‘พริษฐ์’ จี้ "รัฐบาล" เร่งแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ย้ำเงื่อนไข MOA
ยุบสภา ควบคู่แก้ รธน.-ทำประชามติ เชื่อ
ปชช.ไม่อยากเห็นการยุบสภาเป็นอาวุธหนีการตรวจสอบ เผยหลัง
พ.ร.บ.ประชามติมีผลใช้บังคับเป็นสัญญาณบวก ย้ำเดินตามกรอบเดิม ยุบสภาภายใน 31
ม.ค.69 ยันร่างแก้
รธน.ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ กมธ. เร่งหาฉันทามติรูปแบบ
ส.ส.ร.จากทุกพรรค
วันที่
28 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น.
ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.)
ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ของรัฐบาลในขณะนี้ ว่า
เรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม
ตนเพิ่งกลับมาจากประเทศสิงคโปร์
และได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำเรื่องนี้
เพื่อความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่คนไทย
แต่กระทบต่อคนทั่วโลก ดังนั้น
สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้คือคือรัฐบาลทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์
นายพริษฐ์
กล่าว่า หากรัฐบาลเอาจริงเรื่องนี้จะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว
คือ 1.เป็นการแก้ปัญหาที่กระทบต่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน
และชีวิตของประชาชนทั่วโลก 2.ถ้าเชื่อว่าแหล่งที่มาหรือรายได้ของผู้มีอิทธิพลของกัมพูชาบางส่วนมาจากสแกมเมอร์นั้น
แล้วเราสามารถแก้ไขได้ จะถือว่าเป็นการทะลายแหล่งที่มารายได้ของผู้นำกัมพูชา
และทำให้การหาข้อยุติข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และ 3.หากไทยลุกขึ้นมาชิงบทบาทในการทำเรื่องนี้
เราจะมีบทบาทและอิทธิพลในเวทีโลก ซึ่งเรื่องสแกมเมอร์เป็นอันดับต้นๆ
ที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ
จะเป็นโอกาสดีที่เราจะเชิญชวนประเทศมหาอำนาจของโลกมาร่วมกันหารือ
และดำเนินการเรื่องนี้ร่วมกัน
เมื่อถามว่า
สถานการณ์การเมืองปัจจุบันเชื่อว่าจะไม่มีการยุบสภาฯ ในปลายปีนี้ใช่หรือไม่
เพราะมีการเตรียมยื่นซักฟอกของพรรคเพื่อไทย นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไขการยุบสภาฯ
31 มกราคม และเป็นการยุบสภาฯ ควบคู่กับการทำประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ
คือเป้าหมายที่เราจะมุ่งหน้าไปสู่
และคิดว่าประชาชนก็คงไม่อยากเห็นการใช้อาวุธเรื่องยุบสภาฯ
เป็นเครื่องมือในการหนีการตรวจสอบ ดังนั้น พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้าน
ในมุมหนึ่งก็อยากจะเดินหน้าทุกอย่างเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย MOA แต่อีกมุมหนึ่งก็ไม่ละเว้นหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลเช่นกัน
เมื่อถามว่า
หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจริง การลงมติจะออกมาในรูปแบบใด นายพริษฐ์ กล่าวว่า
ตนมองว่าต้องดูสาเหตุ ซึ่งเนื้อหาในการยื่นขออย่าไปจำกัดแค่พรรคใดพรรคหนึ่ง
พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านก็มีสิทธิ์เช่นกัน
แต่เราก็ต้องทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านให้สมดุล เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายให้มีการเลือกตั้งพร้อมการทำประชามติควบคู่กับกลไกการตรวจสอบ
เพื่อปกป้องผลประโยชน์ภาษีของประชาชน
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะยื่นซักฟอกหรือไม่นั้น
ตนยืนยันว่าเราจะใช้ทุกกลไกในการตรวจสอบ
แต่ก็ต้องดูสาเหตุหรือการกระทำของรัฐบาลว่าเหมาะสมที่จะใช้กลไกใดในการตรวจสอบ
นายพริษฐ์
ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
แก้ไขเพิ่มเติม ยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทำประชามติและการยุบสภาว่า
หลังจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ มีผลบังคับใช้
ถือเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่า กระบวนการเดินหน้าตามกรอบเวลาในบันทึกความเข้าใจ
(MOA) จะเป็นไปได้ตามแผน โดยต้องยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม
2569 เพื่อจัดทำประชามติและเลือกตั้งทั่วไป
นายพริษฐ์
กล่าวว่า ขณะนี้ กมธ. อยู่ระหว่างเร่งหารือเพื่อสรุป
โมเดลการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
พร้อมย้ำว่าทุกร่างต้องอยู่ในกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
แม้แต่ละพรรคอาจมีแนวทางต่างกัน แต่เป้าหมายคือการสร้างฉันทามติในสภา
เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ได้จริง
“สิ่งสำคัญคือ ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา รวมถึงเสียง 20% ของฝ่ายค้าน และ 1 ใน 3 ของวุฒิสภา
เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องออกแบบกระบวนการที่ทุกฝ่ายยอมรับได้” นายพริษฐ์ กล่าว
พร้อมเผยว่า หาก กมธ. สรุปได้เร็ว อาจเสนอเปิดประชุมสมัยวิสามัญก่อน 12 ธันวาคม เพื่อพิจารณาวาระ 2 และ 3
ในส่วนของ
การทำประชามติพร้อมการเลือกตั้ง นายพริษฐ์แสดงความกังวลว่า
อาจเกิดอุปสรรคด้านการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยเฉพาะการออกเสียงล่วงหน้า
พ.ร.บ.ประชามติฉบับใหม่ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าจะสามารถทำประชามติล่วงหน้าในประเทศได้หรือไม่
ดังนั้น กมธ. จะเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาหารือ
เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจน
อาจใช้ระบบลงคะแนนทางไปรษณีย์ควบคู่กับการเลือกตั้งล่วงหน้า
เพื่อให้ประชาชนสามารถลงคะแนนเลือกตั้งและออกเสียงประชามติในครั้งเดียวกันได้
นายพริษฐ์
ยืนยันว่า ขั้นตอนที่ดำเนินอยู่ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากคำวินิจฉัยระบุไว้ชัดว่า ประชามติสามารถทำได้ 3 ครั้ง
แต่ครั้งที่ 1 และ 2 อาจรวมกันได้
ซึ่งรัฐสภาและรัฐบาลก็เห็นพ้องกันในแนวทางนี้
เป้าหมายของกระบวนการทั้งหมดไม่ใช่เพียง ทำให้เร็วแต่ต้อง
ทำให้รอบคอบและเป็นฉันทามติเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย
และได้รับความเห็นชอบจากประชาชนอย่างแท้จริง
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ
