วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2568

สส.ปชน. 3 จังหวัด ชี้โยกย้ายผู้ว่ารอบล่าสุด สะท้อนระบบอุปถัมภ์เอื้อพวกพ้อง ไม่ได้ยึดความรู้ความสามารถ ย้ำต้องกระจายอำนาจ แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ประชาชนในพื้นที่ได้ดีที่สุด

 


สส.ปชน. 3 จังหวัด ชี้โยกย้ายผู้ว่ารอบล่าสุด สะท้อนระบบอุปถัมภ์เอื้อพวกพ้อง ไม่ได้ยึดความรู้ความสามารถ ย้ำต้องกระจายอำนาจ แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ประชาชนในพื้นที่ได้ดีที่สุด


กรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยกว่า 45 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ทำให้เกิดคำถามในสังคมอย่างกว้างขวางว่าเป็นการโยกย้ายโดยพิจารณาจากความรู้ความสามารถและการแก้ปัญหาให้ประชาชน หรือเป็นการโยกย้ายจากระบบอุปถัมภ์และเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง


สส.พรรคประชาชนจาก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต ได้สะท้อนปัญหาของการโยกย้ายครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผู้ว่าฯ ที่เร็วที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จากปกติผู้ว่าฯ มีวาระเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ซึ่งถือว่าสั้นมาก ย้ายบ่อยจนคนในพื้นที่จำชื่อผู้ว่าฯ ไม่ได้อยู่แล้ว มาครั้งนี้คนในพื้นที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ว่าฯ เปลี่ยนไปอีกแล้ว


[ คนเชียงใหม่ต้องได้เลือกผู้ว่าของตัวเอง ]


เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคประชาชน กล่าวว่าการโยกย้ายครั้งนี้เป็นการตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าเชียงใหม่ต้องมีผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาและการจัดทำบริการสาธารณะที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ประชาชนอย่างทันท่วงที


ขณะที่เชียงใหม่กำลังวางแผนระดับจังหวัดร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมพร้อมเผชิญปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 รัฐบาลจะเปลี่ยนผู้ว่าฯ เพื่ออะไร แล้วการแก้ปัญหาส่วยสัญชาติ ที่มีเครือข่ายในการเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนที่มีสิทธิได้รับสัญชาติไทย จะจัดการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร ตลอดจนเรื่องการจัดทำระบบขนส่งสาธารณะที่ภาคประชาสังคมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพยายามผลักดัน จะดำเนินการอย่างไรต่อ


ในเมื่อผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการขนส่งทางบกระดับจังหวัดถูกสั่งย้าย ผู้ว่าฯ คนใหม่ที่จะมาดำรงตำแหน่ง จะสานต่อเรื่องนี้ได้อย่างไร จะต้องนับหนึ่งอีกหรือไม่


การโยกย้ายผู้ว่าฯ ในครั้งนี้สะท้อนว่า รัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ตั้ง แต่เป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมือง ซึ่งอาจทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ตลอดจนการพัฒาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเชียงใหม่อาจต้องสะดุดหยุดลง


[ เชียงรายเปลี่ยนผู้ว่ากลางคัน แก้สารพิษน้ำกกชะงัก ]


ด้าน จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย เขต 6 พรรคประชาชน กล่าวว่าจังหวัดเชียงรายเคยประสบสถานการณ์ที่มีผู้ว่าฯ รอการเกษียณในช่วงภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ปี 2567 ทำให้เกิดปัญหาการสั่งการล่าช้า ไม่ทันกับการรับมือภัยพิบัติ


ครั้งนี้ก็เจอการเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขงอีกแล้ว ทั้งที่ในระดับจังหวัดนั้นได้มีการประชุมขับเคลื่อนในเชิงประเด็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางและภายในจังหวัด จนตกผลึกเรื่องแนวทางการรับมือกับปัญหา กำลังจะเริ่มดำเนินการ กลับมีการเปลี่ยนผู้ว่า ซึ่งคนใหม่ก็ต้องทำความรู้จักพื้นที่และปัญหากันใหม่


และล่าสุดที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ป่าวประกาศอย่างชัดเจนบนเวที ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่เป็นญาติของภรรยาของร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งมาเป็นผู้ว่าฯ ได้ 2 สัปดาห์ก็จะย้ายไปแล้ว พร้อมกับกล่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ที่จะย้ายมา ต้องเป็นคนที่ตัวเองสั่งการได้


ตกลงการโยกย้ายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละจังหวัด มีประชาชนอยู่ในสมการของการโยกย้ายหรือไม่ คำสั่งโยกย้ายนั้นมองถึงความรู้ความสามารถของผู้ว่าราชการคนดังกล่าวที่จะมาประจำในแต่ละจังหวัดหรือไม่ หรือเป็นเพียงการโยกย้ายตามอำเภอใจโดยที่ปัญหาของพ่อแม่พี่น้องถูกเตะถ่วงไว้ ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง การโยกย้ายตำแหน่งแบบนี้เพื่อประชาชนหรือเพื่อประโยชน์ตนเองกันแน่”


[ ปัญหาภูเก็ตรอแก้ไข ผู้ว่าโดนย้ายหลังรับตำแหน่งแค่ 14 วัน ]


ส่วน ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคประชาชน กล่าวว่า ภายในเวลาเพียง 14 วัน จังหวัดภูเก็ตเปลี่ยนผู้ว่าฯ ใหม่ เนื่องจากความต้องการของผู้มีอำนาจ ทั้งที่ผู้ว่าฯ คนที่ผ่านมา เพิ่งจะมาทำความความเข้าใจปัญหาต่างๆ ของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการน้ำ การจัดการพื้นที่สาธารณะเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน หรือการแก้ไขปัญหาจราจรแบบบูรณาการ โดยการเร่งพัฒนาโครงข่ายคมนาคมครบทุกระบบ เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และยังมีการแก้ไขปัญหาที่รอดำเนินการอีกหลายเรื่อง เช่น การจัดการพื้นที่สาธารณะประโยชน์ประเภทชายหาด ที่ต้องจัดการให้พ่อค้าแม่ค้าควบคู่ไปกับการบริหารจัดการพื้นที่ หรือการแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนระหว่างรัฐกับประชาชน


พรรคประชาชนขอยืนยันว่า การกระจายอำนาจคือการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ดีที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ต้องเอาการแก้ปัญหาให้กับประชาชนและการพัฒนาที่ตรงความต้องการของประชาชนเป็นตัวตั้ง พิจารณาคุณสมบัติของข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับภารกิจดังกล่าวเป็นสำคัญ ไม่ใช่โยกย้ายจากระบบอุปถัมภ์และเอื้อประโยชน์ให้กับเครือข่ายในกลุ่มของตน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน