วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

“เท้ง ณัฐพงษ์ ” เดินหน้าล่ารายชื่อ ส.ส. ถอดถอนประธาน ป.ป.ช. ปมคลิปหลุด เผยข้อมูลซักฟอกรบ.พร้อม 100% บอกไม่มีใครอยากเห็น “นิติบัญญัติ” ตีกับ “บริหาร” ปมสว.ขู่ยื่นถอด "ทวี"

 


“เท้ง ณัฐพงษ์ ” เดินหน้าล่ารายชื่อ ส.ส. ถอดถอนประธาน ป.ป.ช. ปมคลิปหลุด เผยข้อมูลซักฟอกรบ.พร้อม 100% บอกไม่มีใครอยากเห็น “นิติบัญญัติ” ตีกับ “บริหาร” ปมสว.ขู่ยื่นถอด "ทวี" 


วันที่ 23 ก.พ.2568 เวลา 10.00 น. ที่ wind and wild cafe กรุงเทพมหานคร นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าที่ พรรคประชาชนรวบรวมเข้าชื่อเพื่อยื่นถอดถอนประธาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนปัจจุบัน ว่า ตอนนี้ยังขาดรายชื่อบางส่วน ไม่มีปัญหาอะไร ส.ส.พรรคประชาชน ยังลงชื่อไม่ครบ แต่มั่นใจว่าได้ครบทุกรายชื่อแน่นอน และ ส.ส.ทุกคน ไม่ได้แสดงข้อกังวลใจใด ๆ พร้อมจะแสดงชื่อและยื่นต่อประธานรัฐสภา เราตั้งเป้าไว้ในช่วงสัปดาห์นี้จะล่ารายชื่อให้ครบ


เมื่อถามว่าหากล่ารายชื่อได้ครบแล้วแต่ประธานรัฐสภาไม่ส่งต่อ จะดำเนินการต่ออย่างไร นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่อยากเชื่อว่าประธานรัฐสภาจะดำเนินการแบบนั้น สังคมเห็นหลักฐานที่ประจักษ์ว่ามีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนใน ป.ป.ช. และรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าเป็นดุลพินิจของประธานรัฐสภา หากมีมูลเหตุที่เชื่อว่าเป็นไปตามข้อกล่าวอ้าง รัฐสภาจะต้องส่งต่อไปยังศาลฎีกาเพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะสังคมเฝ้ามองว่าการทำหน้าที่ของรัฐสภาเป็นอย่างไร


เมื่อถามว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา จะมีส่วนได้ส่วนเสีย ถูกมองว่าไม่โปร่งใสนั้น ถ้าไม่ดำเนินการต่อ พรรคประชาชนจะทำอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ยังไม่อยากวิเคราะห์มากขนาดนั้น ต้องรอดูก่อนหลังเรายื่นต่อประธานรัฐสภาจะดำเนินการอย่างไร เชื่อว่าท่านดำเนินการตรงไปตรงมา แต่ถ้าหากไม่ส่งขึ้นมาก็เชื่อว่าพรรคประชาชนจะพิจารณาแนวทางอื่นแน่นอน


นายณัฐพงษ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการทำงานของรัฐบาล ว่า ที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีความเป็นเอกภาพ ล่าสุด ที่เป็นประเด็นที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการที่สภาฯล่ม จากการประชุมวาระที่หนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะมีอีกหลายประเด็นที่พวกเราได้ข้อมูลมาหลายทาง บางส่วนก็ได้รับมาจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เห็นได้ชัดว่าการที่รัฐบาลขาดความมีเอกภาพ ทำให้การดำเนินนโยบายหลายอย่าง ซึ่งหลายนโยบายได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาไม่สามารถที่จะเดินหน้าเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้


เมื่อถามว่ารัฐบาลจะไปรอด 4 ปีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น เป็นการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ซึ่งเราเองไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้จะช่วยในการผลักดันนโยบายที่สำคัญเป็นนโยบายใหญ่ให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ ครึ่งเทอมที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดที่สุดแล้ว


"ผมเชื่อว่าประชาชนเฝ้ามองอยู่เช่นเดียวกัน และเชื่อว่าตอนนี้ รอยร้าวก็จะยิ่งแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภา แต่ไม่สามารถผลักกันได้ เพราะพรรคร่วมฯ ไม่เอาด้วย"นายณัฐพงษ์ กล่าว


เมื่อถามว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน วุฒิสภา (สว.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกมาซัดกัน จะมีข้อมูลลับมาถึงฝ่ายค้านให้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอกำลังดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว. ตนคิดว่า เป็นไปตามกระบวนการ สามารถดำเนินการได้ ส่วนมีข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ตนคิดว่า เรื่องนี้อยู่ในกรอบญัตติที่เราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะมีเรื่องนี้หรือไม่ขอให้รอติดตามดูกัน


เมื่อถามว่า 2 ฝ่าย นิติบัญญัติและบริหารปะทะกันแบบนี้ มองอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ในส่วนต่างๆของฝั่งรัฐบาลเอง ถึงแม้สว. โดยหลักการ อาจจะไม่ได้มีความยึดโยงกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ในสังคมเอง เราก็มีข้อคิดเห็นว่ามีความยึดโยงกับการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราจะเห็นแต่ว่า สว. มีการโต้ตอบ ขู่กลับว่าจะมีการร่วมลงชื่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญในการดำเนินการถอดถอนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการตอบโต้การทางการเมือง เป็นสิ่งที่ตนคิดว่าประชาชนไม่อยากเห็น เราอยากจะเห็นการเมืองที่ตรงไปตรงมา


เมื่อถามว่าความขัดแย้งนี้จะนำมาสู่การยื่นข้อมูลลับ เพื่ออภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่ได้บอก ประเด็นนี้อยู่ในกรอบญัตติแน่นอน จะมีเรื่องความไม่โปร่งใส การไม่ลงรอยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง รวมถึงปัญหาที่สำคัญของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือปัญหาอื่น ส่วนในรายละเอียดว่าตนจะพูดถึงไม่พูดเรื่องใดบ้าง ขอให้รอติดตามกันการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริง ๆ


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนนี้เกือบ 100% แล้ว เรื่องเนื้อหาก็มีความเข้มข้น แต่ตัวผู้อภิปรายเองรวมถึงประเด็นที่จะอภิปราย ขอยังไม่บอก รอให้อภิปรายจริง ๆ รอติดตามกันดีกว่า


เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันแบบนี้ จะส่งผลให้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการซื้อเสียงงูเห่าจากพรรคประชาชนไปโหวตรัฐมนตรีรายบุคคลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าพรรคประชาชนเป็น 1 ในกระบวนการอย่างนั้น ถ้ามีก็อาจจะมีได้


"ผมเชื่อมั่นว่าไม่มี สส.ของพรรคประชาชนคนไหนที่จะโหวตสวนหรือถูกซื้อตัวไปโหวตให้กับฝั่งรัฐบาลแน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าว


เมื่อถามว่ามีการคาดโทษคนในฝ่ายค้านหรือไม่ หากโหวตสวน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นิยามของพรรคร่วมฝ่ายค้านคือคนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้น จะไปคาดโทษเขาไม่ได้ สส.ของแต่ละพรรคที่จะโหวตหรือไม่โหวตอย่างไรก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้านเอง แต่ตนคิดว่าสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากฝ่ายค้านคือการตรวจสอบรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ตรวจสอบเพื่อที่จะเอาไปใช้เป็นผลประโยชน์หรือข้อต่อรองทางการเมืองใด ๆ หรือไม่


เมื่อถามว่าสูตรรัฐบาลใหม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคประชาชนจะเข้าร่วม นายณัฐพงษ์ กล่าวทันทีว่า “คงเป็นไปไม่ได้ครับ เราประกาศชัดว่าในสมัยสภาชุดนี้คงไม่ได้ไปร่วมเป็นฝ่ายบริหารแน่นอน ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อ”


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน