ศาลไต่สวนแพทย์โรงพยาบาลตำรวจครึ่งเช้า
3 ราย หมอเจ้าของไข้เผย”ทักษิณ“มีช่วงดีขึ้น ไปนั่งโซฟาในห้องพักได้
วันนี้ (18 กรกฎาคม 2568)
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568
กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 5
นายวิญญัติ
ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสืบพยานคดี บังคับโทษ
อดีตนายกรัฐมนตรีนัดที่ 5 ว่า
วันนี้จะสืบพยานแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจคือแพทย์ใหญ่คนปัจจุบันและแพทย์ใหญ่ในอดีต
และทีมแพทย์รักษา นายทักษิณ รวม 6 คน ซึ่งการไต่สวนในวันนี้น่าจะใช้เวลาพอสมควร
ซึ่งจะมีรายละเอียดที่ศาลให้ความสนใจ อยากทราบ นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่เกี่ยวข้อง
กับเวชระเบียน หรือ บันทึกการรักษา
รวมถึงประวัติการรักษาตัวที่ต่างประเทศของนายทักษิณ ซึ่งทั้งหมดต้องเป็นการนำข้อเท็จจริงขึ้นสู่ศาล
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และ ตนได้ตั้งคำถามไว้ล่วงหน้า
แต่ก็ต้องดูว่าศาลจะอนุญาตหรือไม่ โดยเป็นดุลยพินิจของศาล
สำหรับการไต่สวนในช่วงเช้าวันนี้
ศาลได้ไต่สวนพยานจำนวน 3 ปาก เป็นอดีตแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจ
แพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน
และแพทย์ผู้ทำการรักษานายทักษิณที่เข้าเวรช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค. 2566
ส่วนพยานที่เป็นแพทย์ใหญ่และอดีตแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจเบิกความว่าห้องพักชั้น
14 มีผู้ป่วยมาพักก่อนหน้าอยู่แล้ว
เพราะเป็นช่วงที่โรงพยาบาลทำการกักตัวผู้ป่วยโควิด
ทำให้ต้องใช้ห้องพักผู้ป่วยทุกห้อง
โดยพยานรายที่
3 ที่เป็นแพทย์ผู้ทำการรักษาเบิกความถึงอาการในช่วงเข้ารับการรักษาของนายทักษิณ
โดยพยานได้มีการโทรปรึกษาเกี่ยวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคทางหัวใจด้วย
โดยระหว่างการรักษาตัว นายทักษิณมีอาการป่วยด้วยโรคอื่น แพทย์แนะนำให้ผ่าตัด
แต่นายทักษิณปฏิเสธการผ่าตัด ทั้งนี้ แพทย์ยืนยันว่า
ให้การรักษาตามจรรยาบรรณของแพทย์
ไม่รู้เกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับการส่งตัวหรือการส่งกลับผู้ป่วยที่มาจากเรือนจำ
พยานรายที่ 3 ยังเบิกความอีกว่าพอรักษาไปสักพัก
ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวสามารถส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ และเคยเห็นนายทักษิณไปนั่งที่โซฟาภายในห้องพัก
นอกจากจะนอนอยู่เเค่ที่เตียง
ส่วนที่ได้เป็นเเพทย์เจ้าของไข้ทักษิณเพราะว่าเป็นเเพทย์ที่รับไข้คนเเรก