“ณัฐพงษ์” ถามจุดยืนกระจายอำนาจรัฐบาล‘เพื่อไทย’
พร้อมร่วมมือเพิ่มสัดส่วนรายได้ท้องถิ่นถึงเป้า-สถาปนาอำนาจท้องถิ่นในรัฐธรรมนูญหรือไม่
ย้ำพรรคประชาชนหนุนเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดทุกจังหวัด ไม่เอาผู้ว่า CEO
วันที่
18 มกราคม 2568 ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมเวทีประชันวิสัยทัศน์ เลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ 2568
ในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองระดับชาติ จะผลักดันการกระจายอำนาจอย่างไร
โดยกิจกรรมนี้จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ณัฐพงษ์กล่าวว่า
เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมาก แต่ขณะเดียวกันมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข
เช่น เชียงใหม่ติดอันดับ 3
จังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในประเทศ และเป็นอันดับ 3
เช่นกันในจำนวนสัดส่วนประชากรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ
ถ้าวัดตามดัชนีความก้าวหน้าของคน เชียงใหม่มีปัญหาด้านสาธารณสุขรั้งท้าย 10
จังหวัดในประเทศ
ดังนั้นการเมืองท้องถิ่นควรเข้ามาตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวเชียงใหม่ใน 3
เรื่องคือเศรษฐกิจปากท้อง ทำอย่างไรให้ทั่วถึงเท่าเทียม, สิ่งแวดล้อม เช่นปัญหา PM 2.5 และปัญหาสาธารณสุขการดูแลสุขภาพของชาวเชียงใหม่
ตั้งแต่อนาคตใหม่
ก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชน จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน เราผลักดันการกระจายอำนาจ
และทราบว่าพี่น้องชาวเชียงใหม่ผลักดัน พ.ร.บ.เชียงใหม่มหานครมาเป็นเวลานาน
ตนเป็นคนหนึ่งที่ขึ้นปราศรัยที่เชียงใหม่เมื่อปี 2565 ในแคมเปญยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น
เพราะเราต้องการสถาปนาอำนาจของท้องถิ่นให้ชาวเชียงใหม่บริหารจัดการงบประมาณ
ออกแบบนโยบาย และความเป็นไปในจังหวัดได้เอง ท้องถิ่นมีอำนาจทำได้ทุกอย่าง
ยกเว้นเรื่องศาล ทหาร เงินตรา การต่างประเทศ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ชาวเชียงใหม่ที่ควรเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดได้แบบกรุงเทพฯ
แต่ควรทำให้เกิดขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศพร้อมๆ กัน
แต่การผลักดันการกระจายอำนาจปลดล็อกท้องถิ่น
อบจ.ทำเองไม่ได้ ต้องอาศัยพรรคการเมืองระดับประเทศ
ตนจึงต้องตั้งคำถามว่านโยบายผู้ว่า CEO เป็นนโยบายที่ตอบโจทย์การกระจายอำนาจจริงหรือไม่
ปัญหาความทับซ้อนของอำนาจระหว่างผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้งกับนายก อบจ.
ที่ชาวเชียงใหม่เป็นคนเลือกมากับมือ ใครจะสามารถรู้ปัญหา
ตอบโจทย์ชาวเชียงใหม่ได้มากกว่า นี่เป็นเรื่องจุดยืน ความชัดเจน ความจริงใจ
ที่ชาวเชียงใหม่ควรได้ทราบเพื่อให้ได้คำตอบว่าท่านจะลงคะแนนให้ใครในวันที่ 1
กุมภาพันธ์นี้
“วันนี้เราต้องถามว่าจุดยืนของพรรคการเมือง
ต้องการผลักดันการกระจายอำนาจไปถึงจุดไหน สำหรับผมและพรรคประชาชน
นายกหรือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ผู้ว่า CEO แน่นอน” ณัฐพงษ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวต่อว่า
ในรัฐสภาสมัยนี้ ไม่มีทางที่พรรคประชาชนไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
แต่ถ้าวันนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าต้องการผลักดันการกระจายอำนาจ
มีบางประเด็นที่เราสามารถผลักดันร่วมกันได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกว่าประชาชนยังไม่พร้อม
คือการผลักดันกฎหมายระดับพระราชบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร
เช่นสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นต่อรัฐบาล
ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 บนเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทยมีนโยบายชัดเจนว่าต้องการผลักดันให้สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลส่วนกลางถึง
35% โดยเร็วที่สุด คำถามคือโดยเร็วที่สุดคือเมื่อไหร่
เรื่องนี้ถ้าต้องการผลักดันแก้ไข เริ่มได้เลย
จะให้พรรคประชาชนหรือพรรคเพื่อไทยเสนอกฎหมายก็ได้ เขียนให้ชัดใน
พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ขั้นต่ำ 35% ทำให้สำเร็จในสมัยนี้
ตนเชื่อว่าเราโหวตสนับสนุนร่วมกันได้
นอกจากนี้
กลางเดือนกุมภาพันธ์จะมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อปลดล็อกให้มี
สสร. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เรื่องการกระจายอำนาจของไทย
เราต้องสถาปนาไว้ในระดับรัฐธรรมนูญ
เพราะปัจจุบันมีกฎหมายที่กำหนดอำนาจของส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นทับซ้อนกันเยอะแยะไปหมด
ดังนั้นวันนี้ถามชัดๆ ถ้าพรรคเพื่อไทยยืนยันหลักการเรื่องการกระจายอำนาจ
เรื่องการสถาปนาอำนาจท้องถิ่นไว้ในรัฐธรรมนูญ ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร
ณัฐพงษ์ทิ้งท้ายว่าขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ทุกคน
1 กุมภาพันธ์นี้ ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ตัดสินอนาคตของเชียงใหม่
สร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อบจเชียงใหม่