“สว.พันธุ์ใหม่” หนุนร่าง “ปชน.” ลดอำนาจสว.
ยันแก้รธน.ทั้งฉบับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองไม่ได้เหตุ ม.255 ล็อคอยู่
วันที่
7 ม.ค.2568 เวลา 11.30 น.
ที่รัฐสภา กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.,นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.,นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร
แถลงจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยน.ส.นันทนา กล่าวว่า
ตามที่มีกระแสข่าวทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชน
ในส่วนของกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่เราได้มีมติร่วมกัน
พร้อมแสดงจุดยืนว่าเราสนับสนุนร่างฉบับของพรรคประชาชน เรายินดีจะลดอำนาจของสว.ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ.
จากฉบับปัจจุบัน ที่ให้ใช้สว. 1ใน3 ซึ่งเรามองว่าสว.ไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง
กระบวนการที่ได้มาไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศได้
“เรายินดีจะสละอำนาจที่จะลงมติแก้ไขรธน.
เพื่อให้ผู้ที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่แท้จริงคือสส.ได้เป็นผู้ลงมติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จะเป็นสิ่งที่ตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด” น.ส.นันทนา กล่าว
และว่าส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
เราสนับสนุนให้มีผู้แทนที่มาร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชนโดยตรงคือการเลือกตั้ง 100%
เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นเจตจำนงของประชาชน
บรรจุอยู่ในกฎหมายสูงสุดของประเทศ
เมื่อถามว่า
สว.พันธุ์ใหม่ มีความคิดเห็นต่อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และ 2
อย่างไร น.ส.นันทนา กล่าวว่า
เราชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นแนวทางที่ดีที่สุด
เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 มีที่มาจากการรัฐประหารเมื่อจุดตั้งต้นไม่ใช่มาจากประชาชน
ตัวร่างรัฐธรรมนูญทั้งร่างจึงมีข้อกำหนด บทมาตราต่างๆที่บิดเบี้ยว
และมีช่องโหว่มากมาย ดังนั้นถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ก็ควรจะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปแก้ไขรูปของรัฐ
ระบอบการปกครอง
“แต่ที่แก้ทั้งฉบับเพื่อให้ที่มาของรัฐธรรมนูญมาจากประชาชนอย่างแท้จริง
และบทบัญญัติทั้งหมดสอดคล้องกันทั้งฉบับไม่ใช่เป็นการแก้หมวดใดหมวดหนึ่ง
แล้วละเว้นหมวดใดหมวดหนึ่ง
เพราะสุดท้ายแล้วเท่ากับมรดกของเผด็จการยังอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ถ้าเราไม่ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ” น.ส.นันทนากล่าว
ด้านนายเทวฤทธิ์
มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา
กล่าวเสริมว่าตนเข้าใจว่าประเด็นนี้อาจจะมีการหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อกังวล
หรือบางครั้งอาจจะถูกลากไปเป็นเกมการเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่ได้หมายความว่าจะมีการแก้ไขหมวด1 และ2
แต่เป็นการย้ำว่าเป็นการสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่
และที่สำคัญหมวดดังกล่าวก็เคยมีการแก้ไขในรัฐธรรมนูญหลายฉบับ
โดยเป็นการแก้ถ้อยคำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และคนที่แก้มากที่สุดคือนายมีชัย
ฤชุพันธ์ อดีตประธานกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)
ตนแปลกใจว่าทำไมไม่ไปถามนายมีชัยกันบ้าง