วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

จม.จากแดน 4 “อานนท์” เขียนถึงลูก พ่อเชื่อ “ทุกคน” รู้ภาระหน้าที่ต่อขบวนว่าจะต้องทำอะไร เป็นการตระหนักรู้ ตื่นรู้ ที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก ขอให้พลังการต่อสู้จงสถิตในทุกคน ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา

 


จม.จากแดน 4 “อานนท์” เขียนถึงลูก พ่อเชื่อ “ทุกคน” รู้ภาระหน้าที่ต่อขบวนว่าจะต้องทำอะไร เป็นการตระหนักรู้ ตื่นรู้ ที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก ขอให้พลังการต่อสู้จงสถิตในทุกคน ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา


เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์จดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายระบุว่า จดหมายฉบับลงวันที่ 15 ม.ค. 2568


เจ้าขาลไม่ค่อยสบาย วานนี้ที่ศาลแม่เลยไม่ได้พามาเจอ แม่เล่าให้ฟังว่าเจ้าขาลรู้จักทักทายผู้ใหญ่ด้วยคำว่า “หวัดดีครับ” แล้ว


15 มกราคม 2568 ถึงปราณปละขาล ลูกรัก


เสียดายที่พวกเราไม่ได้เจอกันเมื่อวาน อย่างไรก็ตาม แม่เอารูปเจ้าปราณที่ไปเที่ยวช่วงปีใหม่และรูปเจ้าขาลไปประชุมศูนย์ทนายกับบรรดาลุงป้าน้าอามาให้ดูที่ศาล ทั้งปราณและขาล ดูร่าเริงสุขภาพแข็งแรง เท่านี้ก็พลอยทำให้พ่อมีกำลังใจในการต่อสู้แล้ว


คดีเมื่อวานนี้เลื่อนไปพิจารณาอีกทีเดือนพฤษภาคมเพราะต้องออกหมายจับจำเลยอีกคนที่ลี้ภัยการเมือง อย่างไรก็ตามพวกเราต้องช่วยกันให้กำลังใจทั้งคนที่อยู่ในประเทศและคนที่ออกไปต่อสู้นอกประเทศ การต่อสู้ทางการเมืองไม่ใช่เรื่องที่สามารถรวบรัดให้จบภายในวันสองวัน การผ่อนสั้นผ่อนยาว ผ่อนหนักผ่อนเบา ประคับประคองกันไปจึงเป็นเรื่องสำคัญ จำเป็น การสื่อสารถึงสถารการณ์การเมืองในไทยต่อต่างชาติเป็นสิ่งที่ต้องมีคนทำงานส่วนนี้ พ่อมั่นใจเลืหอเกินว่าคนที่เลือกเดินทาง การต่อสู้จากภายนอกประเทศจะสามารถทำภารกิจสำคัญนี้ได้ ส่วนพ่อซึ่งเลือกเส้นทางสู้ในประเทศขอให้สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด


ตั้งแต่วันแรกที่พวกเราตกลงปลงใจที่จะทำภารกิจนี้ พวกเราย่อมตระหนักถึงขวากหนามที่จะตามมา ทว่าบรรดาอุปสรรคขวากหนามเหล่านี้จะกลายเป็นยาพลังในการต่อสู้ของพวกเรา เพื่อสังคมที่มีสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน พ่อเชื่อเหลือเกินว่า “ทุกคน” รู้ภาระหน้าที่ต่อขบวนว่าจะต้องทำอะไร แม้ในทุกสาขาอาชีพ ในทุกพื้นที่ก็ย่อมรู้ว่าต้องทำอะไร มันเป็นการตระหนักรู้ ตื่นรู้ ที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก มาสะกิดให้ต้องทำอะไร


ขอให้พลังการต่อสู้จงสถิตในทุกคน

ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา


สำหรับ อานนท์ นำภา ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63


จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี


ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564


โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท


ทำให้รวม 4 คดี อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567


โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา มีนัดฟังคำสั่งที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ โดยศาลอาญาพิพากษาจำเลยผิดตาม #มาตรา112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ลงโทษจำคุก 3 ปี มีเหตุลดโทษตามมาตรา 78 ลดโทษ 1/3 คงจำคุก 2 ปี นับโทษต่อจากคดีอื่น ทำให้รวมโทษจำคุกอานนท์เป็น 16 ปี 2 เดือน 20 วัน ใน 5 คดี


และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดฟังคำสั่ง ม.112 นับเป็นคดีที่ 6 #แฮรี่พอร์ตเตอร์1 โดยมีคำพิพากษา“ จำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี 8 เดือน ตามความผิดในข้อหา ม.112 ม.116 แต่ยกฟ้องในข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทำให้โทษจำคุกรวมล่าสุด 18 ปี 10 เดือน 20 วัน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อานนท์นำภา #มาตรา112