ผู้ว่าฯ
ชัชชาติ ยัน กทม.พร้อมสนับสนุนการเก็บหลักฐานเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบเต็มที่
เดินหน้าเจาะปล่องลิฟท์หาผู้ติดค้างเพิ่มเติม
วันนี้
(19 เมษายน 2568) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหว ว่า วานนี้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกตนพร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ
ปลัดกรุงเทพมหานคร และรศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เข้าพบเพื่อสอบถามสิ่งที่ต้องการรับการสนับสนุนหรือความช่วยเหลืออื่น ๆ เพิ่มเติมหรือไม่
ซึ่งจริง ๆ แล้วขณะนี้เราก็มีค่อนข้างครบ
แต่อาจมีประเด็นหนึ่งที่ต้องขอรับการสนับสนุนเพิ่มคือพื้นที่สำหรับเก็บกองวัสดุที่ยังแน่นอยู่
ส่วนที่มีประเด็นข่าวว่าเราไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บหลักฐานนั้น
ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
เราอยากจะให้เอาหลักฐานไปให้ได้มากที่สุดเพื่อหาผู้รับผิดชอบให้ได้
เราร่วมมือกับทุกฝ่าย อาจมีช่วง 2-3 วันแรกที่มีการค้นหาผู้รอดชีวิตอาจมีปัญหาเรื่องการสื่อสารเล็กน้อย
แต่ขณะนี้เราร่วมมือกับพิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง และ DSI อย่างเต็มที่ การเก็บหลักฐานเราเองไม่ได้เชี่ยวชาญ
เรามีหน้าที่ค้นหาผู้ติดค้างอยู่ หลักการคือต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการฯ
มาอยู่กับเรา
หากอยากได้หลักฐานชิ้นใดสามารถระบุและเก็บหลักฐานชิ้นนั้นไปตรวจสอบได้
ซึ่งเรื่องนี้เราพร้อมดำเนินการให้ตลอด ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรร่วมมือกันได้ดี
สำหรับความคืบหน้าการค้นหาและรื้อถอนซาก
วานนี้สามารถเจาะเปิดพื้นที่เพิ่มเติมได้บริเวณที่คาดว่าเป็นปล่องลิฟท์และบันไดหนีไฟ
ทำให้พบผู้ที่ติดอยู่ในบริเวณดังกล่าวประมาณ 6 ร่าง
ด้านภารกิจการรื้อถอนโครงสร้างอาคาร สามารถลดระดับความสูง บริเวณโซน B และ C เหลือประมาณ 10 เมตร
ส่วนโซน A และ D ระดับความสูงเหลือ 12
เมตร วันนี้จะดำเนินการเจาะบริเวณปล่องลิฟต์เข้าไปอีก
คาดว่าจะพบผู้ติดค้างด้านในเพิ่มเติม ภาพรวมงานเดินไปได้ค่อนข้างดี
แต่ก็พบปัญหาบ้างคือ
รถเริ่มเสียมากขึ้นแต่เรามีเจ้าหน้าที่จากกรมทหารช่างที่ประจำอยู่หน้างานอยู่แล้ว
ในส่วนยอดผู้สูญหายที่อาจมีความสับสนเรื่องจำนวนนั้น
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า หลักการคือเมื่อเราพบชิ้นส่วน
ต้องให้พิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ยืนยัน เนื่องจากเราไม่สามารถทราบได้ว่าบางราย
พบเป็นชิ้นส่วนอวัยวะแล้วเป็นคนเดียวกันหรือไม่ ตอนนี้นำชิ้นส่วนออกมาแล้วกว่า 180 ชิ้น
ผู้ว่าฯ
ชัชชาติ กล่าวต่อไปว่า อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพยายามเร่งดำเนินการคือการพิสูจน์ DNA พบว่ายังไม่ได้ข้อมูลอีก
10 กว่าคน ซึ่งได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศว่าจะหาข้อมูล DNA
ตรงนี้เพิ่มได้อย่างไร ทั้งนี้ นอกจากการค้นหาผู้ติดค้างแล้ว
เราดำเนินการฆ่าเชื้อในพื้นที่ควบคู่กัน เนื่องจากกังวลว่าเมื่อฝนตก
อาจไปชะล้างเชื้อโรคต่าง ๆ ไหลลงไปสู่ทางระบายน้ำ
จึงต้องมีการควบคุมตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอด
เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีสิ่งปนเปื้อนแปลกปลอมที่ก่อให้เกิดอันตรายกับคน
และคนที่เข้าไปในพื้นที่ทุกคน เมื่อออกมาต้องมีการสเปรย์ ล้างรองเท้า ล้างมือตลอด
ทั้งนี้
ข้อมูล ณ วันที่ 19
เม.ย.68 เวลา 10.00 น.
ผู้ประสบเหตุ 103 ราย เสียชีวิต 47 ราย
บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม 47 ราย สำหรับแผนการปฏิบัติงานในวันนี้ยังคงตามแผนเดิม
เพิ่มเติมงานในพื้นที่จัดเก็บวัสดุ
ให้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรไปช่วยกดเหล็กและเคลียร์พื้นที่
ด้านศูนย์พักพิงญาติผู้ประสบภัย
เขตจตุจักร สามารถรองรับผู้พักคอยได้ทั้งสิ้น 82 เตียง ว่าง 27 เตียง วันที่ 19 เม.ย. 68 เวลา
14.00น. มีผู้มาลงทะเบียนญาติผู้ประสบภัย จำนวน 9 ราย (เมียนมา 9 ราย) ยอดสะสมรวมทั้งสิ้น 214 ราย (ไทย 127 ราย เมียนมา 76 ราย
กัมพูชา 8 ราย ลาว 3 ราย) ล่ามอาสา 3
ราย (เมียนมา) ประสานงานการตรวจ DNA ให้กับญาติผู้ประสบภัย
จำนวน 2 ราย และประสานงานและนำส่งเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 6
ราย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ผู้ว่าฯชัชชาติ #กรุงเทพมหานคร #กทม #อาคารสตงถล่ม #สตง