วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568

“ชุติพงศ์” พรรคประชาชน กมธ.ความมั่นคงฯ ชี้ "อนุทิน" เลี่ยงตอบคำถามแก๊งสแกมเมอร์ทั้งใน-นอกประเทศ ตั้งซูเปอร์บอร์ดทั้งที่มีหน่วยงานพร้อมอยู่แล้ว เหน็บ "พูดแล้วทำ" แต่นายกฯไม่พูดเลยจะได้ไม่ต้องทำ ย้ำโอกาสไทยจะสร้างบทบาทโลกอยู่ในมือผู้นำ หากยังเฉย หรือ "เกรงใจใคร" เตรียมเชิญ "ธรรมนัส-นฤมล" แจงอีกครั้ง

 


ชุติพงศ์” พรรคประชาชน กมธ.ความมั่นคงฯ ชี้ "อนุทิน" เลี่ยงตอบคำถามแก๊งสแกมเมอร์ทั้งใน-นอกประเทศ ตั้งซูเปอร์บอร์ดทั้งที่มีหน่วยงานพร้อมอยู่แล้ว เหน็บ "พูดแล้วทำ" แต่นายกฯไม่พูดเลยจะได้ไม่ต้องทำ ย้ำโอกาสไทยจะสร้างบทบาทโลกอยู่ในมือผู้นำ หากยังเฉย หรือ "เกรงใจใคร" เตรียมเชิญ "ธรรมนัส-นฤมล" แจงอีกครั้ง


วันที่ 16 ต.ค.2568 เวลา 09.20 น. ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปฏิกิริยาของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์มีความล่าช้าไปหรือไม่ ว่า เอาง่าย ๆ เรื่องที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวข้องกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือนายเบน สมิธ ตามที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานกมธ.ฯ ได้อภิปรายไปแล้ว


ซึ่งเรื่องนี้ตนยังไม่เห็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะพูดอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าร.อ.ธรรมนัส เกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงได้ไปคุยและได้ไปหาข้อเท็จจริงแล้วหรือไม่ แต่สิ่งที่นายอนุทิน ทำตลอดมาตั้งแต่เป็นายกฯ คือการหลีกเลี่ยงตอบคำถามเรื่องสแกมเมอร์ และจะเอาอย่างไรกับสแกมเมอร์ที่อยู่ในกัมพูชา เลี่ยงที่จะตอบว่าการทำงานเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อวาน (15 ต.ค.) ชัดมาก เพราะนายอนุทินบอกว่ามีผู้รับผิดชอบแล้ว และไม่พูดอะไรต่อ สักพักก็ระบุว่าเซ็นตั้งซูเปอร์บอร์ดเพื่อให้แก้ไขปัญหาแล้ว


ผมต้องถามว่าหน่วยงานที่มีทุกวันนี้ ได้สั่งการไปตามปกติและหรือไม่ ได้เรียกข้อมูลจาก AOC รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วหรือไม่ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่มีอำนาจยึดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์ ได้มีการดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง หรือมาตรการและกฎหมายที่มีทุกวันนี้พอแล้วหรือไม่ แม้แต่คนที่ทางสหรัฐอเมริกา อังกฤษหมายหัวไว้ อย่างนายเบน สมิธ เรื่องเหล่านี้นายอนุทินไม่ได้ฟังนายรังสิมันต์ พูดเลยหรือ เพราะทราบมาว่านายเบน สมิธ กลับมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว และคนที่ถูกหมายหัวจากทั้ง 2 ประเทศ ทำให้เห็นแล้วว่าทำอะไรได้บ้าง แล้วนายอนุทินทำอะไรไปบ้างแล้วหรือไม่” นายชุติพงศ์ กล่าว


นายชุติพงศ์ กล่าวต่อว่า บอร์ดที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการและมอบนโยบายอย่างไร เพราะตนยังไม่เห็นนโยบาย ไม่เห็นความจริงจัง จริงใจในการแก้ปัญหาทั้งในและนอกประเทศ ถ้าต้องถามกันตรงๆ นายอนุทินเกรงใจใครอยู่หรือไม่ หรือกังวลอะไรอยู่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ใกล้กับคนไทย ดูดเงินจากกระเป๋าคนไทยไปเป็นแสนล้าน และเข้ามาอยู่ใกล้ศูนย์กลางอำนาจรัฐ ขนาดนี้ยังต้องรออะไร หรือรอซูเปอร์บอร์ดประชุมอีกกี่ครั้ง ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ประกาศออกมาแล้ววว่าจะช่วยคนของเขาออกจากประเทศกัมพูชา ขณะที่ประเทศเราอยู่ติดกัมพูชาแต่นิ่งเฉย อย่างนี้นานาชาติเขาจะมองเราอย่างไร อาจมองว่าเรานิ่งเฉย หรือเกิดอะไรขึ้นที่อยู่ดีๆสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ประกาศว่าจะปราบเว็บพนันหรือสแกมเมอร์ของนักการเมืองไทยที่อยู่ในกัมพูชา จึงต้องถามว่านายอนุทินได้ดำเนินการอะไรบ้างในฐานะนายกฯ เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนว่า ไม่มีคนสักคนในรัฐบาลนี้เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ไม่เช่นนั้นประชาชนก็เคลือบแคลงแบบนี้ต่อไปว่าการตั้งบอร์ดแบบนี้ขึ้นมาเป็นการแตะถ่วงหรือหลีกกเลี่ยงที่จะบอกว่าทำอะไรได้บ้าง


เมื่อถามว่าพรรคประชาชนเสียใจหรือไม่ที่โหวตให้นายอนุทินเป็นายกฯ แต่กลับเพิกเฉยเรื่องการปราบแก๊งสแกมเมอร์ นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ปัญหาการเลือกนายกฯที่ผ่านมาเกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี 60 ที่ทำให้เราไม่สามารถเลือกนายกฯของพรรคประชาชนได้ แม้เราจะมีเสียงมากที่สุด สถานการณ์ทำให้ทำให้เราต้องเลือกใครสักคนมาทำหน้าที่ยุบสภาฯ หลังจากเกิดวิกฤตศรัทธาที่มีปัญหาเรื่องคลิปเสียงหลุด และชื่อของบุคคลที่จะเป็นนายกฯมีแค่นายชัยเกษม นิติสิริ และนายอนุทิน เราพิจารณาอย่างรอบด้าน และตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะหาทางออกให้กับประเทศ เราจึงเลือกนายอนุทิน ภายใต้ภารกิจที่ต้องทำให้ได้ คือยุบสภา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้คาดหวังให้นายอนุทินเป็นผู้แก้ไขวิกฤตทั้งหมดในช่วงเวลาแค่ 4 เดือน แต่หวังว่านายอนุทินจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้เท่านั้นพอ


ส่วนเรื่องที่คุณอนุทินประกาศในวันแถลงนโยบายว่าใน 4 เดือนจะทำงานอย่างหนัก เป็นพรรคที่พูดแล้วทำ นายอนุทินเลยไม่พูดเลย จะได้ไม่ต้องทำในเรื่องของสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ ถ้านายอนุทินเข้ามาแล้วบอกว่าจะทำงานแล้วทำไม่ได้ พอการเลือกตั้งมาถึงประชาชนก็จะได้พิจารณาว่าผู้ที่เข้ามาเป็นนายกฯ 4 เดือน ที่ประกาศว่าจะทำอะไรนอกเหนือ MOA และอยู่ในอำนาจของเขา แล้วทำไม่ได้ ก็จะเป็นผลงานที่คุณอนุทินฝากไว้ โดยเฉพาะเรื่องสแกมเมอร์ท่านทำไม่ได้ โอกาสทองฝังเพชรครั้งนี้อยู่ที่คุณอนุทิน จะโยนมันทิ้งปล่อยให้คนไทยลำบากต่อไป ทิ้งโอกาสที่เราจะเป็นพันธมิตรกับโลกทั้งใบ ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่เรากำลังจับตาครั้งนี้ไปหรือไม่ ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรทางกมธ.ยินดีให้ข้อมูล แต่ก็ไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ผมคิดว่านายอนุทินต้องทำให้มากกว่าการสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์เปิดเสียงผี เพราะรัฐบาลต้องทำให้ได้มากกว่านั้น ” นายชุติพงศ์ กล่าว


เมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทินจะโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้เพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ถ้าโทรไปก็ขอฝากนายอนุทิน เสนอมาตรการเชิงรุกบ้าง ไม่ใช่บอกว่ารับทราบเฉยๆ เราต้องแสดงบทบาทในฐานะประเทศที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ที่ต้องช่วยเหลือให้ประเทศอื่นแก้ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ต่อไปได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยต้องประสานความร่วมมือเอาคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาโดยเฉพาะในพื้นที่สแกมเมอร์ กลับออกมาให้หมดแล้วมาคัดแยก ว่าใครเป็นตัวใหญ่หรือเหยื่อ ถ้าเราช่วยได้ทั้งคนไทยและคนประเทศอื่นๆ บทบาทของไทยในเวทีโลกก็จะเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก และย้ำว่าโอกาสทองอยู่ในมือนายอนุทิน และการพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถ้าไม่มีคำตอบอะไรที่ชัดเจนให้เขา ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย


เมื่อถามว่าจะมีการเชิญร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เข้ามาชี้แจงต่อกมธ.อีกหรือไม่ นายชุติพงศ์ กล่าวว่า เชิญมาอีกแน่นอนในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเราเห็นความขึงขังจากร.อ.ธรรมนัส ว่าพร้อมช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ร.อ.ธรรมนัส จะมาชี้แจงว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง พร้อมช่วยประเททศไทยในการแก้ปัญหาอย่างไร และสามารถชี้แจงได้ด้วยว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับนายเบนสมิธ ถ้าร.อ.ธรรมนัส เลือกที่จะรำวงไปเรื่อย ๆ ไม่ตอบอะไรเลย และถ้านายอนุทินยังไม่ทำอะไร ยิ่งนานไปคนยิ่งสงสัยว่าการเงียบของนายอนุทินอยู่ภายใต้ความเกรงใจอะไรหรือไม่ ถ้ายิ่งช้า ยิ่งเงียบคนที่เสียหายที่สุดคือนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #กรรมาธิการความมั่นคง #แก๊งสแกมเมอร์