“ทวี”
กังวลความปลอดภัยพยานรู้เห็นองค์กรอาชญากรรมคดีฮั้ว สว. หากต้องเปิดชื่อให้ “กคพ.”
ดู สวนก๊วนสว. ไม่อยากให้ดีเอสไอทำ ให้ไปแก้กม.เอา ยันไม่มีการล็อบบี้โหวตให้ได้เสียง
2 ใน 3 ดันเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2568) พ.ต.อ. ทวี
สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)
กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการ กคพ.ในช่วงบ่ายวันนี้ (25 ก.พ.)
เพื่อพิจารณารับคดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ว่า คณะกรรมการ กคพ. มี 22 คน
สามารถนำคดีอาญาเป็นคดีพิเศษได้ โดยต้องใช้มติ 2 ใน 3 คือ 15 คน โดยคณะกรรมการ
กคพ.มีความเป็นอิสระ ยึดเกณฑ์ทั้งในส่วนของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ
ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม
ส่วนในประเด็นดังกล่าวมี 2 ส่วน ส่วนแรก
มีการสอบสวนเป็นความผิดอาญาอื่น เช่น กรณีมีการกล่าวหา ซึ่งไม่ได้กล่าวหา สว.
แต่เป็นการใช้ภาษากฎหมาย เป็นอั้งยี่ คือ
เป็นสมาชิกคณะบุคคลที่ปกปิดวิธีดำเนินการเพื่อกระทำมิชอบด้วยกฎหมายและผู้เป็นหัวหน้าของอั้งยี่
หากเป็นอั้งยี่ธรรมดา โทษ 7 ปี ถ้าเป็นคณะอั้งยี่หรือกรรมการ โทษ 10 ปี
แต่ถ้าเป็นอั้งยี่ที่รวมตัวกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเรียกว่าซ่องโจร
ยืนยันไม่ได้กล่าวหาใคร แต่เป็นภาษาของประมวลกฎหมายอาญาที่มีมานานแล้ว
และยังบังคับใช้อยู่
พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า
การเลือกตั้งเพื่อให้ได้มาต้องไปดูกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่ง
กกต.ระบุว่ามีความผิดที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ซึ่งมีอยู่ 6 ฉบับ
ขณะที่ กกต.ต้องปฏิบัติตามระเบียบ จะมีในเรื่องหมวดการสอบสวน โดยมอบให้หน่วยงานอื่นคือ
ตำรวจหรืออัยการ เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องเนื้อหา
เนื่องจากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเลือก สว.ที่ผ่านมาได้ใช้งบประมาณไป 1.5
พันล้านบาท และอำนาจอธิปไตยทางนิติบัญญัติถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ถือเป็นการดีต่อ สว.ว่าเมื่อถูกกล่าวหาว่าการได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการ
กคพ.จึงจะไปดู วันนี้จึงให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีดเอสไอ)
นำพยานหลักฐานให้คณะกรรมการ กคพ. ดูอย่างตรงไปตรงมา
แต่เนื่องจากการประชุมเป็นความลับ
โดยเฉพาะบุคคลที่มาเป็นพยานซึ่งมีหลายคนต้องคุ้มครอง
หลายคนรู้เห็นในองค์กรอาชญากรรม คนที่มาเป็นพยานพูดเองว่ารู้เห็นในองค์กรการกระทำผิดครั้งนี้
ส่วนที่
สว.ออกมาระบุว่าเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงและล้มล้างฝ่ายนิติบัญญัตินั้น พ.ต.อ. ทวี
กล่าวว่า ขณะนี้ สว.ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
เรายังไม่ได้บอกว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่ต้องไปต่อว่าผู้บัญญัติประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ ผู้ร้องได้ตั้งข้อสังเกตว่าในระหว่างที่มีการเลือก สว. เพราะเหตุใด
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็เลือกเบอร์ตามที่โพยตั้งไว้ทั้งหมด
แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่อยู่ในรายชื่อ 140 คนจะเป็นผู้กระทำความผิด
บางคนอาจจะไม่ทราบเรื่อง เพียงแต่มีคนไปใส่ชื่อให้ ซึ่งในขั้นตอนการสอบสวน
ข้อหานี้เป็นข้อหาที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก คณะบุคคล และเกี่ยวข้องกับข้อหาหมวด 116
ด้วย แต่การรับเป็นคดีพิเศษไม่ได้หมายความว่าถูกหรือผิด
แต่เป็นการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์หรือกระทำความผิด
หากทำความผิดก็นำตัวไปฟ้องเพื่อลงโทษต่อไป
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายบริหารไปแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ
จะขัดต่อรัฐธรรมนูญที่อยากให้การทำงานของทั้งสองฝ่ายเป็นอิสระต่อกันหรือไม่ พ.ต.อ.
ทวี กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เคยแทรกแซง และปฏิบัติภายใต้รัฐธรรมนูญ
โดยได้กำชับพนักงานสอบสวนว่าต้องทำหน้าที่สุจริต โปร่งใส ปราศจากอคติ
ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ข้อเท็จจริงใดหากไม่มีพยานหลักฐานจะเป็นความเชื่อไม่ได้ ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ
พยานเอกสาร และพยานผู้เชี่ยวชาญคณิตศาสตร์ ซึ่งผู้ที่มาร้องเป็นผู้เสียหายว่า
หากไม่เกิดกระบวนการเช่นนี้เขาควรจะมีสิทธิ์ได้เป็น สว. ซึ่งมีจำนวนมาก
และมีความประสงค์จะร้องทุกข์มีเป็นร้อยคน
ยืนยันจะให้ความเป็นธรรม
และการรับเป็นคดีพิเศษถือเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์หรือความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่
จะไม่มีอคติ และย้ำว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง เพราะเป็นเรื่องที่ทางดีเอสไอ
และกกต.ดำเนินการอยู่แล้ว
พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนกรณี สว.ตั้งข้อสังเกตว่า
ดีเอสไอไม่มีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ก็ต้องไปแก้กฎหมาย
ส่วนแนวโน้มที่ประชุมคณะกรรมการ กคพ. วันนี้จะได้เสียงถึง 15 คน
ให้รับเป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น ตนได้กำชับไม่ให้มีการล็อบบี้ใคร
เพียงแต่การส่งเอกสารจะมีชื่อพยานบุคคลไม่ได้ เพราะหลายคนรู้เห็นในองค์กรอาชญากรรม
ซึ่งเขาบอกว่าหากชื่อหลุดไปอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนยอมรับว่ารู้สึกหนักใจ
เพราะอยากให้ปิดบังชื่อพยาน แต่หากกรรมการอยากดูชื่อก็จะให้ไปดูกับพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ มีการมองว่า
เรื่องนี้เป็นการตบจูบกันระหว่างแกนนำรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันจะไปสุดทาง
ไม่มีหยุดกลางทางใช่หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า พรรคร่วมจะต้องมีความสามัคคีกัน
แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ตนเป็นหนึ่งในพรรคร่วม เคารพในพรรคร่วม ไม่เคยไปกล่าวร้ายใคร
ทุกอย่างขอให้พยานหลักฐานเป็นตัวบ่งชี้