‘ษัษฐรัมย์’ ขอโทษผู้ประกันตน ม.39 กว่า 300,000 คน บอร์ดประกันสังคมตีกลับ ‘บำนาญสูตรใหม่’ ถูกมองซับซ้อนเกินไป รอพิจารณาใหม่ครั้งหน้า มี.ค. 68
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อาคารเอนกประสงค์ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.นนทบุรี รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) สัดส่วนผู้ประกันตน (ลูกจ้าง) เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ครั้งที่ 4/2568 ถึงประเด็นการพิจารณาวาระการปรับสูตรเงินบำนาญใหม่ว่า
วันนี้ต้องขอโทษต่อผู้ประกันตน ตามวาระที่ได้แจ้งไว้เรื่องการปรับสูตรคำนวณบำนาญใหม่ ที่เราพยายามอย่างเต็มที่ ยังไม่ได้รับมีการพิจารณาในประเด็นดังกล่าว และจะพิจารณาใหม่ในการประชุมครั้งหน้า ที่คาดว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน มี.ค. 2568 เนื่องจากถูกมองว่าสูตรในคำนวณใหม่นี้มีความซับซ้อนมากเกินไป ซึ่งสะท้อนว่ายังไม่สามารถสื่อสารให้โดยรวมเกิดความเข้าใจได้ ส่วนจะได้มีผลบังคับใช้ได้เมื่อไหร่นั้น ขอให้ทุกคนติดตามกันต่อไป
โดยผลการประชุมในวันนี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนมาตรา 39 กว่า 3 แสนคนที่เราเคยคำนวณไว้ว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ส่วนนี้เพิ่มโดยตรง ส่วนนี้ผมขออภัยผู้ประกันตนที่ติดตามทีมประกันสังคมก้าวหน้า
ทีมประกันสังคมก้าวหน้า เราพยายามที่จะสื่อสารเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนอย่างเต็มที่ เคยมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ตนซึ่งเขาเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 เขากำลังทำคีโมอยู่ แต่ว่าเงินบำนาญของเขาลดลงไป 50% ถ้าเขายังส่งเงินสมทบมาตรา 39 ต่อไป ซึ่งนี่คือความเจ็บปวดที่เรารู้สึกกับคนธรรมดา เมื่อต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 432 บาทต่อเดือน แต่จะได้รับเงินบำนาญเพียงแค่กว่า 1,000 บาท ดังนั้น เงินกองทุนมหาศาลแบบนี้ ต้องอยู่ในที่สว่าง ต้องส่งสารให้ทุกคนได้ยิน รศ.ดร.ษัษฐรัมย์
สำหรับสูตรคำนวณบำนาญใหม่นี้มีการนำเสนอเข้าอนุกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เดือน ต.ค. 2567 โดยเป็นสูตรคำนวณที่จะมีการปรับตามอัตราเงินเฟ้อของค่าครองชีพของผู้ประกันตน เช่น จากการคำนวณที่เคยคำนวณจากการได้รับเงินเดือน 5,000 บาทเมื่อ 20 ปีก่อน สูตรใหม่นี้จะนำมาคำนวณใหม่ให้เท่ากับว่าได้เงิน 7,000 บาทตามอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะเป็นค่าเฉลี่ยตลอดอายุการทำงาน
“แน่นอนว่าประกันสังคมจะต้องใช้เงินเยอะขึ้น แต่ทางฝ่ายวิจัยได้คำนวณมาว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของกองทุนฯ ซึ่งในระยะ 10 ปีจะใช้เงินราว 6 หมื่นล้านบาทจากสถานะกองทุนฯ ที่มีเงินจำนวน 2.6 ล้านล้านบาท แต่จะช่วยผู้ประกันตนได้มากกว่า 3 แสนคนที่ได้รับประโยชน์โดยตรง พร้อมกับการชดเชยผู้ที่ได้รับเงินบำนาญน้อยลงภายใต้เงื่อนไขสูตรบำนาญใหม่
ซึ่งมติในที่ประชุมคือ ให้กลับไปศึกษาและนำเสนอมาอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่อยากบอก คือเราได้มีการนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนว่าไม่มีผลกระทบต่อใคร เป็นข้อมูลที่ศึกษามาจนเสร็จแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค. 2567 ไม่ได้มีข้อมูลที่ซับซ้อน ดังนั้นการที่ไม่สามารถอนุมัติให้สิ่งเหล่านี้ผ่านไปได้ จึงเป็นปัญหาใหญ่ในเรื่องมุมมองของ 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่เชื่อว่าคนเท่ากัน และควรมีชีวิตที่ดี กับฝั่งที่เชื่อว่าคนกลุ่มหนึ่งต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบเพื่อที่จะมีชีวิตธรรมดา
รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า อยากบอกว่าความมืดมิดทุกอย่างกลัวแสงสว่าง จึงอยากให้ช่วยกันตรวจสอบ เพราะจะเป็นการช่วยทำให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้ประโยชน์
โดยฝากกับประชาชนว่าช่วยกันส่องแสง ส่งเสียง นี่คือเงินของคนธรรมดาอย่างพวกเรา ประกันสังคมคือประการด่านสุดท้ายของคนหาเช้ากินค่ำ เราจะไม่ยอมให้อภิสิทธิ์ชนผลาญเงินอย่างไม่สมเหตุสมผล รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวทิ้งท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ประกันสังคม #ประกันสังคมก้าวหน้า