จม.จากแดน 4 “อานนท์” เขียนถึงลูก น้าขนุน-น้าเก็ท “เป็นภาพแทน” ของการยืนตรงของคนรุ่นใหม่ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าการพยายามควบคุมปัจจุบันเพื่อควบคุมอดีตของคนในสังคมเก่าไม่ได้ผลแล้ว การ“รอ” ไม่ใช่การรอแบบลม ๆ แล้ง ๆ แต่คือการรอให้ทุกอย่างพร้อม รอฤดูใบไม้ผลิ เพื่อที่พวกเราจะได้ผลิใบผลิดอก ออกผลอีกครั้ง
วันนี้ (7 ม.ค. 68) เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์จดหมายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อความในจดหมายระบุว่า
“He who controls the past controls the future. He who controls the present controls the past.” (1984 George Orwell)
“ผู้ใดควบคุมอดีต เขาผู้นั้นก็ควบคุมอนาคต ผู้ใดควบคุมปัจจุบัน เขาผู้นั้นก็ควบคุมอดีต“ (สำนวนน้าเก็ทแปล)
”เขาที่บัญชาปัจจุบันเพื่อบงการอดีตไว้อย่างไร อนาคตย่อมปรากฎจากอดีตที่เขากำหนดไว้ดังนั้น“ (สำนวนน้าขนุนแปล)
7 มกราคม 2568 ถึงปราณและขาล ลูกรักทั้งสอง
ช่วงนี้พ่อกำลังสนุกสนานกับการทดลองให้น้าขนุนกับน้าเก็ท แลกเปลี่ยนความเห็นและแปลภาษาอังกฤษจากนิยายเรื่อง 1984 ของ George Orwell น้าขนุนกับน้าเก็ทมีทั้งความเหมือนและความต่างกันในตัว ขนุนจบรัฐศาสตร์ ส่วนเก็ทจบแพทย์รังสี ส่วนที่เหมือนกันของทั้งสองคือเป็นคนรุ่นใหม่ที่เติบโตทางความคิดในห้วงหลังปี 2560 เข้าร่วมการต่อสู้กับเพื่อน ๆในปี 2563 และถูกดำเนินคดีตาม ม.112 ทั้งคู่ ท่ามกลางความพยายามควบคุมปัจจุบันเพื่อควบคุมอดีตของพี่เบิ้ม เมล็ดพันธุ์อันก้าวหน้าได้ถูกหว่านและงอกงามจนเกินกว่าจะควบคุมเสียแล้ว
น้าขนุนและน้าเก็ทเป็นอีกเสี้ยวของภาพสะท้อนของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดก้าวหน้า เชื่อมั่นในความเท่าเทียม ”เป็นภาพแทน“ ของการยืนตรงของคนรุ่นใหม่ อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าการพยายามควบคุมปัจจุบันเพื่อควบคุมอดีตของคนในสังคมเก่าไม่ได้ผลแล้ว
น้องๆ นักโทษการเมืองในแดน 4 เคยถามว่าต่อจากนี้พวกเรา (คนในคุก) ต้องทำอะไรต่อ พ่อตอบพวกเขาไปว่า “รอ” คำว่า “รอ” ไม่ใช่การรอในความหมายแบบลม ๆ แล้ง ๆ แต่คือการรอให้ทุกอย่างพร้อม รอฤดูใบไม้ผลิ เพื่อที่พวกเราจะได้ผลิใบผลิดอก ออกผลอีกครั้ง
รักและคิดลูกทั้งสอง
อานนท์ นำภา
สำหรับ อานนท์ นำภา ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา ในคดี #มาตรา112 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เหตุจากการขึ้นปราศรัยใน #ม็อบ14ตุลา63
จากนั้น 17 ม.ค. 67 ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" เพิ่มอีก 4 ปี จากคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กปี 2564 โดยให้บวกโทษเก่าอีก 4 ทำให้อานนท์มีโทษจำคุกรวมแล้ว 8 ปี
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดฟังคำพิพากษาคดีของ อานนท์ นำภา หลังถูกฟ้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุมาจากการปราศรัยถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ในกิจกรรม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน’ หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์2 ที่ลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564
โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกข้อหาตามฟ้อง พิพากษาจำคุกรวม 3 ปี 1 เดือน ปรับ 150 บาท ก่อนลดเพราะให้การเป็นประโยชน์ เหลือจำคุก 2 ปี 20 วัน และปรับ 100 บาท
ทำให้รวม 4 คดี อานนท์ถูกลงโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 10 ปี 20 วัน เมื่อรวมกับสองคดีในข้อหามาตรา 112 ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกคดีละ 4 ปี ไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 และ 17 ม.ค. 2567
โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นี้ อานนท์ นำภา มีนัดฟังคำสั่งที่ศาลอาญา รัชดา คดีเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ โดยศาลอาญาพิพากษาจำเลยผิดตาม #มาตรา112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3) ลงโทษจำคุก 3 ปี มีเหตุลดโทษตามมาตรา 78 ลดโทษ 1/3 คงจำคุก 2 ปี นับโทษต่อจากคดีอื่น ทำให้รวมโทษจำคุกอานนท์เป็น 16 ปี 2 เดือน 20 วัน ใน 5 คดี
และวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดฟังคำสั่ง ม.112 นับเป็นคดีที่ 6 #แฮรี่พอร์ตเตอร์1 โดยมีคำพิพากษา“ จำคุก 4 ปี ก่อนลดเหลือ 2 ปี 8 เดือน ตามความผิดในข้อหา ม.112 ม.116 แต่ยกฟ้องในข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทำให้โทษจำคุกรวมล่าสุด 18 ปี 10 เดือน 20 วัน