“ขนุน” ย้ำการอดอาหาร ไม่เพียงเรียกร้องสิทธิประกันตัว
แต่เรียกร้องอิสรภาพที่ถาวรให้ผู้ถูกกล่าวหาทางการเมือง 25 ก.พ.
68 อดอาหารเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว
เมื่อวันที่
24 ก.พ. 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษน รายงานว่า ทนายความเข้าเยี่ยม
“ขนุน” สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ นักกิจกรรมวัย 24 ปี
และผู้ต้องขังระหว่างอุทธรณ์ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังขนุนได้ตัดสินใจเริ่มอดอาหารประท้วง
เพื่อเรียกร้องการสร้างอิสรภาพที่ถาวรสำหรับผู้ถูกกล่าวหาทางการเมือง มาตั้งแต่วันที่
21 ก.พ. 2568 วันนี้นับเป็นการอดอาหารวันที่
4 แล้ว
ขนุนดูใบหน้าตอบ
และแววตาโรยลง แต่ไม่รู้ว่าร่างกายเขาซูบลงไป หรือขนาดเสื้อที่ตัวใหญ่เกิน
ทำให้มองดูขนุนตัวเล็กลง เขาออกมาพร้อมขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตร 1 ขวด โดยตลอดการพูดคุย เขาจะหยิบน้ำขึ้นจิบตลอดการสนทนา
ขนุนแจ้งถึงน้ำหนักตัวที่ลดลงไปประมาณ
3 กิโลแล้ว และความดันที่ค่อนข้างต่ำในวันนี้
แต่เขายังไม่มีอาการเพลียหรืออ่อนล้า ยังนอนหลับได้ปกติ แต่มีอาการหน้ามืดบ้าง
หลังจากตื่นนอนขึ้นมาหรือเวลาที่ลุกขึ้นมาเร็ว ตอนนี้ยังดื่มน้ำขวดใหญ่ประมาณวันละ
2 ขวด และระมัดระวังในการลุกหรือเดิน
เมื่อบอกเล่าถึงสถานการณ์หลังเขาประกาศอดอาหาร
ขนุนบอกว่าเขาไม่ได้เรียกร้องเพียงสิทธิในการประกันตัว แต่ยังเรียกร้อง
“อิสรภาพที่ถาวร” สำหรับผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองโดยไร้เงื่อนไข
และเรียกร้องให้ยุติการนำมาตรา 112 มาใช้ในทางการเมือง
โดยเขาฝากเนื้อหามาในแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ดังนี้
จุดเริ่มต้นของอิสรภาพที่ถาวร
มันดูเป็นคำที่กว้างใหญ่ไพศาล
เช่นเดียวกับมหาความฝันของปวงประชา ที่กล่าวถึงการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างระดับชาติ
แต่หากย้อนกลับมาดูจุดเริ่มต้น มันช่างแสนเรียบง่าย
อิสรภาพถาวรสำหรับผมจุดเริ่มต้นแรก คือ การนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง โดยรวมมาตรา 112 อย่างไร้เงื่อนไขโดยเร่งด่วน
สามารถดำเนินการได้โดยฝ่ายบริหาร (รัฐบาล) และ ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา)
ทุกคนที่โดนคดีทางการเมือง ทั้งจากการถูกกลั่นแกล้ง
ล้วนมีเจตนารมณ์ที่จะสรรค์สร้างและบอกเล่าถึงความฝันของตนเอง
อย่าให้ผู้ปรารถนาดีต่อประเทศเหล่านี้ ต้องสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับพวกเขาอย่าง
“ชีวิต” ไปอีกเลย
แด่อิสรภาพถาวร
สิรภพ
พุ่มพึ่งพุทธ
24
กุมภาพันธ์ 2568
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
แดน 4
ขนุนเล่าต่อว่าเขาคิดเรื่องการอดอาหารมาประมาณ
2 เดือนแล้ว ได้เตรียมร่างกายมาก่อน โดยค่อย ๆ ลดการกินอาหารเหลือวันละ 1-2
มื้อ การแสดงออกนี้จึงไม่ใช่ความคิดชั่ววูบ แต่ผ่านการไตร่ตรอง
โดยเชื่อว่าในช่วงเริ่มต้นของทุกอย่างอาจจะไม่ได้ดีเสมอไป ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
เรียกได้ว่ามันเป็นธรรมดาของชีวิตหรืออุดมการณ์ หรือคติของชีวิตก็ว่าได้
“ผมคิดว่าคนอาจจะกำลังงงอยู่ว่านี้ไอ้นี่เป็นใคร หรืออดอีกแล้วเหรอ
ผมเลยเลือกที่จะกินน้ำเพื่อให้สื่อสารได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทุกอย่างต้องใช้เวลา” ขนุนบอกถึงความเชื่อของเขา
ขนุนบอกว่าหลังเขาเริ่มอดอาหาร
ทางเรือนจำเริ่มให้เขาไปเช็คน้ำตาลและความดันที่ พบ. หรือสถานพยาบาลในเรือนจำ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยถึงสาเหตุการอดอาหาร
ให้เซ็นเอกสารที่เกี่ยวกับการแสดงความประสงค์เรื่องการอดอาหารและเรื่องการช่วยเหลือทางการแพทย์
รวมทั้งยังมีการให้เพื่อนผู้ต้องขังเข้ามาพูดคุย พยายามให้เขาเลิกอดอาหาร
ให้เลือกใช้วิธีการอื่นดู แต่เขายังยืนยันความตั้งใจของตนต่อไป
ขณะพูดคุย
ขนุนยังคงยิ้มและหัวเราะ พูดคุยฉะฉาน เขาบอกว่าถ้าพูดเยอะ ๆ อาจจะเริ่มเหนื่อย
แต่เขายังพยายามมีสติอยู่ตลอดเวลา และพยายามเซฟพลังงานในร่างกาย
โดยการนอนพักให้มากที่สุด
ก่อนจากกัน
ขนุนเน้นย้ำว่า หมุดหมายสำคัญของการอดอาหารของเขาครั้งนี้
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเร่งกระบวนการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง
ซึ่งเขาเห็นว่ายังเป็นไปอย่างเชื่องช้า
“ข้อเรียกร้อง 2 ข้อ ในแถลงการณ์ฉบับที่ 1 นั้น ผมคิดมาค่อนข้างนาน แต่เดิมจะใช้ประโยค ‘นิรโทษกรรมคดี 112’ ด้วยซ้ำ แต่ก็มองว่ามันไม่จบ แม้จะได้ประกัน
แต่ตราบใดที่มีการใช้กฎหมายกฎปราบประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพ ปัญหาก็ไม่จบไป
เลยเป็นที่มาของแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ที่ใช้ชื่อว่าอิสรภาพที่ถาวร”
ขนุนทิ้งท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ขนุนสิรภพ #มาตรา112 #คืนสิทธิประกันตัวประชาชน