วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ศาลอาญา สั่งจำคุก "ใบปอ" 3 ปี ผิด ม.112 กรณีทำโพลคำถามเรื่องการใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย เมื่อปี 65 ศาลเห็นเป็นนักศึกษาทำประโยชน์ให้สังคม ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ทนายยื่น 1 แสนประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ รอผล

 


ศาลอาญา สั่งจำคุก "ใบปอ" 3 ปี ผิด ม.112 กรณีทำโพลคำถามเรื่องการใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย เมื่อปี 65 ศาลเห็นเป็นนักศึกษาทำประโยชน์ให้สังคม ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ทนายยื่น 1 แสนประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ รอผล


วันที่ 28 ต.ค. 68 เวลา 9.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.1788/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง ใบปอ- ณัฐนิช, น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม หรือเมนู (หลบหนี) และน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง (เสียชีวิต) แกนนำกลุ่มทะลุวัง เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ


จากกรณี เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 พวกจำเลยร่วมกันทำโพลสอบถามความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตจนถึงสนามเป้า ถนนพหลโยธิน กทม. จำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว โดยในวันนี้มีเพียง น.ส.ณัฐนิช เพียงคนเดียวที่เดินทางเข้ามาฟังคำพิพากษา และกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ


ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว ฝ่ายพยานโจทก์มีเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนจากหลายพื้นที่ในความรับผิดชอบ 7 ปากเบิกความสอดคล้องต้องกันว่า แม้จะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความเชิญชวนในเพจทะลุวังให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมและแสดงความคิดเห็นตามสถานีรถไฟฟ้าเกี่ยวกับอำนาจของสถาบัน


ส่วนที่จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้ดูแลเพจดังกล่าวและโพสต์ข้อความ แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับพวกที่เดินทางไปทำกิจกรรมและสอบถามความคิดเห็นของประชาชนกับกลุ่มทะลุวัง โดยมีสติกเกอร์แจกให้กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมนำไปติดใต้ข้อความ 'เห็นด้วย' หรือ 'ไม่เห็นด้วย' เกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน การกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมซึ่งย่อมเล็งเห็นผลว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะตั้งข้อสงสัยกับการใช้อำนาจ


พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องจริง ส่วนคำเบิกความของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ เห็นว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ฐานดูหมิ่นสถาบัน พิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปี แต่อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุจำเลยมีอายุน้อย เป็นนักศึกษา และทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคมโดยการสอนหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา จิตอาสาสภากาชาดไทยและบริจาคดวงตาให้กับประชาชน เห็นสมควรลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา


ภายหลังจากศาลพิพากษานายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และทนายความของจำเลยได้ยื่นคำร้องและหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #มาตรา112