ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ ชื่นชมสภาผู้แทนฯ ร่วมผ่านกฎหมายไม่ตีเด็ก ตระหนักความเป็นมนุษย์ของเด็กเท่าเทียมผู้ใหญ่ “ภัสริน” ย้ำมีอีกหลายภารกิจสภาต้องดันต่อเพื่อคุ้มครองสิทธิเด็ก
วันที่ 8 มกราคม 2568 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายไม่ตีเด็ก เสนอโดย ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งผ่านสภาผู้แทนฯ ในวาระสามแล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ก่อนส่งไปยังวุฒิสภา มีการแก้ไขเพิ่มเติม และได้ส่งคืนสภาผู้แทนฯ พิจารณา
โดยมติที่ประชุมสภาผู้แทนฯ วันนี้ เห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภา ส่งผลให้ร่างกฎหมายไม่ตีเด็กเป็นร่างกฎหมายฉบับแรกของฝ่ายค้านที่ผ่านสภาฯ โดยไม่มีร่างของรัฐบาลประกบ
จากนั้น สส.พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าว นำโดย ภัสริน รามวงศ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 7 กล่าวว่าวันนี้คือการปักหมุดสิทธิของเด็ก ขอแสดงความชื่นชมต่อสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ความสำคัญกับประเด็นของครอบครัวและเด็ก ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคม
การแก้ไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1567 (2) พรรคประชาชนและภาคประชาสังคมได้ตั้งใจผลักดันให้สำเร็จ กฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงเปลี่ยนกระบวนทัศน์การเลี้ยงดูเด็ก การเลี้ยงลูกเชิงบวก เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางของครอบครัว และยึดหลักการ The Best Interest of The Child แต่ยังเน้นย้ำความสำคัญของบทบาทบิดามารดาและผู้ปกครองในการเลี้ยงดูอย่างสร้างสรรค์ ปราศจากความรุนแรง และเน้นการปกป้องคุ้มครองเด็กในทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม กฎหมายมาตรานี้มาตราเดียวไม่เพียงพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างครบวงจร รัฐยังมีภารกิจสำคัญในการสร้างพื้นที่ให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งหมายถึงการเข้าถึงการศึกษาที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย และการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐต้องส่งเสริมสวัสดิการที่อำนวยให้บิดามารดาสามารถเข้าถึงบริการเลี้ยงดูเด็กที่มีคุณภาพได้อย่างครบวงจร เช่น การจัดให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เพียงพอ การลาคลอดและลางานเลี้ยงดูบุตรที่เหมาะสม ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนความเป็นอยู่ของครอบครัวในทุกระดับ
ขณะเดียวกัน การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ “การเลี้ยงลูกเชิงบวก” จะช่วยสร้างความเข้าใจในครอบครัวว่าความรัก ความเคารพ และการสื่อสารคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก เป็นรากฐานของสังคมที่เอื้ออาทรและลดความรุนแรงลงได้
ภัสรินกล่าวว่า ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ตนไม่เรียกว่าเรื่องนี้คือ “ของขวัญ” เหมือนที่ผู้ใหญ่ใช้เงินซื้อและหยิบยื่นให้ในเทศกาลต่างๆ เป็นครั้งคราว หากแต่เป็น “ความระลึก” หรือความตระหนักในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันของเด็กๆ และผู้ใหญ่อย่างเราทุกคนในทุกความสัมพันธ์ของชีวิต
ภารกิจของเรายังไม่สิ้นสุด ยังต้องร่วมมือกันต่อไปในการสร้างระบบที่ปกป้องคุ้มครองเด็กในทุกระดับ ทั้งด้านกฎหมาย นโยบาย และการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจของสังคม ขอให้วันนี้เป็นหมุดหมายที่ดีของการเปลี่ยนประเทศนี้เพื่ออนาคตที่สดใสของเด็กและเราทุกคน เพราะเด็กในวันนี้คืออนาคตของประเทศในวันข้างหน้า
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #กฎหมายไม่ตีเด็ก