อนุ
กกต. ส่งดำเนินคดีฮั้วสว. เข้า กกต.ชุดใหญ่ เสนอฟ้อง 229 ราย
เป็น สว. 138 คน กก.บห.ภูมิใจไทย-เครือข่าย 91 ราย ส่อผิดกฎหมาย-ขัดรัฐธรรมนูญ ม.113 หาก
กกต.เห็นชอบ อาจนำไปสู่การยื่นยุบพรรคได้
วันนี้
(17 กรกฎาคม 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ซึ่งมีหน้าที่สอบสวนข้อกล่าวหากรณีการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา
ได้ประชุมพิจารณาสรุปสำนวนคดีสำคัญ
และมีมติเห็นควรดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 229 ราย
โดยแบ่งออกเป็น สมาชิกวุฒิสภา 138 คน, กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย
และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอีก 91 ราย
การพิจารณาชี้ว่าทั้งหมดเข้าข่ายความผิดตาม
พระราชบัญญัติว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 หลายมาตรา
ได้แก่ มาตรา 70, มาตรา 36, มาตรา 62,
มาตรา 76 และมาตรา 77(1)
หนึ่งในบทบัญญัติสำคัญคือ
มาตรา 76 ซึ่งห้ามไม่ให้กรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ
ในพรรคการเมือง รวมถึง สส. หรือผู้มีตำแหน่งทางการเมือง
ไปช่วยเหลือให้บุคคลใดได้รับเลือกเป็น สว. หรือทำให้ไม่ได้รับเลือก หากผู้สมัคร สว.
ยินยอมให้มีการช่วยเหลือดังกล่าว จะเข้าข่ายความผิดร่วมด้วย โดยมีโทษ จำคุก 1-10
ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท
และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
คณะกรรมการสืบสวนฯ
ระบุว่า พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเข้าข่ายมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
ทำให้ได้รับเลือกเป็น สว. โดยไม่สุจริต
และขัดต่อหลักการเที่ยงธรรมในการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา อีกทั้งอาจขัดต่อ
รัฐธรรมนูญมาตรา 113
ซึ่งบัญญัติว่า
“สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ๆ”
รายงานข่าวระบุว่า
คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางชุดที่ 26 ได้ประชุมสรุปสำนวนแล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
และเตรียมส่งเข้าที่ประชุม กกต.ชุดใหญ่ ในวันที่ 14 กค.นี้ หากที่ประชุม
กกต. ชุดใหญ่เห็นชอบกับผลสรุปของคณะกรรมการสืบสวนฯ
ก็อาจนำไปสู่กระบวนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
พิจารณายุบพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องได้ในที่สุด
ทั้งนี้
กระบวนการต่อไป คือการส่งสำนวนเข้าสู่ “ขั้นตอนที่ 2” โดย เลขาธิการ กกต.
จะต้องพิจารณาให้ความเห็นในฐานะฝ่ายเลขานุการก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.
ชุดใหญ่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม
มีรายงานว่า เลขาธิการ กกต. อาจมอบหมายให้รองเลขาธิการ กกต. เป็นผู้พิจารณาแทน
เนื่องจากตนเองเป็น “ผู้อำนวยการการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ”
ซึ่งอาจถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดี
