วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568

ปชน. ปราศรัยใหญ่ ชิงนายกอบจ.ภูเก็ต เปิดปัญหาคนภูเก็ตที่รอเปลี่ยนแปลง “พิธา” ชี้ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ต้องไปไกลกว่าบิตคอยน์ พร้อมนำ “บล็อกเชน” สร้างภูเก็ตเป็นสวรรค์สำหรับทุกคน

 


ปชน. ปราศรัยใหญ่ ชิงนายกอบจ.ภูเก็ต เปิดปัญหาคนภูเก็ตที่รอเปลี่ยนแปลง “พิธา” ชี้ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ต้องไปไกลกว่าบิตคอยน์ พร้อมนำ “บล็อกเชน” สร้างภูเก็ตเป็นสวรรค์สำหรับทุกคน


วันที่ 19 มกราคม 2568 ที่เวทีสะพานหิน เทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พรรคประชาชน จัดเวทีปราศรัยใหญ่สำหรับการเลือกตั้ง อบจ.ภูเก็ต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ โดยทั้งแกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้ร่วมกิจกรรมปราศรัยแนะนำตัวและนโยบายของ เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ภูเก็ต พรรคประชาชน เบอร์ 2 และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ตทั้ง 23 เขต


ในส่วนของ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยในช่วงหนึ่ง โดยระบุว่าปัญหาของบ้านเมืองวันนี้ทั้งภูเก็ตและประเทศไทยเกิดขึ้นเพราะมีอำนาจมืดบางอย่างที่แตะต้องไม่ได้ ภายใต้เงามืดเหล่านี้มีผู้มีอิทธิพล บ้านใหญ่ ต่างแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชนโดยไม่สนใจใครนอกจากตัวเองและพวกพ้อง ถ้าไม่สู้ประเทศไทยจะไม่เหลืออะไร


บางคนอาจถามว่าเลือกตั้ง อบจ. ทำไมตนถึงมาพูดเรื่องอิทธิพลและอำนาจมืด นั่นเป็นเพราะการแก้ปัญหาของประเทศและประชาชนในภูเก็ตมีเรื่องที่ไม่ง่าย มองไปบนภูเขาโรงแรมไปตั้งอยู่ได้อย่างไร ที่ดินที่ไม่ควรได้รับทำไมถึงได้ ภูเก็ตทำรายได้ให้ประเทศมากมายแต่ทำไมถนนบางเส้นราวกับอยู่บนดาวอังคาร


รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่าวันนี้เราถึงต้องการความเปลี่ยนแปลง ตนและ สส. ภูเก็ตทั้ง 3 เขตที่ผ่านมาต่างต่อสู้เต็มที่ ทั้งเรื่องผลักดันการยกเลิกคำสั่ง คสช. บางฉบับที่ส่งผลต่อคนภูเก็ต กองทัพเรืออยากได้สวนป่าบางขนุนตั้งฐานทัพเรือเพิ่มเราก็คัดค้านเต็มที่ กรณีดาราชาวจีนถูกจับโดยขบวนการค้ามนุษย์จนทัวร์จีนยกเลิกเราก็เป็นปากเสียงให้การท่องเที่ยวภูเก็ตอย่างเต็มที่


เพราะฉะนั้น วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ตนขอเชิญทุกคนเลือกคนใหม่ ชนะให้ถล่มทลาย แล้วในปี 2570 ชนะทั้งแผ่นดินตั้งรัฐบาลพรรคประชาชน 1 กุมภาพันธ์ไม่ใช่วันอาทิตย์แต่เป็นวันเสาร์ อาจเป็นวันที่คนบางกลุ่มคิดเอาไว้ว่าจะทำให้ประชาชนมาเลือกตั้งกันน้อย ไม่สะดวก ลางานไม่ได้ แต่ประชาชนต้องอย่าทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ


ขณะที่เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ภูเก็ต พรรคประชาชน ระบุว่า 1 ปีที่ผ่านมาตนและผู้สมัคร ส.อบจ. ทุกคนลงพื้นที่อย่างหนัก ไปมาทุกหมู่บ้าน รับฟังปัญหา พบเจอประชาชน เก็บข้อมูลมาทำนโยบาย สิ่งที่ไปพบตอกย้ำว่าแม้ภูเก็ตจังหวัดที่สร้างรายได้อันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่กลับเป็นจังหวัดที่ถูกละเลย โครงสร้างพื้นฐานตามไม่ทันการพัฒนาของเมือง ทุกคนอยู่กันอย่างอดทน ทั้งที่เป็นจังหวัดที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำมาหากินสร้างรายได้ให้กับประเทศ


ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติด ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่มีการแก้อะไรภูเก็ตจะเป็นเมืองที่เป็นอัมพาต เราต้องเริ่มจากการมีขนส่งสาธารณะที่ดี การจัดขนส่งสาธารณะไม่ใช่เพียงแค่ซื้อรถบัส แต่ต้องมีการออกแบบเส้นทางที่ตอบโจทย์ผู้คนอย่างแท้จริงด้วย เราซื้อรถแจกทุกคนไม่ได้แต่เราสร้างขนส่งสาธารณะที่ดีให้ทุกคนได้


ขณะที่เรื่องของการศึกษา เราลงไปสำรวจโรงเรียนมา ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อระดับโลก แต่มี 49 โรงเรียนอย่างน้อยที่ไม่มีครูต่างชาติสอนภาษาเพราะไม่มีงบประมาณ แม้แต่ครูคนไทยก็ขาดแคลน อุปกรณ์ที่จำเป็นบางอย่างก็ขาดแคลน อย่างน้อย 20 โรงเรียนขาดแคลนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนในสังกัดเทศบาลและ อบจ. ดีใช้ได้ แต่สิ่งที่ต้องทำคือการถ่ายโอนให้การศึกษาเป็นของท้องถิ่นอย่างแท้จริงเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเราต้องเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนการศึกษาทุกเรื่อง ทุกเครือข่าย และสังกัด ไม่เพียงแต่โรงเรียนในสังกัด อบจ. เท่านั้น รวมถึงต้องมีการปรับหลักสูตรให้ทันสมัย ตอบโจทย์สร้างทักษะของเด็กในอนาคตด้วย


ในด้านสุขภาพ วันนี้การสาธารณสุขภูเก็ตต้องเพิ่มศักยภาพหน่วยบริการ รวมทั้ง รพ.สต. ที่มีการกระจายมาให้ อบจ. แล้ว ต้องใส่ศักยภาพให้เต็มที่เพราะเป็นหน่วยบริการที่ใกล้บ้านประชาชนที่สุด จะดีกว่าไหมถ้าสถานีอนามัยทำฟันปลอมได้ มีการบริการทันตกรรมที่อยู่ใกล้บ้าน เพิ่มหมอและพยาบาล การจัดระบบ และมีศูนย์กายภาพบำบัดประจำตำบล มีรถตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจสุขภาพได้ง่ายขึ้น ทำให้คนป่วยน้อยลง รวมทั้งมีคลินิกที่รับรองการตรวจสุขภาพจิตด้วย


เลอศักดิ์ยังกล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมาตนได้ไปดูปัญหามาทุกเรื่อง รถติด น้ำท่วม น้ำขาดแคลน จนเกิดคำถามว่าทำไมภูเก็ตปัญหาเยอะขนาดนี้ เหมือนเราถูกทอดทิ้ง ทั้งที่ อบจ. ภูเก็ตถ้ารวมกับอีกทุก อปท. ระดับตำบล งบประมาณปีหนึ่งเกือบ 7 พันล้านบาท รวม 4 ปี 2 หมื่นกว่าล้านบาท ถ้าตนได้เป็นนายก อบจ. ตนจะเป็นผู้นำ อปท. ทุกคนมาช่วยกันแก้ปัญหาวาระภูเก็ตด้วยกัน ร่วมมือกับทุก อปท. แบบไม่มีเงื่อนไข ไม่มองว่าใครเป็นพวกใคร เพราะวันนี้เรารอรัฐบาลกลางไม่ได้แล้ว 


“วันนี้เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ต้องทำเพื่อลูกเพื่อหลาน อย่าให้ลูกหลานมาประณามว่าพ่อแม่ทำอะไรอยู่ ไม่ดิ้นรนสร้างอนาคตที่ดีให้เขา เลือกของเดิมก็ได้เหมือนเดิม ผลลัพธ์ใหม่ๆ ไม่เคยเกิดขึ้นจากวิธีการเดิมๆ เขาว่าเราขายฝันแต่คนบางคนจะฝันยังไม่กล้าเลย เราฝันบนองค์ความรู้ เราฝันบนข้อมูลและการทำการบ้านอย่างหนัก ผมจะทำให้ฝันของคนภูเก็ตเป็นจริงและเราจะทำให้สำเร็จ” เลอศักดิ์กล่าว


ในส่วนของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ระบุว่าเลอศักดิ์คือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของภูเก็ต สส. เขตทั้ง 3 เขตเป็นของอดีตพรรคก้าวไกลและปัจจุบันก็ยังอยู่กับพรรคประชาชน สส.บัญชีรายชื่อคนภูเก็ตก็มี รังสิมันต์ โรม ที่มีบทบาทในการเปิดโปงอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งหมดมีเป้าหมายร่วมกันคืออยากให้ภูเก็ตไม่ได้เป็นสวรรค์แค่สำหรับเฉพาะนักท่องเที่ยว แต่เป็นสวรรค์สำหรับประชาชนด้วย


แต่ สส. ทั้ง 4 คนเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ผ่านกฎหมายที่ก้าวหน้า พูดแทนประชาชน และคอยตรวจสอบรัฐบาล แต่ไม่มีงบประมาณในการบริหารจัดการภาษีที่มาจากประชาชน แต่เลอศักดิ์คือคนที่จะมาเป็นนายก อบจ. คือคนที่จะบริการแก้ปัญหาเหล่านั้นได้


พิธากล่าวต่อไปว่าแม้ภูเก็ตจะรายได้ค่อนข้างดี แต่ดัชนีความก้าวหน้าของประชาชนน่ากังวล เช่น สถิติอาชญากรรมที่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย อุบัติเหตุยานยนต์ที่สูงมาก และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือพัฒนาการของเด็กอายุ 0-5 ขวบ ภูเก็ตก็อยู่ที่อันดับ 3 จากรั้งท้าย 


ดังนั้น การแก้ปัญหาแบบนี้ต้องเลือกนายก อบจ. ที่มีวิสัยทัศน์ ทำงานเป็นทีม ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อกับคนในพื้นที่ ถ้า สส. ทั้งหมดกับ อบจ. รวมพลังกัน อาชญากรรมไม่ลดลงให้มันรู้ไป


พิธากล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมารัฐบาลบอกอยากทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตนเห็นด้วยว่าอยากให้เกิดขึ้น แต่ตนอยากให้ไปไกลกว่าบิตคอยน์ แต่ไปไกลถึงบล็อกเชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของคนภูเก็ต ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความโปร่งใสแล้ว ยังใช้เพื่อบริหารการสาธารณสุข ทำ Smart Contract ใช้แก้ปัญหาที่ดินเพื่อลดข้อพิพาทที่ดินทับซ้อน นำมาบริหารการท่องเที่ยว ซึ่งคนที่จะทำแบบนี้เป็นรูปธรรมได้ต้องเป็นคนที่เข้าใจสาธาณสุขแบบเลอศักดิ์ และคนที่เข้าใจดิจิทัลแบบณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แค่รวมพลังกันก็สามารถทำให้ภูเก็ตไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาคนี้ได้แล้ว


“การทำงานการเมืองแบบพรรคประชาชนมองไกลกว่าที่มีอยู่และมีความตั้งใจจริง และเราเชื่อว่าถ้าเราชนะที่นี่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ในเกาะภูเก็ต เพื่อให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์ของทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนและของคนที่อยู่ที่นี่ด้วย คนภูเก็ตถูกละเลยมานาน ถึงเวลาคนภูเก็ตยืนขึ้น เข้าคูหาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ชวนกันไปเยอะๆ แล้วไปเลือกตั้งกันให้ถล่มทลาย ส่งเลอศักดิ์เป็นนายก อบจ. คนต่อไป แล้วมาเปลี่ยนภูเก็ตไปด้วยกัน” พิธากล่าว


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #อบจภูเก็ต