รำลึก 15 ปีของการต่อสู้ของคนเสื้อแดง
ธงชัย วินิจจะกูล
15 ปีที่แล้วพี่น้องและมิตรของเรานับหมื่นแสนชุมนุมและเคลื่อนไหวทั้งในกรุงเทพฯและที่ต่างๆแทบทั้งประเทศไทยเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองที่สำคัญมากทางประวัติศาสตร์
ซึ่งมีหัวใจอยู่ที่การเคารพความเท่าเทียมกันของทุกๆคน ยกเลิกระบอบอำนาจทางการเมืองของอภิสิทธิ์ชน
ประเด็นสำคัญดังกล่าว แสดงออกทางภาษาและข้อเรียกร้องทางการเมือง ได้แก่
การต่อสู้กับระบอบการเมืองแบบอำมาตย์
และข้อเรียกร้องให้ยุติระบบสองมาตรฐานทางการเมือง สังคม และในกระบวนการยุติธรรม
เจตจำนงค์เช่นนี้เองที่ทำให้การต่อสู้เรียกร้องของคนเสื้อแดงจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปตลอดกาล
ไม่ใช่เพราะคนเสื้อแดงสนับสนุนพรรคการเมืองใดหรือใครให้เป็นผู้วิเศษที่ขึ้นมาเป็นอภิสิทธิ์ชนรายใหม่
เจตน์จำนงค์เช่นนี้เองที่ทำให้การต่อสู้คนเสื้อแดงเมื่อ 15 ปีก่อนเป็นอมตะ
ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก้าวหน้าถอยหลังไปอย่างไร
ไม่ว่าคนเสื้อแดงในอดีตหลายคนจะเปลี่ยนสีแปรธาตุไปอย่างไร
ก็ไม่มีวันทำให้การต่อสู้เมื่อ 15 ปีก่อนลดความสำคัญทางประวัติศาสตร์น้อยลงแต่อย่างใด
แต่การต่อสู้เมื่อ 15 ปีก่อนถูกทำลายอย่างโหดเหี้ยม
พี่น้องและมิตรของเราสละชีวิต บาดเจ็บ
และถูกกระทำย่ำยีจากกระบวนการอยุติธรรมเป็นจำนวนมากกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ ยิ่งไปกว่านั้น
เช่นเดียวกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหลายครั้งก่อนหน้านั้น สังคมที่ปกครองโดยอภิสิทธิ์ชนชั้นอำมาตย์ไม่ให้คุณค่าความสูญเสียคราวนั้น
อำนาจนั้นหอมหวาน ไม่ว่าใครก็ตามจะขึ้นมาเป็นตัวแทนของชนชั้นอำมาตย์ในรัฐบาล
ไม่ว่าบางคนอาจจะเคยร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มากับคนเสื้อแดงก็ตาม แต่อำนาจก็ทำให้เขาหลงใหล
กลัวการสูญเสียอำนาจกระทั่งไม่กล้าต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับพี่น้องและมิตรที่ร่วมต่อสู้กันมาเมื่อ
15 ปีก่อน ระบอบอำมาตย์ไม่ใช่ปัญหาที่พวกเขาพยายามยุติ สองมาตรฐานมิใช่ปัญหาที่เขาแคร์อีกต่อไป
ณ ปีที่ 15 ภายหลังการต่อสู้คนเสื้อแดง
ความอยุติธรรมจึงยังดำรงอยู่ อภิสิทธิ์ลอยนวลพ้นผิดจึงยังดำรงอยู่ โดยไม่มีวี่แววว่ารัฐบาลหรืออภิสิทธิ์ชนใหม่รายใดจะกล้าหรือแม้แต่จะพยายามแก้สิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง
เราท่านคงต้องตั้งใจมั่นว่าจะต่อสู้กับความอยุติธรรมและระบอบอำนาจที่มีแต่อภิสิทธิ์ชนเต็มบ้านเต็มเมืองต่อไป
อย่าลืมว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเมื่อ 15
ปีก่อนนอกจากจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ลบเลือนไม่ได้แล้ว ยังส่งผลให้กับคนรุ่นถัดมาจำนวนมากให้กล้าลุกขึ้นต่อสู้
คัดค้านทัดทานความอยุติธรรม ถึงแม้จะพอเห็นอยู่ว่าจะต้องรับผลกระทบอย่างไร และเห็นอยู่ว่าใครก็ตามขึ้นสู่อำนาจเป็นตัวแทนของอำมาตย์ในการกดหัวประชาชนย่อมไม่พยายามแก้ไขความอยุติธรรมเช่นนั้น
วันนี้เรามีแต่งานรำลึกการต่อสู้เมื่อ 15
ปีก่อน แต่สักวันหนึ่งงานรำลึกทำนองนี้จะต้องเป็นงานยิ่งใหญ่ที่รัฐและสังคมไทยต้องยอมรับยกย่องเชิดชูการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในอดีต
ยกย่องให้เกียรติผู้เสียสละและครอบครัวของเขา ทางเดียวที่จะทำให้เกิดเช่นนั้นได้คือต้องยุติอภิสิทธิ์การลอยนวลพ้นผิด
ยุติระบอบสองมาตรฐานทั้งปวง สถาปนาประชาธิปไตยที่คนเท่ากันทางการเมือง
ซึ่งล้วนเป็นเจตน์เจตจำนงค์ของคนเสื้อแดงเมื่อ 15
ปีก่อนทั้งสิ้น