วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เรียกร้องรัฐบาลนิรโทษฯ รวมคดี ม.112 เพื่อเป็นทางออกความขัดแย้งทางการเมือง สำหรับทุกคนและทุกฝ่าย


เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เรียกร้องรัฐบาลนิรโทษฯ รวมคดี ม.112 เพื่อเป็นทางออกความขัดแย้งทางการเมือง สำหรับทุกคนและทุกฝ่าย


เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส. ชนก จันทาทอง รองประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) คนที่สาม และคณะ รับยื่นหนังสือจาก น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน และคณะ เรื่องเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันให้มีการนิรโทษกรรมประชาชนอย่างเร่งด่วน


น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนต้องการเน้นย้ำว่า การนิรโทษกรรมประชาชนเป็นทางออกของความขัดแย้งทางการเมืองสำหรับทุกคนและทุกฝ่าย ทั้งเพื่อผู้ที่ถูกจับกุมคุมขังในปัจจุบันและผู้ที่จะออกมาใช้สิทธิและเสรีภาพในอนาคต เพื่อประกันว่าจะไม่มีใครถูกดำเนินคดีอาญาเพียงเพราะใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและชุมนุมประท้วงโดยสงบอีกต่อไป พร้อมมีข้อเรียกร้องใน 3 ประเด็นได้แก่


1. ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนทุกฉบับเข้าสู่วาระการประชุมในสมัยประชุมนี้ ในกรอบเวลา 120 วัน

2. รวมคดีตามมาตรา 112 ไว้ในการนิรโทษกรรมเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและยืนยันสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ

3. การนิรโทษกรรมต้องครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ทิ้งประชาชนคนไหนไว้ข้างหลังยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐ


ทั้งนี้ การเดินหน้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมประชาชนต้องไม่ใช่เป็นเพียงหน้าที่ แต่คือการแสดงเจตจำนงของรัฐบาลในการสะสางอดีตเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง โดยการพิจารณาร่างดังกล่าวในวาระ 1 และวาระ 2 โดยเร็ว รัฐบาลต้องไม่ใช้ข้ออ้างใดมาเป็นเหตุผลในการประวิงเวลาอีกต่อไป การสะสางอดีตนี้จะต้องนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบันและรับประกันการวางรากฐานสำหรับสิทธิเสรีภาพในอนาคตอย่างแท้จริง


น.ส.ชนก จันทาทอง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า วันนี้มีสมาชิกวิปรัฐบาลและสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาร่วมรับหนังสือ โดยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมวิปรัฐบาลซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งวิปรัฐบาลไม่ใช่มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เราเป็นรัฐบาลผสม ก็จะนำเรื่องนี้ไปหารือและให้แต่ละพรรคมีมติ ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการนิรโทษกรรม เราพบวิบากกรรมทางการเมืองมาตลอดกว่า 20 ปี จะเห็นได้ว่ารัฐบาลได้เลื่อนญัตตินี้เป็นเรื่องด่วน มีการบรรจุในวาระการประชุมเรื่องนิรโทษกรรมทั้งสิ้นถึง 4 ฉบับ หนึ่งในนั้นเป็นร่างของภาคประชาชน ส่วนสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความเห็นอย่างไร มิติของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะมีมติอย่างไร ก็จะต้องเคารพมตินั้นเพราะเป็นระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตย และขอให้สื่อมวลชนติดตามเรื่องนี้ ทั้งการประชุมวิป การประชุมพรรค และการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 ก.ค. นี้

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นิรโทษกรรมประชาชนรวม112 #นิรโทษกรรมประชาชน