9 ก.ย.นี้ ศาลนัดฟังคำสั่งคดีชั้น 14 “ทนายวิญญัติ” ชี้ “วิษณุ”
ให้การศาลเพิ่มความสมบูรณ์ในหลายส่วน พร้อมรอฟังคำพิพากษา ไม่ขอวิจารณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น
วันนี้
(30 กรกฎาคม 2568) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายวิญญัติ
ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนว่า
ในวันนี้เป็นการไต่สวนที่ทำให้มีความสมบูรณ์ในหลายส่วนมากขึ้น
จากการไต่สวนช่วงแรกที่เป็นหน่วยงานราชการและแพทยสภา
ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องที่ตัวแทนจากแพทยสภาไม่ใช่ผู้ที่ทำการรักษาตัวนายทักษิณโดยตรง
ดุลยพินิจต่าง ๆ จึงเป็นไปตามข้อบังคับของแพทย์อยู่แล้ว
ซึ่งในวันนี้การที่ศาลออกหมายเรียก นายวิษณุ เครืองาม เข้ามาไต่สวน จึงได้ความชัดเจนถึงกระบวนการเตรียมการหลังจากการกลับมาจากต่างประเทศของนายทักษิณ
เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายวิญญัติ
กล่าวว่า ทั้งนี้นายวิษณุก็ยังยืนยันว่าไม่มีการเตรียมการที่จะส่งตัวนายทักษิณออกไปรักษาภายนอกอยู่แล้ว แต่การที่ส่งตัวออกไปเป็นเรื่องกระทันหันจึงต้องส่งตัวออกไปรักษายังโรงพยาภายนอก
แม้นายทักษิณจะเลือกรักษายังโรงพยาบาลเอกชน แต่ก็ไม่สามารถทำได้
เมื่อถามว่าการไต่สวนพยานของจำเลยมีทั้งหมดกี่ปา
นายวิญญัติ กล่าวว่า ในตอนแรกตนและทีมทนายความได้เตรียมพยานไว้ทั้งหมดหลายปาก แต่ก็คัดจนเหลือ
3 ปาก ซึ่ง 2 ใน 3
เป็นพยานที่ศาลต้องออกหมายเรียกแล้ว คืออดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน
จึงเหลือพยานแค่ 1 ปากคือนายวิษณุที่เข้ามาเบิกความในวันนี้
เมื่อถามว่าการนำนายวิษณุเข้ามาเบิกความในวันนี้จะทำให้คดีมีผลดีขึ้นหรือไม่
นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น
เพราะไม่อยากไปก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล
เมื่อถามวาการออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
เข้ามาฟังคำสั่งวันที่ 9 ก.ย. มีนัยยะอะไรสำคัญหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า
ไม่มีนัยยะสำคัญอะไรแน่นอน เพราะเป็นเรื่องกระบวนการไต่สวนบังคับโทษอยู่แล้ว คือกรมราชทัณฑ์
ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ศาลจึงออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามาฟังคำสั่งศาล
เมื่อถามว่าคดีนี้จะมีปรากฎการณ์อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง
นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตุว่า
การไต่สวนการบังคับโทษแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มาก่อน
ถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนในสังคมจะต้องจับตามองการฟังคำสั่ง
และตนมองว่าต้องมาดูกันอีกครั้ง
และตนและทีมทนายความก็ได้ยื่นหลักฐานความจริงไปต่อศาลทั้งหมดแล้ว