ศาลยังคงไม่ให้ประกันตัว “อานนท์ นำภา” หลังทนายยื่นประกันโดยอ้างความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ UN ที่กังวลต่อการใช้ ม.112 ควบคุม - จำคุกนักกิจกรรม นักปกป้องสิทธิมนุษยชน
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 ศูนยทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันที่ 11 เม.ย. 68 ศาลฎีกามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว "อานนท์ นำภา" ในระหว่างอุทธรณ์คดี 112 รวม 5 คดี หลังทนายยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา โดยอ้างความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ UN ที่แสดงความกังวลต่อการใช้มาตรา 112 เพื่อควบคุมตัวและจำคุกนักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเมื่อ 30 ม.ค. 68
โดยทั้ง 5 คดี ได้แก่ กรณีปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา2563, กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 3 ข้อความ, กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 2 ข้อความ, กรณีโพสต์ข้อความ #ราษฎรสาส์น และกรณีปราศรัยใน #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์1
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 อานนท์ นำภา นักกิจกรรมและทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีตามมาตรา 112 ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ หลังจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา คณะผู้รายงานพิเศษได้ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ในประเทศไทย พร้อมเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิก หรือทบทวนกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนโดยทันที โดยมีรายละเอียดดังนี้
กระผมได้ทราบข่าวว่าทางยูเอ็น นำโดยท่านแมทธิว กิลเล็ตต์ ประธานคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ และคณะทำงานฯ (UN Working Group on Arbitraly Detention:; UN WGAD) ได้ออกแถลงการณ์แถลงความห่วงใยต่อสถานการณ์การบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ในประเทศไทย โดยเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางการเมืองและให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าวอันเป็นกฎหมายที่รับใช้เป็นเครื่องมือในการจำกัดการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ของพวกเรา ในฐานะตัวแทนนักโทษทางการเมืองกระผมขอขอบคุณด้วยความจริงใจ
ขณะที่ท่านได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ในเมืองไทยมีการดำเนินคดีตามกฏหมายอาญามาตรา 112 อย่างกว้างขวาง ผู้ออกมาแสดงออกทางการเมืองหลายคน ต้องลี้ภัยทางการเมืองในหลายประเทศ หลายคนถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ถูกพิพากษาอย่างไม่เป็นธรรมเพียงเพราะออกมาวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ในที่สาธารณะ กระผมเองถูกพิพากษาจำคุกไปแล้วกว่า 18 ปี 10 เดือน และยังต้องต่อสู้คดีอีกหลายคดีโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี
กระผมถูกตัดสิทธิ์ในการเรียกพยานหลักฐานสำคัญมาพิสูจน์ความจริง มีการสั่งให้พิจารณาคดีโดยลับ และศาลยังสร้างหลักการใหม่ขึ้นมาว่าการพูดความจริงก็เป็นการกระทำความผิดมาตรา 112 ทั้งหมดเป็นการละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และละเมิดต่อคำมั่นสัญญาที่ไทยได้ลงสัตยาบันในอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
พวกเราขอยืนยันว่าทุกการแสดงออกทางการเมืองล้วนเป็นไปด้วยความปรารถนาดีโดยหวังจะได้รับการรับฟัง พูดคุย ทำความเข้าใจอย่างอารยชนซึ่งมีวุฒิภาวะ แต่การณ์ ก็หาได้เป็นเช่นนั้น พวกเราถูกกดปราบดำเนินคดีอย่างรุนแรงและไร้อารยธรรม กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าห้วงเวลาที่เลวร้ายนี้จะผ่านพ้นไปโดยเร็ว มีกระบวนการพูดคุยระหว่างเยาวชนคนรุ่นใหม่กับฝ่ายที่ครองอำนาจเดิม คุยกันอย่างมีวุฒิภาวะสร้างสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและมีสันติสุขร่วมกัน
ระหว่างนี้หวังว่าทุกองค์กรระหว่างประเทศและมิตรประเทศ ให้ความสนใจและให้ความช่วยเหลือพวกเรา กระผมถูกขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครกับเพื่อนอีกหลายคน หากท่านมีโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้คารวะและร่วมแลกเปลี่ยนสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป
ขอแสดงความเคารพนับถืออย่างสูง
อานนท์ นำภา
นักโทษทางการเมือง ประเทศไทย
สำหรับ 'อานนท์ นำภา' ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก ไม่รอลงอาญา ในคดี มาตรา 112 ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63
ซึ่งขณะนี้ตัดสินไปแล้ว 7 คดี รวมโทษ 20 ปี 19 เดือน 20 วัน ทุกคดียังไม่สิ้นสุด
