วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2568

ปชน. ปราศรัยใหญ่เลือกตั้ง อบจ.นครนายก ผนึกกำลัง “จักรพันธ์ จินตนาพากานนท์” พานครนายกไปต่อ ขอนายจ้างอนุญาตแรงงานใช้สิทธิเลือกตั้ง 1 กุมภาพันธ์ ไม่ถือเป็นวันลาวันหยุด

 


ปชน. ปราศรัยใหญ่เลือกตั้ง อบจ.นครนายก ผนึกกำลัง “จักรพันธ์ จินตนาพากานนท์” พานครนายกไปต่อ ขอนายจ้างอนุญาตแรงงานใช้สิทธิเลือกตั้ง 1 กุมภาพันธ์ ไม่ถือเป็นวันลาวันหยุด


วันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ตลาดนัดศรีเมือง ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก พรรคประชาชนเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงสำหรับการเลือกตั้ง อบจ.นครนายก ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง จักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ หรือ “จิม” เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.นครนายก เบอร์ 2 พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.อบจ. ทั้ง 19 คน โดยกิจกรรมในวันนี้มีทั้งแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมการปราศรัยและพบปะประชาชนที่มารับฟังปราศรัยอย่างคึกคัก


จักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ ได้กล่าวถึงผลงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมาของการเป็นนายก อบจ.นครนายก ทั้งด้านการท่องเที่ยว การศึกษา สาธารณสุข การเกษตร โดยระบุว่าตนภาคภูมิใจที่ อบจ.นครนายก เป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่นำโดรนการเกษตรมาช่วยชาวนาหว่านข้าวหว่านปุ๋ยพ่นยาฟรี มีนวัตกรรมวัคซีนพืชเพื่อเพิ่มผลผลิต 4 ปีที่ผ่านมาได้ทำหลายนโยบายสำเร็จ อีก 4 ปีข้างหน้านครนายกจะดีกว่านี้ เพราะตนจะทำงานร่วมกับพรรคประชาชน ซึ่งมีบุคลากรที่มีความสามารถ มีความใส่ใจและซื่อสัตย์ต่อประชาชน มาช่วยคิดช่วยทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุดกับชาวนครนายก 


การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนต้องการต่อยอดและวางรากฐานความเจริญให้กับจังหวัดอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ยกตัวอย่างนโยบายเช่นการสร้างศูนย์เครื่องจักรการเกษตรของ อบจ.นครนายก เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้พี่น้องเกษตรกร ด้านการท่องเที่ยว จะจัด 12 เดือน 12 อีเวนต์ กระจายทั้ง 4 อำเภอ เพื่อดึงเงินเข้าจังหวัดและกระจายไปทุกชุมชนมากขึ้น การนำโดรนมาช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เพราะที่ผ่านมานครนายกเกิดไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อปี 2563 และปี 2566 ถ้ามีโดรนจะช่วยให้ดับได้เร็วและไฟไม่ขยายวงกว้าง เจ้าหน้าที่จะทำงานรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น นโยบายสาธารณสุข อสม.เยี่ยมเยียนถึงบ้าน พร้อมกระเป๋าบริการสุขภาพ (Health Service Box) เช็กสุขภาพแล้วเชื่อมระบบข้อมูลกับโรงพยาบาล รวมถึงนำระบบรับเรื่องร้องเรียน “ทราฟฟี่ฟองดูว์” เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกไปแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ทันที 


จักรพันธ์ทิ้งท้ายว่าตนเกิดและเติบโตที่จังหวัดนครนายก ต้องการให้สิ่งดีๆ ที่กล่าวมาเกิดขึ้นที่นครนายก ดังนั้น 1 กุมภาพันธ์ขอเชิญชวนประชาชนออกไปเลือกตั้ง ร่วมกันพานครนายกไปต่อ


จากนั้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่าตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน หนึ่งในนโยบายหลักที่เรารณรงค์คือการกระจายอำนาจ และเราเชื่อว่าจะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ประชาชนได้ การเมืองระดับชาติอย่างเดียวไม่พอแต่การเมืองท้องถิ่นต้องเปลี่ยนแปลงด้วย 


พรรคประชาชนเป็นพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในระดับ อบจ. และระดับตำบล ได้รณรงค์ให้คนเห็นถึงความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น วันนี้หลายพรรคการเมืองส่งผู้สมัครในนามพรรคเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่ใดที่มีการดีเบตนโยบาย นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนตื่นตัวและเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่นมากขึ้น


ธนาธรกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาเรามีโอกาสทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายพื้นที่ ทั้งเรื่องการพัฒนาน้ำประปาให้มีคุณภาพถึงขั้นดื่มได้ การพัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล การนำทราฟฟี่ฟองดูว์มาใช้บริหารจัดการข้อร้องเรียนของประชาชนก่อน กทม. นำมาใช้เสียอีก การจัดการขยะแบบแยกวันแยกประเภท เป็นต้น


และนั่นทำให้การเลือกตั้งนายก อบจ.นครนายกรอบนี้เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญระหว่างความรู้ความสามารถของพรรคประชาชน กับความรู้ความสามารถของนายก อบจ. คนปัจจุบัน ที่มีความรู้ทั้งด้านวิศวกรรมศาสตร์ การบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มีประสบการณ์ในการทำงานทั้งด้านวิศวกรรมและการสอนหนังสือก่อนมาเป็นนายก อบจ. จักรพันธ์ซึ่งติดตามการเมืองและชื่นชมการทำงานของพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชนมาตลอดจึงได้มาร่วมกันในรอบนี้ 


ธนาธรกล่าวต่อไปว่าเราเชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ชาวนครนายกคือผู้ที่จะได้ประโยชน์มากที่สุด ทั้งเรื่องการศึกษา การจัดการไฟป่าอย่างมีความรู้ความเชี่ยวชาญ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว รัฐบาลดิจิทัล และการกระจายอำนาจ จากนี้จักรพันธ์จะไม่เดินทางอย่างโดดเดียว แต่จะเดินทางโดยมีข้างหลังที่เป็นปึกแผ่น คือแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ อดีตพรรคก้าวไกล และแกนนำ สส. และสมาชิกพรรคประชาชน นี่คือศักราชใหม่ที่จะเป็นการประสานระหว่างความเป็นผู้นำและความเข้าใจในพื้นที่ของจักรพันธ์ ร่วมกับความรู้ความสามารถในบุคลากรของพรรคประชาชน


ต่อมา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยระบุว่าการตัดสินใจที่จักรพันธ์จะมาอยู่กับพรรคประชาชนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะนี่คือการประสานพลังระหว่างคนรุ่นใหม่ที่จะทำให้นครนายกได้ไปต่อแน่นอน จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่นได้อย่างไร้รอยต่อ


นครนายกมีโรงงานหลายร้อยโรงงาน มีประชากรแรงงานถึง 1.2 แสนคน ซึ่งตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น หากนายจ้างไม่อนุญาตให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิในวันเสาร์นี้จะเป็นการผิดกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อว่าเจ้าของโรงงานและเจ้าของธุรกิจในนครนายกย่อมรู้และมีจิตใจเป็นประชาธิปไตย คงไม่ขัดขวางไม่ให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิ์แน่นอน ไม่ถือเป็นวันลาวันหยุด แรงงานทุกคนจะไปใช้สิทธิและนายจ้างจะอนุญาตให้ไป


ที่สำคัญคือคนนครนายกซื้อไม่ได้ด้วยเงิน 200-300 บาทแน่ๆ เงินจำนวนนี้ที่ซื้อไปเพื่อให้ได้เข้าสู่อำนาจได้อีก 1,400 กว่าวัน หากคำนวณเร็วๆ คิดได้เป็นวันละ 12 สตางค์ ตนเชื่อว่าชาวนครนายกไม่ยอมให้ใครมาซื้อเสียงซื้อศักดิ์ศรีด้วยเงินแค่ไม่กี่สิบสตางค์ต่อวันแน่นอน และหากมีใครจะมาซื้อก็ขอให้ทุกคนคิดให้ดี เพราะมันคืออนาคตของทุกคนในอีกกว่า 1,400 กว่าวันข้างหน้า คุณค่าของคนนครนายกมีมากกว่าแค่วันละสิบกว่าสตางค์แน่นอน


ทั้งนี้ในวันเดียวกัน พรรคประชาชนยังมีเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.ปราจีนบุรี ที่ลานกิจกรรมนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยพรรคประชาชนส่ง “จำรูญ สวยดี” เป็นผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี หมายเลข 2 และผู้สมัคร ส.อบจ. จำนวน 18 คน พร้อมกับชุดนโยบาย “อบจ. 5 ดี เพื่อปราจีนบุรี” ประกอบด้วย เศรษฐกิจดี คุณภาพชีวิตดี สิ่งแวดล้อมดี ท่องเที่ยวดี และ อบจ.โปร่งใสดี


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อบจนครนายก #อบจประชาชน #พรรคประชาชน