จม.จากแดน
4 ฉบับวันที่ 26 ก.พ. 68 'อานนท์'
เขียน “ความเชื่อบางความเชื่อเกือบทำให้สมดุลธรรมชาติสิ้นสุดลง
วิถีการดำรงชีพอาจปรับสมดุลธรรมชาติแต่เมื่อความเชื่อบวกกับวิถีที่ผิดเพี้ยนไปก็อาจก่อหายนะได้”
วันที่
28 กุมภาพันธ์ 2568 เพจ “อานนท์ นำภา”
โพสต์จดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายระบุว่า จดหมายฉบับลงวันที่
26 ก.พ. 2568
เขียนจดหมายถึงพี่ภัคเสร็จ
เอนกายลงนอนฟังเสียงน้ำที่หยดในบ่ออาบน้ำช่างฟังคล้ายเสียงฝน ดูแมงเม่าตัวสองตัวบินเล่นไฟหลอดนีออนแล้วให้คิดถึงบางช่วงเวลาในวัย
ในคืนที่ฝนตกยิ่งตกหนักยิ่งดีจะมีแมงเม่าจำนวนมากออกมาบินเล่นแสงไฟ
เด็กสมัยนี้คงนึกภาพแมงเม่าเป็นฝูงฝูงมืดฟ้ามัวดินบินกันว่าเล่นแสงไฟไม่ออกแล้วเพราะหลังจากช่วงวัยเด็กของพ่อใกล้จะหมดไป
มีข่าวลือทางภาคอีสานถึงสูตรยาดองสมุนไพรที่ต้องใช้นางพญาปลวกเป็นส่วนประกอบ
เกิดปรากฏการณ์ออกล่านางพญาปลวกที่ภาคอีสาน จอมปลวกจอมแล้วจอมเล่าถูกขุดเพราะหาก้อนดินขนาดเท่าสองฝ่ามือประกบกัน
ในนั้นจะมีพญาปลวกลักษณะเป็นตัวหนอนสีขาวขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือ
ส่วนหัวจะเป็นปลวก (แมงเม่า)
ภาพจำในวัยเด็กของพ่อเรื่องแมงเม่าจึงค่อยค่อยเลือนหายไปกระทั่งในวันที่ได้เห็นแมงเม่าอีกครั้ง
หลายคนคงไม่ทราบว่าแมงเม่ากินได้
รสชาติออกมัน ๆ คั่วใส่เกลือหรือซอสอร่อยดี สมัยเด็กหลังฝนตก แมงเม่าจะออกมาเล่นไฟ
พวกเราจะเอาถาดขนาดใหญ่ใส่น้ำไปรองไว้ใต้หลอดไฟ
พ่อแมงเม่าบินตกลงไปปีกมันจะเปียกจนต้องทิ้งปีก เราจะได้ตัวแมงเม่ามาทำกิน
(กินเยอะจะเมา) จากความเชื่อเรื่องยาดองนางพญาปลวกทำให้แมงเม่าเกือบจะหมดไป
ความเชื่อบางความเชื่อเกือบทำให้สมดุลธรรมชาติสิ้นสุดลง
วิถีการดำรงชีพอาจปรับสมดุลธรรมชาติแต่เมื่อความเชื่อบวกกับวิถีที่ผิดเพี้ยนไปก็อาจก่อหายนะได้
เหมือนเช่นแมงเม่าได้ประสบพบเจอ
แด่แมงเม่าในความทรงจำ
รักและคิดถึงลูกทั้งสองคน
อานนท์
นำภา
26
ก.พ. 68
สำหรับ
อานนท์ นำภา ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน
2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63
จากนั้น
17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา"
เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี
2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว
8 ปี
ต่อมา
เมื่อวันที่ 29
เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น.
ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,
ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ
ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม
‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564
โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง
พิพากษาจำคุกรวม 3
ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท
ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท
ทำให้รวม
4 คดี อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20
วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ
4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566
และ 17 ม.ค. 2567
โดยเมื่อวันที่
3 ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา
มีนัดฟังคำสั่งที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์
โดยศาลอาญาพิพากษาจำเลยผิดตาม #มาตรา112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3)
ลงโทษจำคุก 3 ปี มีเหตุลดโทษตามมาตรา 78
ลดโทษ 1/3 คงจำคุก 2 ปี
นับโทษต่อจากคดีอื่น ทำให้รวมโทษจำคุกอานนท์เป็น 16 ปี 2
เดือน 20 วัน ใน 5 คดี
และวันที่
19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดฟังคำสั่ง ม.112
นับเป็นคดีที่ 6 #แฮรี่พอร์ตเตอร์1 โดยมีคำพิพากษา“ จำคุก 4
ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี 8 เดือน
ตามความผิดในข้อหา ม.112 ม.116 แต่ยกฟ้องในข้อหา
พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทำให้โทษจำคุกรวมล่าสุด 18 ปี 10 เดือน 20 วัน