วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567

“หมอเหวง” ลั่น “ณัฐวุฒิ” ตระบัดสัตย์! ไม่รักษาคำมั่นสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชน

 


“หมอเหวง” ลั่น “ณัฐวุฒิ” ตระบัดสัตย์! ไม่รักษาคำมั่นสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชน


จากรายการ สภาภาษาคน EP48 ตอน “เต้นกลับลำ”

ทางช่อง Friends Talk

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 67


กรณี “ณัฐวุฒิ” คำไหนเหมาะสมที่สุด ระหว่าง “กลับกลอก - กลับลำ - ตระบัดสัตย์”


ผมว่ามนุษย์ต่างจากสัตว์อยู่ที่ภูมิธรรม  หมายถึงว่าจิตใจ พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสมีพราหมณ์มาถาม อะไรจำแนกสัตว์? พระพุทธเจ้าท่านตอบว่าธรรมะจำแนกสัตว์ นั่นคือมนุษย์ต่างจากสัตว์เพราะมนุษย์มีภูมิธรรมคือสภาวธรรมในใจ คุณต้องมีสภาวธรรมแห่งความเป็นมนุษย์ ถ้าคุณไม่มีสภาวธรรมแห่งมนุษย์ ผมไม่รู้จะเรียกคุณว่าอะไร อาจารย์พุทธทาสท่านบอกว่าวินาทีที่ใจคุณเดรัจฉานแต่ร่างคุณเป็นมนุษย์ คุณก็เป็นเดรัจฉาน เพราะฉะนั้น “ธรรมะ” ตัดสินคนนะ


ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการเมือง หรือไม่เป็นนักการเมือง เป็นประชาชนธรรมดาก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าคุณเป็นนักการเมืองปุ๊บคุณมีสิทธิ์ในการที่จะพูดเช้าอย่าง เย็นอย่าง แล้วอ้างว่ามีความจำเป็นเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันที่เป็นอยู่จริง แม้มีสิ่งที่อยากจะทำ สุดท้ายก็ต้องอยู่กับความเป็นจริง แปลว่าอะไร ผมไม่เข้าใจเลย คุณพยายามที่จะอธิบายสนับสนุนตัวเอง


ดังนั้น ข้อที่ 1 มนุษย์ต่างจากสัตว์อยู่ที่ต้องมีธรรมะ และสำหรับผมเมื่อกี้พูดไปบ้างแล้ว ผมมาพูดมนุษย์ธรรมดาก็แล้วกัน อย่างน้อยที่สุดมนุษย์ธรรมดาต้องมีความจริงใจต่อตัวเอง ถ้าคุณไม่มีความจริงใจต่อตัวเอง ผมไม่รู้จะจัดคุณเป็นมนุษย์อะไรเลย ถ้าหากคุณไม่มีความจริงใจต่อตัวเอง แล้วคุณจะจริงใจต่อคนอื่นได้ยังไง?


กลับมาประเด็น นักการเมืองต้องเริ่มต้นอย่างนี้ คือเริ่มต้นจากคิดว่าตัวเองจะทำอะไรให้กับประเทศนี้ ให้กับประชาชน ต้องเริ่มจากตรงนี้ก่อน ถึงตัดสินใจตัวเองเข้ามาเป็นนักการเมือง ไม่ใช่ตัดสินใจตัวเองที่เป็นนักการเมืองขึ้นมาเพราะว่ากูอยากได้อำนาจ กูอยากเป็นรัฐมนตรี กูอยากได้รถหรู ๆ อยากได้เงินทองมากมาย อยากได้โอกาสในการคอร์รัปชั่น อย่างนั้นจบครับ นักการเมืองพันธุ์นี้ต้องกำจัดให้หมดไปจากประเทศไทยเลย ซึ่งขณะนี้ต้องรีบดำเนินการกำจัดโดยด่วน เพราะนักการเมืองประเภทนี้มีเยอะมาก


ผมไม่รู้นะว่าคุณณัฐวุฒิเป็นนักการเมืองประเภทไหน แต่สำหรับผม นักการเมืองต้องจริงใจกับประชาชน ถ้าคุณไม่จริงใจกับประชาชนผมถือว่าคุณไม่ใช่นักการเมืองนะ สิ่งที่จริงใจหรือไม่จริงใจต่อประชาชนอยู่ที่ว่าสัญญาประชาคมที่คุณให้กับประชาชนในเวลาเลือกตั้ง คุณให้อะไรไว้? แล้วคุณรักษาคำมั่นสัญญาหรือเปล่า? ผมถือว่าขณะนี้เป็นการไม่รักษาคำมั่นสัญญาตัวเองที่มีต่อประชาชน วันที่คุณณัฐวุฒิน้ำตาไหลลาออกจากผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย บอกว่าสภาพการณ์แบบนี้ผมเข้าไปร่วมด้วยไม่ได้ ผมก็เลยจำเป็นต้องถอนมา คุณจำได้มั้ยครับ วันนั้นที่คุณพูด ในวันนี้คุณไปส่องกระจกซิครับ ตาณัฐวุฒิที่อยู่ในกระจกพูดกับคุณว่ายังไง? คุณบอกว่าสถานการณ์บีบบังคับ ไม่มีครับสถานการณ์ไม่มีทั้งสิ้น ไม่มีสถานการณ์ใด ๆ เลย ก็เห็นอยู่แล้วว่าเพื่อไทยข้ามขั้วไปหลอมรวมกับพวกขวาจัด ขณะนี้เพื่อไทยเป็นขวาไปแล้ว นั่นคือคุณตัดสินใจเป็นขวาไปแล้ว คุณจำเป็นต้องกลืนน้ำลาย นี่ไง! กลืนน้ำลายในสิ่งที่คุณพูดไว้


กลับมาเรื่องนักการเมือง นักการเมืองต้องจริงใจกับประชาชน และต้องจริงใจต่อคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชนไว้ ผมไม่รังเกียจพรรคขวาจัดนะ ถ้าเขามีความจริงใจในอุดมการณ์ทางการเมืองของเขา เพราะเขาต้องการที่จะสร้างสังคมไปในทิศทางขวาจัดของเขา แต่ไม่ใช่กะล่อนนะครับ ใช้ทุกวิถีทางในการทำลายฝ่ายที่มีความเห็นตรงข้ามทางการเมืองกับตัวเอง เพราะฉะนั้น นักการเมือง กับ นักกะล่อน ผมหรับผมนะ คนละเรื่องกัน มันเป็นจริงของประเทศไทยก็คือไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวรทางการเมือง อันนี้มันใช้ได้ในการต่อสู้ทางชนชั้น แปลว่าถ้าหากว่ามึงกะล่อนมา กูกะล่อนตอบ มึงไม่จริงใจมา กูก็ไม่จริงใจตอบ แต่กับประชาชนคุณต้องจริงใจ


ผมถามว่าคุณต้องการอะไร คุณต้องการที่จะสร้างประเทศนี้ให้ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนหรือเปล่า? ถ้าจริง คุณไปร่วมกับขวาได้ยังไง? คุณลืมแล้วหรือว่าพัทยา เสื้อน้ำเงินกระหน่ำใส่พี่น้องเสื้อแดงที่เดินทางไปพัทยาแล้วกำลังจะกลับหลังจากได้พบกับผู้นำอาเซียน เพื่ออธิบายให้เห็นว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์จัดตั้งในค่ายทหาร อธิบายจนผู้นำอาเซียนทั้งหมดเข้าใจและกำลังจะเดินทางกลับ มีชุดน้ำเงินเต็มไปหมดเลย แล้วยิงด้วยนะ กระทืบด้วย ไม่ทราบว่าคุณณัฐวุฒิลืมเรื่องนี้ด้วยแล้วหรือยัง สายน้ำเงินอยู่ในนี้เต็มไปหมด แล้วคุณไปร่วมกับเขาหรือ? แล้วการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนในเวลานั้นหายไปไหนหมด?


นักการเมืองไม่ใช่ว่าไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร คุณพูดคำนี้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่บนหลักของอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ต้องเป็นของประชาชนทั้งหลาย เอาตรงนี้ก่อนนะเรื่องนักการเมืองนะ แล้วมาสู่เรื่อง “ตระบัดสัตย์” ผมเรื่องตระบัดสัตย์เพราะอะไร เพราะตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือ สุจินดา คราประยูร เขาให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไทยทั้งประเทศว่า ผมจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอันขาด สุดท้ายมาแถลงด้วยน้ำตาบอกว่า ผมยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยน้ำตา จะต่างอะไรกันครับที่คุณแถลงด้วยน้ำตาว่าผมจำเป็นต้องลาออกจากผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เพราะไม่เห็นด้วยที่จะไปร่วมกับพรรคสองลุง แล้ววันนี้คุณก็กลับไปร่วม นี่คือเหมือนกันเลย ไม่มีอะไรต่างกัน คุณพูดสาธารณะกับประชาชนแล้ว ผมไม่อยากใช้คำว่า “หักหลัง” นะ ผมใช้คำว่า “ตระบัดสัตย์” ผมไม่ได้ใช้คำว่า “ทรยศ” นะ เพราะหักหลังและทรยศมันจะแรงกว่านี้ ตระบัดสัตย์เพียงแต่ว่าไม่รักษาคำมั่นสัจจะวาจาที่คุณลั่นไว้กับประชาชน


เพราะฉะนั้น ผมตอบง่าย ๆ เลยว่าคุณตระบัดสัตย์ แล้วถ้าคุณจะกลับมาใหม่ก็ต้องพิสูจน์กันอีกว่าคุณจริงใจต่อประชาชนหรือเปล่า? ชีวิตผมมีเรื่องเดียวเลยคือผมต้องการต่อสู้เพื่อให้อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของราษฎรทั้งหลาย โดยเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกันด้วยนะ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #เพื่อไทย