"ณัฐพงษ์" จี้ดันญัตติเรื่องผลกระทบจากแผ่นดินไหวเข้าสภาฯ แทนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถามนายกฯ-รัฐบาล ทำไมเร่งดันเข้าสภาให้ได้ในสมัยนี้ ทั้งที่ผลศึกษายังไม่เสร็จ
วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการที่รัฐบาลเตรียมดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex เข้าสู่สภา ว่า การผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว ให้ทันในสมัยประชุมนี้ อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมากในสภา เพราะรัฐบาลเป็นคนคุมเสียงข้างมาก และกำหนดวาระได้
แต่สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติที่ผ่านมา ซึ่งพรรคประชาชนก็เตรียมเสนอญัตติด่วน เรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวในสภาฯเช่นเดียวกัน เพื่อส่งข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล ตนถึงอยากจะให้สภาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนกังวลหรือไม่ว่า ญัตติของฝ่ายค้านอาจจะถูกเบียด จนไม่ได้เข้าสภาฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่อยากให้เกิดภาพนั้น จากการเจรจาของวิปฝ่ายค้าน ตนก็ยังเชื่อมั่นว่าทางรัฐบาลน่าจะยอมที่จะให้มีการอภิปรายเรื่องแผ่นดินไหว
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ผมก็คิดว่าประชาชนก็คงรอฟังอยู่ว่าในสภาฯจะมีข้อเสนอแนะอะไร ที่หาทางออกให้กับประชาชน ซึ่งมีความสำคัญเร่งด่วนมากกว่าเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" นายณัฐพงษ์ กล่าว
ถามอีกว่าทำไมฝั่งรัฐบาลถึงพยายามดันร่างนี้เข้าสู่สภาให้ได้ ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องนี้อาจจะต้องโยนคำถามกลับไปฝั่งทางรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนใด ๆ ที่จะต้องมีความพยายามในการผลักดันร่างกฎหมายนี้ให้ทันก่อนปิดสมัยประชุม ทั้งที่รัฐมนตรีเองก็มีการออกมาให้ข่าวว่าผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการยังทำไม่เสร็จด้วยซ้ำ ไม่น่ามีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเร่งรัดก่อนที่จะมีการศึกษาความเป็นไปได้ดังกล่าว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่มีดีลแลกอะไรบางอย่างในพรรคร่วมรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พวกเราได้นำเสนอและอภิปรายกันแล้วในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ในเมื่อทางรัฐบาลเองมีการบอกว่าฝ่ายค้านตั้งข้อกล่าวหาในหลายเรื่อง ก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นอย่างนั้นรัฐบาลแค่แก้ข้อกล่าวหา ตนคิดว่าการกระทำสำคัญกว่า ในเรื่องการนำเอาเรื่องแผ่นดินไหวของประชาชนเป็นตัวตั้ง แทนที่จะเร่งรัดผลักดันกฎหมายที่ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้