เราจะไม่นิ่ง "วิ่งเพื่อส่งเสียงเรียกร้องสิทธิประกันตัว" #Run2Free วิ่งเพื่อเสรีภาพ นครปฐมนำร่องต่างจังหวัด หวังกระจายทั่วประเทศ 'อมรัตน์' ลั่นอย่าลืมนักโทษคดีการเมือง ยันการคิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม
วันนี้ (14 ต.ค. 68) อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล (เจี๊ยบ) พร้อมด้วย พรรคประชาชนนครปฐม ร่วมจัดกิจกรรม Run2Free #วิ่งเพื่อเสรีภาพ เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง ที่อยู่ในเรือนจำทั้งสิ้น 57 คน อาทิ อานนท์ นำภา เก็ท โสภณ ไผ่ ครูใหญ่ แอมป์ ไบรท์ บัสบาส ขุนแผน เป็นต้น ระบุว่ากิจกรรมนี้ถือเป็นการได้ออกกำลังกายทั้งทางความคิดและร่างกาย ผ่านการ “วิ่ง” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเราจะไม่ “นิ่ง” ต่อกระบวนการยุติธรรมที่กักขังผู้คนให้สูญเสียสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ให้ทุกหยาดเหงื่อ พลังงาน แคลอรี่ และทุกฝีก้าว ส่งเสียงเรียกร้อง “สิทธิประกันตัว” ให้กับเพื่อนที่ยังถูกคุมขังทางการเมือง โดยจังหวัดนครปฐมขอเป็นจังหวัดนำร่องต่างจังหวัด หวังกระจายทั่วประเทศ
โดยก่อนหน้านี้เมื่อ27 กันยายน 2568 iLaw (ไอลอว์ โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน) และเครือข่ายแนวร่วมฯ ร่วมกันจัดกิจกรรม Run2Free วิ่งเพื่อเสรีภาพ จากลานคนเมืองกรุงเทพฯ ไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ถือเป็น #Run2Free ครั้งแรก
โดยวันนี้ (14 ต.ค. ) ได้มีการเชิญชวนประชาชนใส่เสื้อสีดำกับรองเท้าคู่ใจออกจากบ้าน มาร่วมกันออก ”วิ่ง“ แสดงออกทางร่างกายและความคิดเพื่อสัญลักษณ์ว่าเราจะไม่ ”นิ่ง“ เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน เส้นทาง #จากวัดถึงวัง องค์พระปฐมเจดีย์ ถึง สนามจันทร์ รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรกว่า ๆ
โดยเวลา 06.00 น. รวมตัว ณ องค์พระปฐมเจดีย์ (หน้าพระร่วง) โดยผู้ร่วมกิจกรรมลงทะเบียนรับป้ายประจำตัวนักวิ่ง (BIB) แสดงชื่อ รูป และข้อมูลของผู้ถูกคุมขังคดีการเมืองทั้ง 57 คน ส่วนด้านหลังเสื้อติดป้ายข้อความ อาทิ ปล่อยนักโทษการเมือง, “Free Political Prisoner” เป็นต้น
เวลา 6.30 น. เจี๊ยบ อมรัตน์ ร่วมร้องเพลง แสงดาวแห่งศรัทธาพร้อมผู้ร่วมกิจกรรม โดยมีอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ร่วมเล่นกีตาร์ ก่อนที่ เจี๊ยบ อมรัตน์ กล่าวเปิดงาน ระบุว่า
วัตถุประสงค์ Run2Free วิ่งเพื่อเสรีภาพ เส้นทาง องค์พระปฐมเจดีย์ สู่พระราชวังสนามจันทร์ #วิ่งจากวัดไปวัง วิ่งเพื่อเสรีภาพผู้ต้องขังทางการเมือง ทั้ง 57คน ที่ยังถูก คุมขังในเรือนจำ เป็นผู้ที่ยืนยันในหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ที่ถูกรองรับด้วยรัฐธรรมนูญ
หลังปี 63 ผู้ถูกดำเนินคดีการเมืองพุ่งสูงสุด ไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ. นิรโทษกรรม ที่ผ่านสภาทั้ง 3 ฉบับ เพราะมีการยกเว้นไม่นิรโทษกรรมให้ผู้ต้องขังการเมืองคดีมาตรา 112 โดย สถิติคดีมาตรา 112 ใน รอบ 14 ปี ที่ผ่านมา ในชั้นอัยการสูงสุด มีมากถึง 3792 เรื่อง โดย มิถุนายน 2568 ยอดรวมผู้ถูกคดีทางการเมือง รวมทั้งสิ้น 1,977 คน จำนวน 1,330 คดี เป็นมาตรา 112 จำนวน 281คน จาก 314 คดี
อมรัตน์ กล่าวต่อว่า อานนท์ นำภา ผู้ที่ได้รับ "รางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน" รางวัลระดับนานาชาติ จากเกาหลีใต้ เมื่อปี 2564 ในฐานะเป็นผู้ต่อสู้กับเผด็จการที่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม และอุทิศตนเป็นทนายความให้กับบคดีมาตรา 112 มาตลอด ได้รับ "รางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน" ในฐานะเป็นผู้นำเป็นผู้ทรงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ให้กับคนรุ่นใหม่ บัดนี้คดีที่ตัดสินในศาลชั้นต้น รวมมากกว่า 29 ปี
ไผ่ ดาวดิน ได้รับรางวัล "รางวัลกวางจูเพื่อสิทธิมนุษยชน" ปี 2560 ถูกชื่นชมในความกล้าหาญและจิตใจที่รักความเป็นธรรม ที่เคลื่อนไหวต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการเพื่อสิทธิมนุษยชน ชื่อของไผ่ และอานนท์ ถูกจารึกไว้ที่หอเกียรติยศแห่งประเทศเกาหลีใต้ แต่ตัวของเขาทั้งสองตอนนี้ถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้อมรัตน์ ระบุว่าผู้ต้องขังทางการเมือง จำนวน 57 คน อาจกล่าวไม่ได้ทั้งหมด ขอยกตัวอย่างเยาวชนที่น่าเสียดาย "เก็ท โสภณ" นักศึกษาเทคนิคการแพทย์เรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้ว กำลังจะมีอนาคตที่สดใส เขาใช้เสรีภาพในการวิพากษ์วิจารย์การเมือง ตอนนี้เก็ทอยู่ในเรือนจำมากกว่า 2 ปี
ลูกเกด ชลธิชา ปัจจุบันเป็นสส.พรรคประชาชน เป็นจำเลยคดีเขียนจดหมายถึงพระมหากษัตรย์ โดยลูกเกดชลธิชาได้กล่าวว่าไม่ได้มีเจตนาประสงค์ร้ายใด ๆ ตอนนี้ลูกเกดถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกประมาณ 4 ปี กำลังสู้คดีต่อ
ฟราสซิส เอกชัย เป็นจำเลยมาตรา 110 ฟรานซิส เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ฟรานซิสได้กล่าวว่า "เราออกไปข้างนอกเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ได้ตั้งใจจะไปประทุษร้ายใคร" "ครูใหญ่" ฝากมาบอกว่า อยากออกไปช่วยหาเสียงเลือกตั้ง "ไผ่ ดาวดิน" ยังคงคิดถึงการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ
อากงและบุ้ง เนติพร เสียชีวิตระหว่างถูกจองจำในเรือนจำ และไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว และไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย พวกเขาแค่คิดต่างไม่ใช่อาชญากร และพวกเราในที่นี้ทั้งหมดขอยืนยันว่าการคิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม
พวกเราจัดกิจกรรมนี้เพื่อส่งเสียงของพวกเราทุกคน ไปถึงคนกลุ่มน้อยที่กุมอำนาจในประเทศนี้ว่า สิ่งที่พวกท่านกำลังทำกับผู้ต้องขังคดีการเมืองทั้ง 57 คน เป็นการไม่เคารพหลักสิทธิมนุษยชน และยืนยันกับท่านว่าประเทศนี้เป็นของเราทุกคนที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้ และคนตัวเล็กตัวน้อย การไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวเป็นสิ่งที่โหดร้ายเกินกว่าจะทนและพวกเราไม่อาจนิ่งเฉยได้จึงเป็นที่มาของกิจกรรมนี้ หวังว่าเสียงของพวกเราในวันนี้จะส่งไปกระทบหูพวกท่าน และคืนสิทธิเสรีภาพในการประกันตัว ให้เขาเหล่านั่นได้ออกมาหาหลักฐานในการสู้คดี
จากนั้นเป็นกิจกรรมวอร์มอัป (Warm up) เพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนเริ่มวิ่ง ในเวลา 06.50 น. โดยวิ่งผ่านตลาดนครปฐม พร้อมถือลูกโป่งสีดำ เขียนข้อความ อาทิ ปล่อยเพื่อเรา, Run2Free เป็นต้น
โดยตลอดทางวิ่ง ผู้เข้าร่วมตะโกนพร้อมกันว่า “วิ่งเพื่อเสรีภาพ” “นิรโทษกรรมประชาชน” และ “ปล่อยเพื่อนเรา” เป็นระยะ ๆ
กระทั่ง 07.20 ทั้งหมดวิ่งถึงพระราชวังสนามจันทร์ โดยร่วมร้องเพลง บทเพลงสามัญชน ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ เพลงบุ้งเนติพร และเพลงเราคือเพื่อนกัน ก่อนร่วมปล่อยถูกโป่งสีดำ เจี๊ยบ อมรัตน์ กล่าวปิดกิจกรรม และแยกย้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #วิ่งเพื่อเสรีภาพ #นครปฐม