พรรคประชาชนยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญ
3 ฉบับ มุ่งสร้างศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ที่ไม่เป็นอิสระจากประชาชน
หวังรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ปลดชนวนระเบิดเวลาการเมืองไทย
วันที่
7 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา สส.พรรคประชาชน นำโดย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค
แถลงข่าวยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยณัฐพงษ์กล่าวว่า
พรรคประชาชนเข้าใจดีว่าวิกฤตเฉพาะหน้าของประเทศ คือวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังถูกซ้ำเติมจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา
และวิกฤตความมั่นคงที่เราต้องเฝ้าติดตามต่อไปเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
แต่พรรคประชาชนเชื่อว่าวิกฤตต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต จะถูกแก้ไขได้ง่ายขึ้น
หากเรามีระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพ จัดสรรอำนาจอย่างสมดุล
และมีกลไกตรวจสอบที่เข้มแข็ง
โดยยึดโยงและเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง
หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา
เช่น การยุบพรรคตัดสิทธินักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง
ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน คำถามต่อการตรวจสอบคดีการโกงการเลือก
สว. หรือการขาดความรับผิดรับชอบจากกรณีตึก สตง. ถล่ม
ล้วนมีต้นตอมาจากการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ถูกขยายขอบเขตอำนาจในการตรวจสอบสถาบันทางการเมืองอื่น
แต่กลับมีที่มาที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน
รวมถึงขาดกลไกที่จะถูกประชาชนตรวจสอบได้โดยตรง
แม้บทสนทนาและข้อถกเถียงเรื่องการออกแบบศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ
เป็นโจทย์ใหญ่ที่ควรมีการหารือร่วมกันทุกฝ่ายในสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
ที่จะมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แต่พรรคประชาชนเห็นว่ารัฐสภาสามารถเดินหน้าแก้ไขบางปัญหาได้ทันที
โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในบางประเด็น
พริษฐ์กล่าวว่า
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรายื่นในวันนี้
มุ่งสู่การสร้างศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่เป็นอิสระจากประชาชนโดยแบ่งออกเป็น
3 ร่าง
ร่างที่
1 เป็นการ “เปลี่ยนระบบ” ที่ครอบคลุม 3 ประเด็นหลัก
(1)
ที่มาหลากหลาย -
ทำให้เรามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ที่มีความหลากหลายทางความคิด วิชาชีพ และประสบการณ์
โดยการเพิ่มช่องทางในการสรรหา-เสนอชื่อ
จากเดิมที่เป็นการเสนอชื่อผ่านคณะกรรมการสรรหาช่องทางเดียว
มาเป็นการเสนอชื่อหลายสายจากหลากหลายช่องทาง เช่น ศาล, สส.
รัฐบาล, สส. ฝ่ายค้าน, สว.
(2)
ไม่ผูกขาดโดย สว. -
ทำให้เรามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่ยึดโยงกับประชาชนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
โดยการเปลี่ยนการคัดเลือกรับรองจากเดิมที่ สว. มีอำนาจชี้ขาด
คือต้องได้รับความเห็นชอบจาก 1/2 ของ สว.
มาเป็นการพิจารณาร่วมกันของสองสภา โดยต้องได้รับฉันทามติจากหลายฝ่าย กล่าวคือ
ต้องได้รับความเห็นชอบจาก 1/2 ของ สมาชิกรัฐสภา, 1/2 ของ สส. รัฐบาล, และ 1/2 ของ
สส. ฝ่ายค้าน
(3)
ประชาชนตรวจสอบได้ - ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ
ไม่อยู่เหนือการตรวจสอบ โดยการคืนสิทธิให้ผู้แทนราษฎร และประชาชน 20,000 คน ในการเข้าชื่อเพื่อริเริ่มกระบวนการพิจารณาถอดถอน
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ที่ร่ำรวยผิดปกติ
ทุจริตต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผ่านกลไกขององค์คณะพิจารณาถอดถอนที่มีตัวแทนจากหลายฝ่าย
ร่างที่
2 และร่างที่ 3 เป็นการ “ปรับเฉพาะจุด”
ที่เราหวังว่าจะเป็นข้อเสนอขั้นต่ำที่ทุกพรรคการเมืองและ สว. จะรับได้ โดยร่าง 2
จะเป็นเฉพาะการเปลี่ยนการคัดเลือกรับรองจากเดิมที่ สว.
มีอำนาจชี้ขาด (ต้องได้รับความเห็นชอบจาก 1/2 ของ สว.)
มาเป็นการพิจารณาร่วมกันของสองสภา (ต้องได้รับความเห็นชอบจาก 1/2 ของ สมาชิกรัฐสภา) และร่าง 3 จะเป็นเฉพาะการคืนสิทธิให้ผู้แทนราษฎรและประชาชน
20,000 คน
ในการเข้าชื่อเพื่อริเริ่มกระบวนการพิจารณาถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
พรรคประชาชนหวังว่าทุกพรรคการเมืองและสมาชิกรัฐสภาทุกคน
จะเห็นตรงกันว่าศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระไม่ควรเป็นอิสระจากประชาชน
แต่ควรเป็นอิสระจากการถูกครอบงำโดยกลุ่มก้อนทางการเมืองเพียงกลุ่มเดียว
และพรรคประชาชนหวังว่าทุกพรรคการเมืองและสมาชิกรัฐสภาทุกคนจะเห็นตรงกันว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ใช่
“เรื่องเล็ก” แต่เป็น “ระเบิดเวลาลูกใหญ่“ ที่เราควรร่วมกันปลดชนวน
โดยการบรรจุและผลักดันร่างดังกล่าวในรัฐสภาโดยเร็ว
พรรคประชาชนยืนยันว่า
เป้าหมายปลายทางของเราคือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ที่ถูกจัดทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
แต่ในเมื่อกระบวนการดังกล่าวอาจใช้เวลา
เราเห็นว่ามีปัญหาบางประเด็นที่สามารถดำเนินการคู่ขนานได้เลยผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #รัฐธรรมนูญ