“ณัฐพล” ชี้ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ไม่พร้อม เลื่อนหลายรอบ เปลี่ยนหลายแบบ
แต่ยังพัง ประชาชนจะเชื่อใจรัฐบาลเพื่อไทยให้ทำโครงการใหญ่ได้อย่างไร
วันที่
8 กรกฎาคม 2568 ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่
เขต 3 พรรคประชาชน
กล่าวถึงกรณีโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งประกาศปิดแอปพลิเคชัน Amazing
Thailand และระบบการลงทะเบียนทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 และยังไม่กลับมาเปิดบริการจนถึงวันนี้
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้แสดงถึงความไร้ประสิทธิภาพในการจัดการโครงการของรัฐบาลเป็นอย่างมาก
จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เป็นวงกว้าง
พรรคประชาชนจับตาดูโครงการนี้อย่างใกล้ชิด
เพราะเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยพยุงภาคการท่องเที่ยวที่กำลังซบเซาอย่างหนัก
โดยตนตั้งข้อสังเกตดังนี้
(1)
โครงการนี้ไม่ใช่โครงการใหม่
หลักการและวิธีดำเนินการไม่ต่างจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ย่อมรู้ถึงข้อท้าทายต่างๆ
ที่โครงการนี้จะต้องเผชิญ รวมถึงมีระบบที่พร้อมรองรับไว้ในระดับหนึ่งแล้ว
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท.
ไม่ได้ถอดบทเรียนมาอย่างเพียงพอก่อนดำเนินงาน ทั้งๆ
ที่ข้อมูลก็อยู่ในมือหน่วยงานเอง
(2)
โครงการนี้ไม่ได้ทำอย่างรีบเร่ง
หากแต่เลื่อนมาจากกำหนดการเดิมในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของช่วง Low
Season โดยเลื่อนมาถึง 2 เดือนจนมาถึงเดือนกรกฎาคม
และเลื่อนอีกครั้งจากวันที่ 1 เป็นวันที่ 4 กรกฎาคม
นั่นหมายถึงรัฐบาลมีเวลาเตรียมการยิ่งกว่าเพียงพอในการทำโครงการนี้ให้มีประสิทธิภาพ
(3)
โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ไม่กี่โครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ
และ ททท.
ทำให้ทั้งสองหน่วยงานสามารถใช้ทรัพยากรส่วนมากไปกับโครงการนี้ได้อย่างเต็มที่
และเมื่อโครงการนี้มีผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง ก็เป็นเรื่องที่ควรตั้งคำถาม
ว่างบประมาณและทรัพยากรที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. มี
เป็นการใช้งบประมาณและทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพหรือไม่
(4)
โครงการนี้ไม่ใช่โครงการใหญ่
เป็นเพียงโครงการที่ใช้งบระดับพันล้านเท่านั้น
แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำออกมาให้สำเร็จ
แล้วประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าถ้ารัฐบาลดำเนินโครงการที่ใหญ่กว่านี้ เช่น
โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นโครงการระดับแสนล้าน
แล้วรัฐบาลจะสามารถทำให้สำเร็จได้
(5)
เริ่มมีเสียงวิจารณ์จากประชาชน
ว่าราคาที่พักที่เข้าร่วมโครงการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เมื่อใช้ส่วนลดจากโครงการ
ราคาที่พักจะไม่ได้ลดลง 50% จากราคาที่ควรจะเป็น
ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
และทุกคนก็ทราบถึงปัญหานี้
แต่รัฐบาลที่นำโครงการเราเที่ยวด้วยกันมาทำใหม่เป็นโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
กลับไม่ตระหนักและหาวิธีการรับมือกับปัญหานี้ได้ดีพอ
(6)
ทางฝั่งผู้ประกอบการเองก็ยังมีปัญหา เพราะ ณ
ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการที่พักจำนวนมากที่ลงทะเบียนในระบบแล้วแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันรับรองให้เข้าร่วมโครงการจากทางหน่วยงาน
(7)
สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยกำลังวิกฤต
จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่อง
แม้รัฐจะเคลมว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากระยะไกล (Long Haul) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยจำนวนนักท่องเที่ยวระยะใกล้ (Short Haul) ที่จำนวนลดลงเป็นจำนวนมากได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน
และเมื่อโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งทำท่าจะไปไม่รอดจนกินเวลา Low Season มามากแล้ว รัฐบาลจะมีมาตรการพยุงชีวิตภาคการท่องเที่ยวอย่างไร
และจะทำทันหรือไม่
(8) รัฐบาลใช้งบประมาณจำนวนมากไปกับการทำแอปฯ ท่องเที่ยว
แต่เมื่อถึงเวลาต้องใช้งานจริง ทั้งเว็บไซต์ ทั้งแอปฯ
ก็ไม่สามารถใช้งานได้สักอย่าง การใช้งบประมาณทำแอปฯ
ของรัฐบาลจึงไม่มีผลสัมฤทธิ์ที่ดี
สิ้นเปลืองภาษีประชาชนโดยแทบไม่ได้ประโยชน์กลับมา
“จะทำ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง’ แต่ดันทำ ‘ครึ่งๆกลางๆ’ สุดท้ายผลออกมาล้มเหลว
ประชาชนและผู้ประกอบการก็เลยโดน ‘ทิ้งไว้กลางทาง’ คาดหวังอะไรจากรัฐบาลไม่ได้เลย”
ณัฐพลกล่าว