อดีตที่ปรึกษากระทรวง
ICT เตือนคนไทย ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง...กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน
มองเป็นแผนสงครามจิตวิทยา!!!
วานนี้
(18 มิถุนายน 2568) พลอากาศตรีสุรพล นวะมวัฒน์
อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ICT) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก
ระบุว่า
“สงครามในเงามืด ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง...กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน”
โดย นายทหารที่ผ่านพื้นที่การรบจริง และอดีตที่ปรึกษา รมต.ICT ผู้เคยปฏิบัติการข่าวสารในหลายพื้นที่ปฏิบัติการ
ถ้าผมเป็นฮุนเซน...
ผมคงยิ้มออกตอนนี้แหละ เพราะแผน “สงครามจิตวิทยา” ที่วางไว้ กำลังได้ผล โดยที่คนไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่รู้ตัวว่า
“ตกเป็นเครื่องมือ” ไปแล้ว
การปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้นำสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันคือ “ปฏิบัติการจิตวิทยาเชิงรุก” (Psychological Warfare) ที่มีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อผู้นำ และทำให้ความมั่นคงของไทยปั่นป่วนจากภายใน
ในฐานะที่เคยทำงานด้านนี้
ผมจะบอกตรงนี้เลยว่า...สงครามยุคนี้ไม่ได้ยิงกันด้วยกระสุนอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยิงกันด้วย
“ข้อมูล ความรู้สึก และอารมณ์ของประชาชน”
ประเด็นที่คนไทยต้องตื่นรู้เกมป่วนจากภายนอกได้ผลทันตา ยิ่งคนไทยแตกแยกกันเอง เสียงเรียกร้องให้ยุบสภา หรือแม้แต่รัฐประหารยิ่งดัง ฮุนเซนก็ยิ่งขำ เพราะสิ่งที่เขาต้องการ คือ “การทำให้ระบบการเมืองไทย เข้าสู่ภาวะสุญญากาศ” เพื่อให้เขา “เล่นเกมต่อ” ได้ โดยไม่มีฝ่ายตรงข้ามในระดับรัฐ
การรัฐประหาร
= กับดักทางการทูต
ประเทศใดก็ตามที่มีรัฐบาลทหาร มักตกอยู่ในความยากลำบาก ทางการต่างประเทศมีตัวอย่างให้ดู และรับรู้ได้จริงในช่วงรัฐบาล คสช. ข้อตกลง ความช่วยเหลือ การสนับสนุนจากพันธมิตรจะถูกแขวนไว้หมด และในจังหวะนั้น “เขมรจะเดินหน้าเต็มกำลังบนเวทีโลก”
การรบ
= เข้าทางอีกฝั่ง
อย่าลืมว่าฮุนเซน ได้ฟ้องไทยต่อศาลโลกแล้ว ถ้ามีการปะทะเกิดขึ้นจริง ศาลจะถือว่าไทยใช้กำลัง และการตัดสินมักจะไม่เป็นธรรมต่อฝ่ายที่ใช้กำลังก่อน นี่คือบทเรียนจากเวทีโลกที่ผมเคยเห็นมาในหลายประเทศ
คลิปเสียงคือเครื่องมือปั่นประสาท
อย่าเอามาตัดสินว่า ใคร “ขายชาติ” จากบทสนทนาไม่ถึง 20 นาที เพราะคนทำงานด้านความมั่นคงจริง
ๆ รู้ดีว่า การพูดคุยระหว่างผู้นำ มันเต็มไปด้วยชั้นเชิง บางทีต้องยอมถอยเพื่อเอาชนะในอีกวัน
อย่าให้เขมร “ยิงประชาชนไทยด้วยข้อมูล” แล้วคนไทยเราหันไปยิงกันเอง
คนปล่อยคลิป (ฮุนเซน) ไม่ได้ต้องการแค่ให้คนไทยโกรธนายกฯ แต่ต้องการให้คนไทยทะเลาะกันเอง
แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ยิ่งคนไทยตีผู้นำของตัวเองเท่าไร ศัตรูก็ยิ่งเข้มแข็งเท่านั้น
วันนี้เราต้องถามตัวเองว่า “เราจะให้ต่างชาติแทรกแซงและกำหนดอารมณ์เราได้ขนาดนี้เลยหรือ?”
บทสรุปจากความคิดเห็นของผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีประสบการณ์และเรียนรู้ในด้านนี้มากจากการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์อยากจะขอกระตุกความคิดให้พวกเราคนไทย ต้องมี “สติทางยุทธศาสตร์” ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ทางการเมือง” เราต้องปกป้องชาติ ไม่ใช่ด้วยอาวุธ แต่ด้วย “ความเข้าใจและวุฒิภาวะ”
ถ้าศัตรูใช้ข้อมูลเป็นอาวุธ เราต้องใช้ปัญญาเป็นเกราะ อย่าเพิ่งรีบด่าผู้นำของเรา เพราะคลิปเสียง ไม่ใช่ “ภาพรวมของข้อตกลง” มันคือ “ช่วงหนึ่งของบทสนทนา” ที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งใจเลือกมาให้เราฟัง อย่าใจร้อน อย่าใจเบา ถ้าเราแพ้สงครามข้อมูล #เราอาจไม่ต้องรบเลยก็แพ้แล้ว
ผมขอให้คนไทยตั้งสติ
และปกป้องประเทศของเราให้ได้ จากสงครามที่ไม่มีเสียงปืน... แต่รุนแรงยิ่งกว่า
ด้วยความเคารพ
จากคนเคยเห็นเลือดเนื้อความสูญเสียของประชาชนบนผืนดินของชาติอื่นที่ได้ไปทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ทางทหาร
ของ UN