วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

"อ.ธิดา" วิเคราะห์ 3 ข้อ กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา

 


กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา


1. กัมพูชาภายใต้การนำของฮุนเซนและฮุนมาเนต มีเป้าหมายที่แน่นอนคือต้องการนำ 3 ปราสาทขึ้นสู่คดีศาลโลก เพราะมองว่ามีโอกาสชนะเช่นเดียวกับเขาพระวิหาร และนี่จะเป็นวีรกรรมที่สร้างความยิ่งใหญ่เป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์กัมพูชา


2. การทำงานทางยุทธศาสตร์ 2 ด้าน คือด้านการสื่อสารและสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะฝ่ายตะวันตก ค่ายเสรีประชาธิปไตย และ UN เป็นภารกิจหลักของฮุนมาเนตผู้ลูก ทำได้เข้มแข็ง รวดเร็ว ไม่ต้องรอประชุมกับหน่วยใด


แต่ยุทธศาสตร์ด้านการรบ เป็นภารกิจของฮุนเซนผู้เป็นพ่อ ที่ต้องการเป็นวีรบุรุษของกัมพูชา และเรียกความศรัทธาจากประชาชนที่ไม่มั่นคงด้านความเหลื่อมล้ำและความยากจนมีมาก


3. การที่ตระกูลชินวัตรได้มาเป็นรัฐบาล แม้จะมีมิตรไมตรีลึกซึ้งยาวนาน แต่ไม่สามารถสร้างความพอใจให้กับครอบครัวตระกูลฮุนและฮุนเซนได้ ตั้งแต่การแบ่งผลประโยชน์ทางทะเล ทำไม่ได้ตาม MOU44 การที่เขาถูกประณามเรื่องบ่อน เรื่องกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมการเงินข้ามชาติจากตระกูลชินวัตร รวมทั้งการถูกประณามจากชินวัตรผู้ลูกว่า “ไม่ใช่มืออาชีพ” ดังนั้น กรณีพิพาทชายแดนและการรุกรบ 2 แนวรบ ทั้งรุกรบชายแดนและรุกในเวทีต่างประเทศ จึงเป็นยุทธวิธีเพื่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของประเทศและของตระกูลฮุน ที่ต้องการท้าทายประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นคงของอำนาจตระกูลฮุนในกัมพูชายาวนาน


ถามว่าถ้ามีการยุติการสู้รบครั้งนี้แล้วจะยุติได้ตลอดไปหรือไม่? คงยาก!!! ในทัศนะดิฉัน เพราะมีการปลุกระดมความเกลียดชังในหมู่ประชาชนสองประเทศได้มาก และการสู้รบไปไกลพอควร เสียหายมากแล้ว ต้องเตรียมความคิดที่สร้างสรรค์อย่างมาก ถ้าจะรื้อฟื้นสัมพันธภาพที่ดีในอนาคต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยอ่อนแอ ชนชั้นนำ อำนาจนำไม่เป็นเอกภาพเช่นนี้ ประเทศใหญ่กว่าเช่นไทย ต้องเดินเกมตามหลัง “พ่อลูกตระกูลฮุน” ที่เขารุกรบอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์กรณีพิพาทชายแดนกับกัมพูชาครั้งนี้ สะท้อนความอ่อนด้อยหลายด้านของรัฐไทยที่ต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างเร่งด่วน


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ธิดาถาวรเศรษฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตระกูลฮุน #ตระกูลชินวัตร