จม.จากแดน 4 ฉบับวันที่ 21 ก.พ.68 “อานนท์” เขียน ตอนนี้เรามองอะไรและเราเห็นอะไร? ด้วยฝันและเฝ้ารอที่กำลังลงมือ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์จดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายระบุว่า จดหมายฉบับลงวันที่ 21 ก.พ. 2568
สิ่งที่มองบางทีก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เห็นและอาจบางทีกว่าจะเห็นอะไรบางอย่างก็ต้องเฝ้ามองสักระยะ เมื่อเห็นแล้วก็ต้องคิดใคร่ครวญอีกว่าสิ่งที่เห็นมันเป็นจริงเหมือนที่เราเห็นหรือไม่
ในทุกวันพ่อมักจะมองไปที่ท้องฟ้า เคยมีคนบอกว่าความจริงแล้วฟ้าไม่ได้มีสีฟ้าเหมือนที่เราเห็น แม้พระอาทิตย์เองก็ไม่ได้มีสีส้มแดงอย่างที่เราเข้าใจ เอามาแทนที่สิ่งที่เราเห็นเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ ง่ายต่อการสื่อสารและง่ายต่อการบันทึก เมื่อเราวาดภาพพื้นที่กว้างๆด้วยสีฟ้าแล้ววาดวงกลมสีส้มแดงตรงกลาง ก็อาจเป็นเพียงการสื่อสารถึงพระอาทิตย์ขึ้นในเวลากลางวัน เพราะถ้าเราแทนที่สิ่งที่สื่อสารความจริงก็อาจสื่อความหมายไม่ตรงกัน
ตอนนี้เรามองอะไรและเราเห็นอะไร?
ด้วยฝันและเฝ้ารอที่กำลังลงมือ
ทุกครั้งที่พ่อไปศาล พ่อมักจะเฝ้ามองปรากฎการณ์ต่างๆ มองผู้คนและการแสดงออกของเรา ในความรู้สำนึกของสิ่งที่มองและสิ่งที่เห็น อาจแทนค่าได้อีกหลายความหมาย การเห็นอาจไม่เห็น การมีอาจไม่มี การไม่เห็นและการไม่มีบางทีก็มีความหมายกว่าที่เห็นและมี
เราอาจเห็นไม่เหมือนกันในการมองไปในห้วงเวลาหนึ่ง หากแต่ปลายทางเราอาจรู้ได้ว่าจะนำไปสู่อะไร สิ่งที่พวกเราต้องเผชิญ “ร่วมกัน” คือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้หากไม่มีการแทรกแซงหรือเปลี่ยนเงื่อนไขระหว่างนี้ เป็นสมการที่ต้องการตัวแปรใหม่ๆเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ เราไม่อาจเฝ้ารออย่างเลื่อนลอย เราไม่อาจฝันลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
ด้วยฝันและเฝ้ารอที่กำลังลงมือ
อานนท์ นำภา
21 ก.พ. 68
สำหรับ อานนท์ นำภา ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63
จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564
โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท
ทำให้รวม 4 คดี อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567
โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา มีนัดฟังคำสั่งที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ โดยศาลอาญาพิพากษาจำเลยผิดตาม #มาตรา112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ลงโทษจำคุก 3 ปี มีเหตุลดโทษตามมาตรา 78 ลดโทษ 1/3 คงจำคุก 2 ปี นับโทษต่อจากคดีอื่น ทำให้รวมโทษจำคุกอานนท์เป็น 16 ปี 2 เดือน 20 วัน ใน 5 คดี
และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดฟังคำสั่ง ม.112 นับเป็นคดีที่ 6 #แฮรี่พอร์ตเตอร์1 โดยมีคำพิพากษา“ จำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี 8 เดือน ตามความผิดในข้อหา ม.112 ม.116 แต่ยกฟ้องในข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทำให้โทษจำคุกรวมล่าสุด 18 ปี 10 เดือน 20 วัน