาการประชุมดังกล่าว เสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบและพิจารณาเห็นชอบ เพื่อเป็นหลักประกันในการเดินหน้าใน การแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง จากรัฐบาลที่แล้ว


ถือเป็นข้อสรุปและแนวทางในการเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่เป็นที่น่าพอใจร่วมกัน เพื่อพิจารณาในการยุติการชุมนุมครั้งนี้ กว่าระยะเวลา 14 วันในการปักหลักชุมนุม ถือว่ามีความคืบหน้าในข้อเรียกร้องข้างต้น เบื้องต้นได้หารือกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกับสมคิด เชื้อคง เลขาธิการฝ่ายการเมืองนายกรัฐมนตรี ถึง 2 ครั้ง โดยมีความคืบหน้าว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ซึ่งขณะนี้รอการพิจารณาลงนามของนายกรัฐมนตรี ส่วนความคืบหน้าอื่น ๆ พีมูฟได้เปิดเวทีเจรจาแนวทางการแก้ไขปัญหารายกรณีในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วกว่า 5 หน่วยงาน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงการคลัง และสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหา แต่เนื่องจากต้องได้รับหมอบหมายอำนาจหน้าที่ในกลไกการแก้ไขปัญหาซึ่งให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ตามลำดับ ดังนั้น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จึงขอเร่งติดตามข้อเสนอที่ได้ยื่นต่อรัฐบาลโดยเร่งด่วน ดังนี้


1. จากที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีนายประเสริฐ จันทรพวงทอง ได้เห็นชอบและลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมเป็นที่เรียบร้อย แต่เราทราบว่ายังเกิดความล่าช้า ในการลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการ คือนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่ยังไม่มีการลงนามในคำสั่งคณะกรรมการ เราจึงขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งลงนามแต่งตั้งคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เพื่อเดินหน้าการแก้ไขปัญหาของพี่น้องโดยเร่งด่วน


2. ขอให้ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้เจรจาเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานโฉนดชุมชน เพื่อเปิดประชุมหารือแนวทางความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาร่วมกับ ขปส. เพื่อให้วางกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาและติดตามการแก้ไขปัญหาภายใต้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเปิดให้ใช้สถานที่ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดประชุมหารือเดินหน้าแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน


เพื่อให้ความคืบหน้าในการปักหลักชุมนุมของ ขปส. เดินหน้าแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล ได้อย่างลุล่วง ขอให้รัฐบาลกล้าหาญมากพอที่จะมาพบเจอประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายและกฎหมาย เพื่อให้รัฐบาลที่เป็นฝ่ายบริหารประเทศได้เห็นหัวคนจน แก้ไขปัญหาประชาชนอย่างแท้จริง ให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินและทรัพยากร เรายืนยันว่า จะยกระดับการติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายการชุมนุม เราอยากส่งเสียงให้ขบวนการเคลื่อนไหวประชาชนทั่วประเทศ สนับสนุนการชุมนุมเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม


หลังอ่านแถลงการณ์ พีมูฟได้เคลื่อนขบวนไปยังบริเวณแยกสวนมิสกวัน เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ณ บ้านจันทร์ส่องหล้า ให้เร่งรัดลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขณะเคลื่อนขบวนไปถึงแยกสวนมิสกวัน ได้รับการประสานจากทางสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ติดต่อประสานงานมาพบทางพีมูฟ เพื่อรับยื่นหนังสือเรื่องชะลอการนำร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายใน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยทันที


ต่อมาเวลา 10.15 น. พีมูฟได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลการบริหารราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และจะยื่นถึงกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้วย


การยื่นหนังสือดังกล่าวสืบเนื่องจากที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วมาเพื่อดำเนินการ ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีในวันที่ 22 ต.ค. 2567 ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อสิทธิชุมชน สิทธิในที่ดินทำกินและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ประชาชนที่ถูกป่าอนุรักษ์ประกาศทับทั่วประเทศ ซึ่งพีมูฟมีข้อเรียกร้องดังนี้


1. ให้นำเรื่องการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ออกจากการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารที่ 22 ต.ค. 2567 โดยทันที เพื่อเป็นการชะลอการผลักดันร่างกฎหมายลำดับรอง ให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรากฎหมายไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน


2. ให้พิจารณาดำเนินการตามแนวทางการชะลอ การศึกษาผลกระทบของกฎหมาย และการปรับปรุงร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ตามที่คณะรัฐมนตรีได้รับทราบแนวทางแล้วในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 และ 10 ต.ค. 2566 ทั้งนี้ในระหว่างนี้ควรชะลอการนำร่างกฎหมายลำดับรองเข้า ครม. ออกไปก่อนเพื่อให้รัฐบาลได้ดำเนินการตามนโยบายแก้ไขปัญหาที่ดินโดยการกำหนดให้มีการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ให้แล้วเสร็จ


3. เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปรับปรุงร่างกฎหมายลำดับรอง รวมถึงกฎหมายระดับพระราชบัญญัติฯ ทั้ง 2 ฉบับ (พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562) เป็นไปอย่างมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนและมีประสิทธิภาพสูงสุด ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาลงนามในร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยเร่งด่วน


พีมูฟจะยังปักหลักชุมนุมต่อไป ทั้งเพื่อผลักดันข้อเรียกร้องหลักให้เกิดกลไกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งต้องมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และปักหลักรอฟังผลว่าภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะถอนเรื่องของกระทรวงทรัพยากรฯ ออกจากการประชุม ครม. พรุ่งนี้หรือไม่


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พีมูฟทวงสิทธิ #ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม