"เท้ง ณัฐพงษ์"! ตอบปรากฎการณ์ 'ภูมิใจดูด' มองบวกใกล้ฤดูเลือกตั้งแล้ว ซัด รธน.เปิดช่องย้ายพรรคได้ง่าย! ลั่น! หากรัฐบาลบริหารอยู่ในกรอบที่ตกลงกันไว้ไม่น่าห่วง แต่ถ้าพบใช้อํานาจมิชอบ หรือทําลายกระบวนการแก้ รธน. พร้อมยื่นญัตติ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ทันที! ตั้งเป้าเลือกตั้งหน้ากวาด 20 ล้านเสียง 250 ที่นั่ง!
.
วันนี้ (8 ต.ค.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความเห็นต่อปรากฏการณ์ที่นักการเมืองหลายคนทยอยย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่า “ไม่ใช่เรื่องแปลก” เพราะเป็นภาพที่เกิดขึ้นเกือบทุกครั้งก่อนเลือกตั้ง “พอใกล้เลือกตั้ง การสลับขั้ว การย้ายพรรคถือเป็นเรื่องปกติในระบบการเมืองไทย แต่ปัญหาจริงคือรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่เปิดช่องให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ได้ง่าย”
.
หัวหน้าพรรคประชาชนมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือ “กลไกที่เอื้อให้ ส.ส. ย้ายพรรคได้สะดวก” และเป็นต้นเหตุของปัญหา “งูเห่า” ที่เคยเกิดขึ้นในสภา พร้อมย้ําว่า หากประเทศไทยต้องการการเมืองที่ตรงไปตรงมา ต้องเริ่มจาก การปฏิรูประบบการเมืองและร่างรัฐธรรมนูญใหม่
.
ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า พรรคภูมิใจไทยอาจกลายเป็น “รัฐบาลเสียงข้างมาก” นายณัฐพงษ์ระบุว่า ยังไม่เห็นสัญญาณเช่นนั้นในตอนนี้ แต่หากพบว่ารัฐบาลเริ่มหลุดกรอบ MOA หรือมีแนวโน้มใช้อํานาจมิชอบ ฝ่ายค้านพร้อมยื่นญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจทันที
.
“เราจะไม่ยอมให้สถานการณ์ไหลไปถึงจุดที่รัฐบาลถืออํานาจเบ็ดเสร็จ หรือใช้อํานาจโดยมิชอบแน่นอน” นายณัฐพงษ์กล่าวย้ํา
.
ผู้นําฝ่ายค้านยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าเป็น “ด่านแรก” ที่จะพิสูจน์ว่ารัฐบาลจริงใจในการปฏิรูปการเมืองหรือไม่ พร้อมจับตาหมวด 15/1 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาวาระสาม ซึ่งต้องดูทั้งเสียงจาก ส.ส. และการสนับสนุนจาก ส.ว. ถ้าไม่สามารถหาทางออกที่ยึดโยงกับประชาชนได้ ก็เท่ากับว่าพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถรักษาสัญญาใน MOA ได้
.
นายณัฐพงษ์ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรี ให้เข้มงวดกับรัฐมนตรีและผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะในกรณีที่อาจมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับคดีสําคัญ เช่น กรณีเขากระโดงหรือการแต่งตั้งบุคคลที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน พร้อมย้ําว่า “ฝ่ายค้านจะติดตามทุกความเคลื่อนไหวทั้งในสภาและกรรมาธิการ ถ้ารัฐบาลเริ่มใช้อํานาจผิดทาง หรือบั่นทอนกระบวนการยุติธรรม เราจะยื่นไม่ไว้วางใจทันที ไม่รอให้บ้านเมืองเสียหาย”
.
สําหรับทิศทางการเมือง พรรคประชาชนยังคงตั้งเป้าเดิมในเลือกตั้งครั้งหน้า คือ 20 ล้านเสียง หรือไม่น้อยกว่า 250 ที่นั่งในสภา โดยเชื่อมั่นว่าการทํางานตรงไปตรงมาและฟังเสียงประชาชนจะทําให้ความนิยมกลับมาได้