“พิชัย“
ถกแก้สินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย วางกรอบระยะสั้น
“คุมคุณภาพ-เข้มขายออนไลน์-สกัดนอมินี” เร่งปราบสินค้าสวมสิทธิ์โชว์สหรัฐฯ
อ้างใครเลื่อนไม่เลื่อนเจรจาภาษีทรัมป์ไม่ใช่ประเด็น
แจงไทยรอจังหวะเจรจาคู่ค้าใหญ่ลงตัว เชื่อทำให้วางกรอบพูดคุยง่ายขึ้น ชี้ท่าทีจีน-เงื่อนไขทางการเงินมีส่วนในการพูดคุย
วันที่
25 เมษายน 2568 เสบ่ 11.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี
และ รมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์
ปลัดกระทรวงพาณิชย์
ร่วมแถลงผลการประชุมหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
นายพิชัย
ชุณหวชิร กล่าวว่า ที่ประชุมได้ติดตามเรื่องที่นายกรัฐมนตรี
มอบหมายให้ดำเนินการกรณีสินค้าที่ทะลักเข้าประเทศไทยอย่างมาก
ในระดับที่เรียกว่าเป็นชิ้นและเข้ามาพร้อมขาย ทั้งมีคุณภาพและด้อยคุณภาพ
โดยเรื่องนี้จะต้องไปติดตามดู เรื่องที่สองการพูดคุยกันร้านค้า
โดยเฉพาะภาคบริการที่เข้ามาในรูปแบบของนอมินี
เราจะมีวิธีการดำเนินการอย่างไรโดยทั้งหมดที่พูดนี้
เป็นเรื่องที่เรามอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดูแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
รองนายกฯ
กล่าวว่า สินค้าที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว
มีบางส่วนอยู่ในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายต่อบางส่วนนำเข้ามาแปรรูป
และส่งไปต่างประเทศตามที่เป็นข่าว
และเป็นเรื่องที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจับตาอยู่ว่าสินค้าเหล่านี้เป็นของไทยจริงหรือไม่
โดยจะตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น
นายพิชัย
กล่าวว่า
หลักในการควบคุมสินค้าจะเน้นดูของที่ไม่มีคุณภาพที่ทำให้ผู้บริโภคของเราปัญหา
ซึ่งลักษณะของสินค้าเหล่านี้ที่ไม่มีคุณภาพ จะพบว่ามีต้นทุนต่ำ
ขายราคาถูกเราจึงต้องมีมาตรการดูสินค้าจากต้นทางได้รับการอุดหนุนช่วยเหลือจากต้นทางทำให้ราคาถูกและไม่ได้คุณภาพ
เมื่อก่อนใช้เวลาตรวจนาน แต่ในระยะสั้นเราจะรับเรื่องและเข้าตรวจสอบทันที
ถ้าอธิบายไม่ได้ว่าทำไมต้นทุนถึงราคาถูก และจะร่วมมือกับองค์การอาหารและยา
ถ้าไม่ได้คุณภาพ จะยกยกเลิกทันทีโดยไม่ต้องรอผู้ที่มาร้องเรียน
นอกจากนั้นสินค้าทางออนไลน์ที่นำเข้ามาเก็บพักไว้และส่งต่อจำหน่ายอยู่ในแพลตฟอร์ม
เช่น Temu
หรือแพลตฟอร์มอื่นจะเข้าไปตรวจสอบว่าถูกต้องตามข้อบังคับหรือไม่
บางอันไม่มีฉลากหรือไม่มีใบรับรองมาตรฐาน
เราจะแจ้งเจ้าของแพลตฟอร์มให้ดึงออกจากระบบการขายทันที ไม่ให้โชว์หรือจำหน่าย
ดังนั้นไม่ว่าเจ้าของแพลตฟอร์มถ้าอยากจะขายสินค้าในไทย ต้องจดทะเบียนในประเทศไทย
และเป็นคนกลางที่เชื่อมระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อในไทย
เพื่อทำให้ทุกอย่างเข้าที่ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการที่เร่งทำใน
รมว.คลัง
กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องนอมินี ที่เข้ามาจดทะเบียนถือหุ้นไม่เกิน 50%
แต่บางเรื่องสามารถเกินได้ใน โดยจะเขัาไปดูส่วนที่ถือครองหุ้นตั้งแต่ 1-49
%จะต้องดูว่าผู้ที่ถือลำดับที่ 51% เป็นใครหรือเป็นนอมิมี
มีการลงทุนหรือไม่โดยจะต้องประสานกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย
ตรวจสอบการจดทะเบียนว่าจดจริงหรือไม่ นอกจากนั้นการเข้ามาถือหุ้นไม่ถึง 50%
เราจะไม่ให้ต่างชาติถือครองที่ดิน
แต่ถ้ามีการแอบแฝงเข้ามาซื้อที่ดินจะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องการถือครองที่ดินด้วยโดยให้กระทรวงมหาดไทย
เข้าไปช่วยดูในเรื่องการถือครองที่ดินเพื่ออะไรไม่ใช่เข้ามาถือครองธุรกิจแต่ดูเรื่องของที่ดินด้วย
นายพิชัย
กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาระยะปานกลาง และระยะยาว
จะต้องทบทวนกฎหมายให้เป็นสากลมากขึ้นมีการกำกับและควบคุมให้ดีขึ้น
และต้องดูว่าสินค้าและบริการประเภทไหนที่ไม่อนุญาตให้ทำ
จะต้องมีการทบทวนในเรื่องเหล่านี้อีกครั้งเพื่อให้ชาวโลกเห็นว่าเราไม่ได้ปิดล็อก แต่จะทำให้เกิดความเป็นสากล
เมื่อมีการออกกฎหมายมากำกับในทาง ก็จะทำให้การตรวจสอบเป็นสากลมากยิ่งขึ้น
นายพิชัย
กล่าวว่า นอกจากนั้นเฝ้าระวังเรื่องสินค้าสวมสิทธิ์ที่ผ่านเมืองไทยออกไป
และบางส่วนนำมาแปรรูปตบแต่งก่อนส่งออก ซึ่งอาจไม่ได้คุณภาพ
จึงต้องมาดูวิธีการเฝ้าระวังว่าประเทศที่นำส่งไปปลายทางมีปัญหาอย่างไร
และมาตรการนี้ได้รับการตอบรับที่น่าพอใจ เช่น สมมติประเทศสหรัฐอเมริการจับตาดูสินค้านี้อยู่ว่าเป็นสินค้าสวมสิทธิ์หรือไม่
โดยมีวอชลิส ประมาณ 49 ชนิด และส่งมาเพิ่ม 16ชนิด ที่ขอให้เราช่วยดู
โดยเราจะตรวจคัด ทั้งโรงงาน กระบวนการผลิต
และสอบถามเขาว่าสินค้าอย่างไรจึงจะไม่สวมสิทธิ์เมื่อทราบแล้วก็จะมาเข้มงวดดูแลให้ว่ามีมาตรฐานหรือไม่
เป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ และที่สำคัญคือต้องมีใบรับรอง ออกโดยกระทรวงพาณิชย์
สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ที่จะสามารถออกใบรับรองทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
พร้อมขอความร่วมมือบูรณาการทำงานเร็วฯเพื่อให้มาอยู่ที่ส่วนกลางและออกใบรับรองโดยกระทรวงพาณิชย์
ที่จะตรวจสอบผลิตให้เกิดความมั่นใจว่าสินค้ามีคุณสมบัติ
ส่งผ่านได้โดยไม่มีการนำสินค้ามาแวะตีตราที่ประเทศไทยแล้วส่งออก