“ณัฐชา” จี้รัฐบาลเร่งประกาศเขตภัยพิบัติ แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ หลังประชาชนเดือดร้อนหนักและมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ (บางขุนเทียน บางบอน) พรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.พรรคประชาชน ในพื้นที่ที่เกิดการระบาดของปลาหมอคางดำ แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งประกาศ “เขตภัยพิบัติ” และออกมาตรการเยียวยาอย่างเร่งด่วนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งกำลังลุกลามสร้างความเสียหายรุนแรงในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
สถานการณ์ปลาหมอคางดำในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกครั้ง โดยมีชาวประมงในจังหวัดสมุทรสงครามตัดสินใจจบชีวิตลง เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุนหนักจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในบ่อเพาะเลี้ยง ทำให้ต้นทุนการลงทุนสูญเปล่าและไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 2 จากปัญหานี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป
“สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ารัฐบาลยังไม่จริงจังในการแก้ไขปัญหานี้ ทั้งที่ผมและเพื่อน ส.ส.พรรคประชาชนได้เรียกร้องมาต่อเนื่อง ผ่านการหารือในสภา การเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการ และการทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 19 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาดแล้ว แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีจังหวัดใดประกาศเขตภัยพิบัติอย่างเป็นทางการ นอกจากกรุงเทพมหานครเพียงแห่งเดียว”
แม้รัฐบาลชุดปัจจุบันของอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะมีร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้เคยประกาศให้ “ปลาหมอคางดำ” เป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับไม่มีการดำเนินการเชิงรูปธรรม มีเพียงการจัดอีเวนต์และประชาสัมพันธ์ ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมากโดยไม่ช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย
“วาระแห่งชาติเรื่องปลาหมอคางดำ กลายเป็นวาระที่เงียบสนิท รัฐบาลต้องตอบประชาชนให้ได้ว่าทำไมจึงไม่เร่งประกาศเขตภัยพิบัติและเยียวยาในพื้นที่ 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ทั้งที่งบประมาณกลางกว่า 96 ล้านบาทที่เคยอนุมัติไว้ก็กลับถูกใช้ไปโดยไม่มีประสิทธิภาพ และยังมีข้อครหาว่ามีการกักตุนปลาหมอคางดำเพื่อนำมาขายราคาแพงอีกด้วย”
ณัฐชากล่าวว่า ตนได้เสนอแนวทางแก้ไขในระยะยาวว่า รัฐบาลควรส่งเสริมการนำปลาหมอคางดำไปแปรรูปเป็นปลาป่น เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจแทนการปล่อยให้เสียหายเปล่า ขณะเดียวกัน ควรพิจารณามาตรการประกันราคาส่วนต่างให้เกษตรกร เช่น หากราคาปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 3-4 บาท รัฐบาลสามารถอุดหนุนเพิ่มให้ถึงกิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อสร้างแรงจูงใจและบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะนี้พบการแพร่ระบาดในพื้นที่ใหม่อย่างอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งสามารถจับปลาหมอคางดำได้กว่า 300-400 ตัวต่อตารางเมตรในแหล่งน้ำธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดได้ลุกลามเกินกว่าที่กรมประมงประกาศไว้ 19 จังหวัดแล้ว จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและบูรณาการทุกภาคส่วนเข้ามาแก้ไขร่วมกัน
ด้าน ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร เขต 1 พรรคประชาชน กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาครถือเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำมากที่สุดของประเทศ จึงอยากเห็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่การแก้แบบ “อีเวนต์” ที่สิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่ยั่งยืน พร้อมเรียกร้องให้กรมประมงเปิดเผยความคืบหน้าการศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขที่ต้นเหตุ และเร่งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียซ้ำอีก
ขณะที่ บุญเลิศ แสงพันธุ์ สส.สมุทรปราการ เขต 7 กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาได้ทวงถามการประกาศเขตภัยพิบัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดหลายครั้งแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ พร้อมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเรื่องการประกาศเขตภัยพิบัติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนโดยไม่ต้องสูญเสียอีกต่อไป
“อย่าปล่อยให้ความเดือดร้อนของประชาชนจบลงด้วยชีวิตใครอีก เราต้องการเห็นรัฐบาลลงมือทำจริง ไม่ใช่เพียงพูดในวาระประชุม” ณัฐชากล่าวทิ้งท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #ปลาหมอคางดำ