“เท้ง-ณัฐพงษ์” นำ สส.พรรคประชาชน แถลงรับ 5 ร่างฯ
นิรโทษกรรม แนะประเด็นเห็นต่างขอให้หารือในวาระ 2 วอน
สส.ไม่โหวตคว่ำ ให้ใช้สิทธิงดออกเสียงแทน ชี้เป็นกุญแจให้ร่างฯ นิรโทษกรรม
ผ่านวาระ 1 ได้
วันที่
16 กรกฎาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.
ของพรรคร่วมกันแถลงถึงวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ที่วันนี้มีวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม
การยืนยันญัตติพระราชบัญญัติประชามติ ที่ 2 สภา สส.-สว.
เห็นต่างกันอยู่ ซึ่งวันนี้จะเป็นวันที่สภาจะได้ยืนยันร่างที่สภาผู้แทนราษฎรได้เสนอขึ้นไป
รวมถึงกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่มีสารสำคัญในการขยายความคุ้มครองสิทธิแรงงานของประชาชน
ส่วนร่าง
พ.ร.บ. นิรโทษกรรม เชื่อว่าวันนี้เป็นอีกหนึ่งวัน
ที่ตัวแทนจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล
หรือประชาชนเห็นตรงกันว่าประเทศจะต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม เห็นตรงกันแล้วว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองฉุดการพัฒนาประเทศไทย
ไม่ว่าการรัฐประหารปฏิวัติ 2 ครั้ง มีรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ มีนายกรัฐมนตรี 9 คน มีคนบาดเจ็บล้มตายหลาย 100
คน รวมถึงบุคคลที่ได้รับความสูญเสียและผลกระทบอีกนับ 1,000 คน ที่ทำให้ประเทศเกิดความเสียหายนับ 100,000 ล้านบาท
จากสถานการณ์การเมืองที่ผ่านมา เห็นตรงกันแล้วว่า
วันนี้หากยังไม่มีกฎหมายนิรโทษกรรม
อาจจะยังไม่สามารถปลดชนวนระเบิดความขัดแย้งที่รอวันปะทุในวันหน้าได้
รวมถึงความขัดแย้ง 20 ปีที่ผ่านมายังคงเป็นโซ่ตรวน
ความฉุดรั้งในการพัฒนาประเทศ
“วันนี้อยากจะเรียกร้องในส่วนของความกล้าหาญ
ในฐานะของผู้แทนราษฎรปวงชนชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะมาจากซีกพรรคการเมืองใด
อยากจะเรียกร้องให้ทุกคนลงคะแนนเสียง
ที่จะทำให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมได้ผ่านการพิจารณาในวาระ 2 ในทุกร่าง
แน่นอนที่สุดการเรียกร้องความกล้าหาญในวันนี้
แม้หลายพรรคจะยังไม่สะดวกใจที่จะรับได้ในทุกร่าง
ตามสิ่งที่พรรคประชาชนได้เรียกร้องในสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่เชื่อว่ายังมีวิธีโหวตลงคะแนนเสียงในสภาวันนี้
ที่อาจไม่ขัดต่อความรู้สึกมากเท่าไหร่นัก แต่ยังเป็นทางออกให้กับสภาผู้แทนราษฎรที่จะสามารถพิจารณาร่าง
5 ร่างในวาระที่สอง
นั่นคือการรับร่างของตัวเองในการยืนยันหลักการและรับร่างที่คิดว่าเป็นสิ่งที่รับได้
อย่างเช่น ร่างของภาคประชาชนหากคิดว่ารับหลักการได้ให้โหวตรับไปเลย”
นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์
กล่าวว่าร่างที่เห็นแตกต่างอยู่ไม่ควรโหวตคว่ำ
หรือปิดกั้นความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่กับภาคประชาชน
สามารถใช้ทางโหวตงดออกเสียงในร่างที่เห็นต่างได้
ซึ่งวิธีการลงคะแนนเสียงแบบนี้คือการยืนยันในหลักการของร่างที่เห็นด้วย
และงดออกเสียงในร่างที่เห็นต่าง
จะเป็นกุญแจและประตูที่สำคัญที่ทำให้ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้ง 5 ฉบับ
ผ่านการพิจารณาในวาระ 1 และเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่สอง
พร้อมทิ้งท้ายว่าการพิจารณาในวันนี้ยังไม่ใช่การที่จะแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับใคร
แต่ต้องยืนยันว่าเห็นด้วยว่าประเทศนี้จะต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม
การลงมติในวันนี้ไม่ใช่เวทีที่จะแสดงออกถึงความจงรักภักดี
หรือไม่จงรักภักดีกับเรื่องใดๆ ก็ตาม แต่เป็นเรื่องที่ต้องการหาทางออกร่วมกัน
สมานฉันท์ร่วมกัน
“การผ่านกฏหมายนิรโทษกรรม ที่มีการเลือกปฏิบัติ
ไม่เชื่อว่าเป็นการปลดชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต
วันนี้อยากส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคอื่นที่ได้แสดงจุดยืนของตัวเอง ว่าจริงๆ
ยังมีทางออกในสภา ผู้แทนราษฎรอยู่ คือการโหวตลงมติตามที่ได้เสนอไป” นายณัฐพงษ์
กล่าว
เมื่อถามว่า
พรรคพลังประชารัฐมีมติไม่รับร่างพระราชบัญญัติสักฉบับ แต่รับของภูมิใจไทย
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่มีความชัดเจนคือหลายคนไม่สะดวกใจ การนิรโทษกรรมมาตรา 112 ซึ่งเราก็ยืนยันว่า
ขอผู้เห็นต่างสามารถพูดคุยในวาระที่ 2 ฉะนั้นจึงอยากให้พรรคร่วมทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล
ควรจะงดออกเสียงในร่างที่ตนเองไม่สะดวกใจอยู่ ไม่ควรที่จะโหวตคว่ำ
เป็นการปิดประตูภาคส่วนอื่นๆ
เมื่อถามต่อว่า
การที่พรรคไทยสร้างไทย เสนอทางออกผู้ที่ต้องคดีมาตรา 112 ด้วย
กลไก “ขอพระราชทานอภัย” และ
ตั้งคณะกรรมการการกองคดีป้องกันการกลั่นแกล้งทางการเมือง นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า
เป็นข้อคิดเห็น ที่รับฟังได้ วันนี้เป็นชั้นรับหลักการทั้ง 4 ร่าง ที่ไม่รวมของพรรคภูมิใจไทย หลักการเปิดค่อนข้างกว้าง
เมื่อพิจารณาในชั้นรับหลักการไปแล้ว ก็เป็นการเปิดประตูเพื่อให้การพิจารณา
ในรายละเอียดอื่นๆ ในชั้นกรรมาธิการต่อได้
เพราะฉะนั้นการลงมติในวันนี้อยากให้ลงมติด้วยใจที่เปิดกว้าง
ให้ข้อคิดเห็นที่แตกต่างไปคุยกันต่อในวาระที่ 2