วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อดีตที่ปรึกษากระทรวง ICT เตือนคนไทย ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง...กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน มองเป็นแผนสงครามจิตวิทยา!!!


อดีตที่ปรึกษากระทรวง ICT เตือนคนไทย ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง...กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน มองเป็นแผนสงครามจิตวิทยา!!!


วานนี้ (18 มิถุนายน 2568) พลอากาศตรีสุรพล นวะมวัฒน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ICT) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า


สงครามในเงามืด ปฏิบัติการปล่อยคลิปเสียง...กับบทเรียนที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน” โดย นายทหารที่ผ่านพื้นที่การรบจริง และอดีตที่ปรึกษา รมต.ICT ผู้เคยปฏิบัติการข่าวสารในหลายพื้นที่ปฏิบัติการ


ถ้าผมเป็นฮุนเซน... ผมคงยิ้มออกตอนนี้แหละ เพราะแผน “สงครามจิตวิทยา” ที่วางไว้ กำลังได้ผล โดยที่คนไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่รู้ตัวว่า ตกเป็นเครื่องมือ” ไปแล้ว


การปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างผู้นำสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันคือ ปฏิบัติการจิตวิทยาเชิงรุก” (Psychological Warfare) ที่มีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อผู้นำ และทำให้ความมั่นคงของไทยปั่นป่วนจากภายใน


ในฐานะที่เคยทำงานด้านนี้ ผมจะบอกตรงนี้เลยว่า...สงครามยุคนี้ไม่ได้ยิงกันด้วยกระสุนอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยิงกันด้วย ข้อมูล ความรู้สึก และอารมณ์ของประชาชน”


ประเด็นที่คนไทยต้องตื่นรู้เกมป่วนจากภายนอกได้ผลทันตา ยิ่งคนไทยแตกแยกกันเอง เสียงเรียกร้องให้ยุบสภา หรือแม้แต่รัฐประหารยิ่งดัง ฮุนเซนก็ยิ่งขำ เพราะสิ่งที่เขาต้องการ คือ “การทำให้ระบบการเมืองไทย เข้าสู่ภาวะสุญญากาศ” เพื่อให้เขา “เล่นเกมต่อ” ได้ โดยไม่มีฝ่ายตรงข้ามในระดับรัฐ


การรัฐประหาร = กับดักทางการทูต


ประเทศใดก็ตามที่มีรัฐบาลทหาร มักตกอยู่ในความยากลำบาก ทางการต่างประเทศมีตัวอย่างให้ดู และรับรู้ได้จริงในช่วงรัฐบาล คสช. ข้อตกลง ความช่วยเหลือ การสนับสนุนจากพันธมิตรจะถูกแขวนไว้หมด และในจังหวะนั้น เขมรจะเดินหน้าเต็มกำลังบนเวทีโลก”


การรบ = เข้าทางอีกฝั่ง


อย่าลืมว่าฮุนเซน ได้ฟ้องไทยต่อศาลโลกแล้ว ถ้ามีการปะทะเกิดขึ้นจริง ศาลจะถือว่าไทยใช้กำลัง และการตัดสินมักจะไม่เป็นธรรมต่อฝ่ายที่ใช้กำลังก่อน นี่คือบทเรียนจากเวทีโลกที่ผมเคยเห็นมาในหลายประเทศ


คลิปเสียงคือเครื่องมือปั่นประสาท อย่าเอามาตัดสินว่า ใคร “ขายชาติ” จากบทสนทนาไม่ถึง 20 นาที เพราะคนทำงานด้านความมั่นคงจริง ๆ รู้ดีว่า การพูดคุยระหว่างผู้นำ มันเต็มไปด้วยชั้นเชิง บางทีต้องยอมถอยเพื่อเอาชนะในอีกวัน อย่าให้เขมร ยิงประชาชนไทยด้วยข้อมูล” แล้วคนไทยเราหันไปยิงกันเอง คนปล่อยคลิป (ฮุนเซน) ไม่ได้ต้องการแค่ให้คนไทยโกรธนายกฯ แต่ต้องการให้คนไทยทะเลาะกันเอง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ยิ่งคนไทยตีผู้นำของตัวเองเท่าไร ศัตรูก็ยิ่งเข้มแข็งเท่านั้น


วันนี้เราต้องถามตัวเองว่า เราจะให้ต่างชาติแทรกแซงและกำหนดอารมณ์เราได้ขนาดนี้เลยหรือ?”


บทสรุปจากความคิดเห็นของผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีประสบการณ์และเรียนรู้ในด้านนี้มากจากการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์อยากจะขอกระตุกความคิดให้พวกเราคนไทย ต้องมี สติทางยุทธศาสตร์” ไม่ใช่แค่ อารมณ์ทางการเมือง” เราต้องปกป้องชาติ ไม่ใช่ด้วยอาวุธ แต่ด้วย “ความเข้าใจและวุฒิภาวะ”


ถ้าศัตรูใช้ข้อมูลเป็นอาวุธ เราต้องใช้ปัญญาเป็นเกราะ อย่าเพิ่งรีบด่าผู้นำของเรา เพราะคลิปเสียง ไม่ใช่ ภาพรวมของข้อตกลง” มันคือ “ช่วงหนึ่งของบทสนทนา” ที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งใจเลือกมาให้เราฟัง อย่าใจร้อน อย่าใจเบา ถ้าเราแพ้สงครามข้อมูล #เราอาจไม่ต้องรบเลยก็แพ้แล้ว


ผมขอให้คนไทยตั้งสติ และปกป้องประเทศของเราให้ได้ จากสงครามที่ไม่มีเสียงปืน... แต่รุนแรงยิ่งกว่า


ด้วยความเคารพ


จากคนเคยเห็นเลือดเนื้อความสูญเสียของประชาชนบนผืนดินของชาติอื่นที่ได้ไปทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ทางทหาร ของ UN


#ผู้การเสือ


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #คลิปเสียงหลุด #แพทองธาร #ฮุนเซน