บันทึกไว้เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นใหม่ในเรื่ององค์กรประชาชน
และเพื่อให้คนรุ่นเก่าไม่บิดเบือน!!!
ประเด็นการชุมนุมกดดันรัฐบาลเพื่อการประกันตัว
การทวงความยุติธรรมด้วยการจัดชุมนุมและแรลลี่ระหว่างสี่แยกราชประสงค์กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
แรก ๆ จัดทุกเดือน ต่อมาจึงเป็นทุกปีที่มีการตั้งเวที สลับที่แยกราชประสงค์และเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดยเราใช้ทุนส่วนตัวเอง (เหมือนกับค่าบุคลากรสำนักงานนปช.)
ยกเว้นบางปีที่มีวีดีโอคอลจาก นายกฯ ทักษิณ ก็จะมีการช่วยเหลือการจัดจอเพิ่ม
เครื่องเสียงเพิ่ม ผู้คนมากันมากมายทุกครั้งในการจัดชุมนุมโดยไม่ต้องมีค่ารถให้
แม้ในระหว่างที่พวกแกนนำถูกจองจำ ดิฉันเอาภรรยาแกนนำอุ้มลูกขึ้นเวทีด้วยซ้ำ
คนมามากจนคนในพรรคเพื่อไทยตกใจว่าการจัดชุมนุมทวงความยุติธรรมให้คนเป็นคนตายจะมีปัญหาถูกปราบปรามอีก
แต่ดิฉันก็ถามเขาว่าถ้าไม่จัดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะให้ไปจัดที่ไหน?
ผู้คนมามากจนทำให้ผู้ปราบปรามและรัฐบาลรู้ว่าคนเสื้อแดงยังอยู่ ยังมีมาก
ยังเรียกร้องความยุติธรรมอยู่ จนในที่สุดก็ได้เตรียมเลือกตั้งใหม่ในปี 2554
ดิฉันและคุณจตุพร (เป็นสส.) ได้ไปกระทั่งชุมนุมหน้าศาลฎีกา สนามหลวง
จนสุดท้ายมีการตระเตรียมการเลือกตั้งในปี 2554 แกนนำได้ออกจากคุกในเดือนกุมภาพันธ์
2554 เราสามารถจัดเวทีต้อนรับที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
กว่าพวกเขาจะได้ออกมาและผ่านการเลือกตั้ง 2554 ได้ตำแหน่งสส. เป็นรัฐมนตรี
คนที่สู้นอกคุก รวมทั้งมวลชน
น่าประหลาดใจที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของแกนนำนปช.ที่ติดคุก
เท่าที่ดิฉันสัมผัสความคิดและคำพูดหลังจากนั้น
![]() |
ภาพ : ประชาไท วันที่ 10 ธ.ค. 53 ชุมนุมครบรอบ 8 เดือนหลังเหตุการณ์ 10เมษา53 |
ดิฉันไม่ถือเป็นเรื่องบุญคุณ
แต่ถือเป็นภารกิจที่ต้องทำให้ดีที่สุด และต้องทำอย่างมีศักดิ์ศรี
แต่อย่างหนึ่งที่ดิฉันเป็นประธานนปช.คือ ดิฉันไม่ได้รับเงินพรรคการเมือง
ทั้งจากพรรคหรือจากผู้ใหญ่ใด ๆ ในการทำงานตั้งแต่ต้น
จนกระทั่งได้เข้าสู่การเตรียมการเลือกตั้งในปี 2554
ดิฉันได้รับการทาบทามจากคนสำคัญนอกพรรคเพื่อไทย
ในการตรวจสอบการเลือกตั้งทั่วประเทศในปี 2554 ว่าจะทำได้ไหม ดิฉันรับโครงการนี้
เพราะถือว่าได้ประโยชน์ คือจับผิดการซื้อเสียง
เพราะเราและพรรคเพื่อไทยขณะนั้นเชื่อว่า เลือกตั้งครั้งนี้ (2554) จะชนะแน่
แต่ต้องระวังการซื้อเสียง ดิฉันเห็นว่าได้ประโยชน์กับประชาชนไทยและองค์กรนปช.
ที่ดิฉันเป็นประธาน เพื่อสนับสนุนให้มีแกนนำและการจัดตั้งคนเสื้อแดงทั่วประเทศ
ให้เป็นผู้ตรวจสอบทุกจุดการเลือกตั้ง เราใช้คนนับแสนคน
(ผู้มาติดต่อเขามองไม่เห็นว่าองค์กรใดจะทำได้) นี่จึงเป็นโอกาสดีในการยกเครื่องสำนักงานและการประสานงาน
การจัดตั้งคนเสื้อแดงทุกเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศ
เราอาจไม่สามารถรายงานผลการเลือกตั้งแบบ Real Time
ได้ทัน แต่การประชาสัมพันธ์การตรวจสอบการเลือกตั้งในชนบททุกเขต
ทำให้ได้ผลในเชิงจิตวิทยาการเมืองได้ และการสร้างพละกำลังให้ผู้สมัครใจตรวจสอบการเลือกตั้ง
(ไม่ใช่หัวคะแนนพรรค) ได้เข้ามาทำงานนี้อย่างกระตือรือร้น นี่เป็นการ reset แกนนำเสื้อแดงครั้งใหญ่สำหรับองค์กรนปช.
และการจัดตั้งสำนักงานนปช.ที่มีมือไม้และอุปกรณ์ win-win ทั้งพรรคการเมือง
(ที่ไม่ต้องการโกงไม่ต้องการจ่ายเงิน) ทั้งประชาชนไทย ทั้งประเทศไทย
และทั้งองค์กรนปช. แกนนำบางคนมองไม่เห็นหรือไม่สนใจ
ผลงานนี้ที่ดิฉันถือว่ายิ่งใหญ่พอควร สร้างความเข้มแข็งให้เสื้อแดงนปช.
หลังจากหมดกำลังจากการถูกปราบปราม 2553 แล้ว ผลการเลือกตั้งเพื่อไทยก็ชนะ ได้ Popular
Vote บัญชีรายชื่อ 15.7 ล้านเสียง ชนะประชาธิปัตย์ถล่มทลาย
![]() |
3 ก.ค. 54 พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ได้คะแนนเสียง 15.7 ล้านเสียง |
แกนนำบางคนต้องการแสดงผลงานต่อพรรค
ก็มาถามดิฉันว่าประชุมแกนนำทั่วประเทศได้ไหม ดิฉันก็บอกว่า “ด้าย” ทั้ง ๆ
ที่เขาพ้นคุกมาไม่นาน ยังไม่มีงานมวลชนเลย จะขอให้ประชุมแกนนำทั่วประเทศ
จะขอให้ส่งรายชื่อผู้ถูกจองจำในเรือนจำ รายชื่อ ฯลฯ ก็ได้ทั้งนั้น เวลานั้น เอกชัย
หงส์กังวาน ก็มาอยู่ทำงานช่วงหนึ่ง เขามีหน้าที่ไปเยี่ยมคนในเรือนจำ เอาตัวเลขต่าง
ๆ ของคนในเรือนจำตลอด
ดิฉันก็ถึงขนาดเคยเข้าไปคุยกับผู้ถูกควบคุมในเรือนจำนับร้อยคน ยังทำมาแล้ว
แต่ถ้าใครอยากได้อะไรก็มาขอจากเรา ก็ให้หมด เพื่อนำไปส่งพรรคการเมือง
ถ้าพูดถึงการทวงความยุติธรรมนับจากที่ดิฉันเป็นประธานนปช.มา
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยได้ร่วมด้วย
ดิฉันว่าแกนนำที่พยายามมาพูดแก้ตัวรู้ไม่เท่าดิฉันหรอก
เพราะรัฐมนตรียุติธรรมและฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ประสานงานกับดิฉันโดยตรง ดังนั้น
ไม่จำเป็นต้องมาพูดแก้ตัวให้พรรคเพื่อไทย เพราะตัวแกนนำบางคนก็ไม่ได้ทำอะไร
นอกจากอยู่กับพรรค เป็นสส. เป็นเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ และเป็นรัฐมนตรี ตัวอย่างคือ
- การขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษ
112 บางคน
- การจัดสถานที่ความเป็นอยู่ที่เหมาะสม
แต่คนที่ถูกคดี 112 ที่ไม่อาจย้ายไปคุกใหม่ได้
- ที่สำคัญ
คุณที่บางเขน พวกคุณไปถามรัฐมนตรียุติธรรมขณะนั้นได้ว่ามาร่วมมือ และในฐานะประธานนปช.
ดิฉันผลักดันมีการประชุม ติดตามจนเกิดเรือนจำหลักสี่บางเขนขึ้นมา
ที่ดิฉันพูดเพราะเห็นอ้างลอย ๆ ว่าพรรคทำ ดิฉันบอกได้ว่า
รัฐมนตรีร่วมกับดิฉันที่เป็นประธานนปช. ขณะนั้น ทำงานร่วมกัน
เพื่อช่วยเหลือผู้ถูกจองจำที่ถูกตัดสินคดี
(ในทัศนะดิฉันมีข้อสงสัยอยู่มากในกระบวนการยุติธรรม) โดยที่ดิฉันอ้างยุคจอมพลสฤษดิ์
ธนะรัชต์ ที่แยกผู้ถูกคุมขังทางการเมืองออกจากผู้ถูกคุมขังในคดีอื่น ๆ
และได้ตรวจสอบการ Renovate
พร้อมช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับคนในเรือนจำเกี่ยวกับอาหาร 2 มื้อ และอื่น ๆ
ที่จำเป็น ที่น่าขันคือแกนนำสส.ทั้งหลายที่เคยรับปากจะจัดเงินช่วยเหลือประจำเดือนแก่คนในเรือนจำหลักสี่
กลับไม่รักษาคำพูด แต่ดิฉันจำเป็นต้องรักษาคำพูดโดยการจ่ายเงินส่วนตัวฝ่ายเดียว
และให้อาหารกลางวันเป็นของผู้ประสงค์จะจ่าย แต่บอกตรง ๆ ว่าไม่มีจากพรรคและสส.เลย
![]() |
ที่เรือนจำหลักสี่ อ.ธิดา เยี่ยมผู้ต้องขังทางการเมือง |
ที่ดิฉันพูดเรื่องนี้เพราะบางคนพูดไม่ครบ
เลือกพูดแก้ตัวให้พรรค ดิฉันไม่โทษพรรคเพื่อไทยขณะนั้น
เพราะส่วนที่ตอบตกลงตามข้อเรียกร้องของเรา เช่น เงินเยียวยา และกระทรวงยุติธรรม
โดย พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก ก็ประสานงานกับเราดีมาก และส่วนที่ช่วยเหลือคดีความคืบหน้าไปมาก
จนเป็นเหตุให้เมื่อดิฉันมาทำคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53) ดิฉันเชิญพี่วิรุฬห์
ฟื้นแสน, ทนายโชคชัย อ่างแก้ว, ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี, อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์
มาร่วมประชุมกัน เพื่อร่างข้อเรียกร้องและจัดตั้งคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553
ไม่ใช่ดิฉันทำเอาเองตามความคิดของตนเอง
![]() |
ญาติผู้ต้องขัง ขอบคุณ อ.ธิดา ที่ผลักดันให้มีเรือนจำหลักสี่ แยกขังนักโทษการเมืองออกจากอาชญากรรมทั่วไป |
แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยเปิดดีลข้ามขั้วไปอยู่ข้างฝ่ายกระทำต่อประชาชน
ฝ่ายสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ฝ่ายอำมาตย์/เผด็จการ เราก็รู้ได้ว่าเขาไม่อาจทวงความยุติธรรมให้ประชาชนได้แน่นอน
เพราะยามมีอำนาจเป็นรัฐบาล เพื่อไทยตัดสินใจผิดหลายเรื่อง ไม่ฟังความเห็น
ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เอาแบบนปช. (ที่สสร.มาจากการเลือกตั้ง
จัดตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเอง) และปรามาสผู้ต่อต้านนิรโทษสุดซอย
โดยเฉพาะคนเสื้อแดง (ไม่รู้คิดได้ยังไง) ไปจนเรื่องไม่ยอมเซ็นรับอำนาจ ICC เข้ามาสืบสวนผู้ทำการฆ่าประชาชน
ดิฉันแปลกใจมากที่อดีตแกนนำนปช.
สายพรรค/สายการเมือง มองไม่เห็นหรือไม่ตระหนักว่า คนเสื้อแดงนปช.ยังเข้มแข็ง
ทำงานมากมาย ทั้งการชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา
กลายเป็นว่าพยายามเกาะพรรคการเมืองและผู้นำ โดยไม่ได้สนใจการทำงานของเรา ตลอดเวลาที่พวกเขาไปมีอำนาจในพรรคการเมืองด้วยตำแหน่งต่าง
ๆ ในรัฐบาล
ดิฉันเพียงแต่แปลกใจมาก
ๆ เท่านั้น ดิฉันไม่ได้คิดเรื่องบุคคลและผลประโยชน์
เพราะดิฉันทำเพื่อความก้าวหน้าของประเทศและของประชาชน
ส่วนใครจะเอาไปเป็นผลประโยชน์ของตนในฐานะผู้เดินตามพรรคการเมือง ดิฉันไม่ว่าอะไร
แต่ขออย่าไปสร้างความเข้มแข็งให้กับปฏิปักษ์ประชาชน
และทำให้เกิดการแบ่งแยกเสียหายในหมู่นักต่อสู้
ดิฉันชินกับการผิดคำพูดของคนสายการเมืองเสมอมา
แต่การข้ามขั้วถูกขนานนามว่า “ตระบัดสัตย์” นี่ไม่ใช่เรื่องศีลธรรม
แต่นี่คือการทรยศต่อพี่น้องประชาชนนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
การผิดคำพูดในเรื่องเงินทองและการทำงานมีมาเสมอ ดิฉันจำเป็นต้องเงียบเฉยไว้
แม้จะเหยียบหัวเราและประชาชนขึ้นสูงก็ยังรับได้
แต่ถ้าการเดินเกมการเมืองเป็นอุปสรรคขัดขวางการต่อสู้ที่ก้าวหน้าของประชาชน
เราจำเป็นต้องแสดงทิศทาง หลักการ การต่อสู้ของประชาชนให้ชัดเจน
ไม่ขึ้นกับบุคคลและพรรคการเมืองใดก็ตาม
สรุปภารกิจของเราเมื่อเป็นประธานนปช. ในปลายปี
2553 ถึงต้นปี 2557
- ตั้งสำนักงาน ดังที่กล่าวแล้วว่าเรามีแต่ห้อง
ไม่มีสำนักงานทำงานจริง
ภารกิจประสานกับรัฐบาลเพื่อดูแลผู้ถูกคุมขังในเรือนจำให้ได้ประกันตัว ได้อภัยโทษ
และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นดังได้กล่าวมาแล้ว คือประสานให้ได้ที่คุมขังหลักสี่และการเยียวยา
- ภารกิจการดูแลติดตามคดีที่ทนายความอิสระ
ทนายความนปช. ทนายความของพรรค ในการต่อสู้คดีให้คืบหน้ามากขึ้น
- ภารกิจประสานงานมวลชน
การปราศรัยเพื่อจัดตั้งประธานนปช. แต่ละจังหวัด (ที่มาจากการเลือกตั้ง)
แต่มีจำนวนมากที่ตั้งตัวเองเป็นประธาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ภารกิจโรงเรียนการเมืองนปช.
เกืบอทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งต้องเตรียมเอกสารประกอบการเรียน การจัดวิทยากร
และประสานมวลชนทั่วประเทศ
- ภารกิจการทวงความยุติธรรม
การจัดงานรำลึกเหตุการณ์เมษา-พฤษภา53 การชุมนุมในวาระเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น
ประท้วงวุฒิสมาชิกสายอนุรักษ์ที่มาจาการแต่งตั้ง การประท้วงศาลรัฐธรรมนูญ ประท้วง
คอป., ป.ป.ช.
- ภารกิจการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ
ฉบับนปช. ต่างจากพรรคเพื่อไทย และล่ารายชื่อได้ร่วมแสนราย
- ภาคกิจการประสานงานทนายอัมสเตอร์ดัม
เพื่อนำคดีสู่ศาลโลก (ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุจากพรรค) จนได้อัยการ ICC มาเจรจาขอให้พรรคเพื่อไทยเซ็นอนุญาตให้เขามาสืบสวน
- ภารกิจด้านงานต่างประเทศ
ผ่านสถานทูตต่าง ๆ และสื่อต่างประเทศ
เราได้ประสานงานเป็นประจำกับประเทศที่สนับสนุนการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการ เรามีทั้งานเอกสารชี้แจงและการพบปะด้วยตนเอง
ผ่านเอกอัครราชทูต 3-4 รุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโต้ คอป.
(คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ)
ที่เผยแพร่ผลงานผิด ๆ เรื่องเรามีชายชุดดำ โดยคณะของนายสมชาย หอมลออ
- ภารกิจงานเอกสาร
โต้หน่วยงานยุติธรรม องค์กรอิสระ ไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญ เป็นงานเขียนของดิฉันล้วน ๆ
แม้จนหมดวาระการเป็นประธานนปช. ก็ยังช่วยทำงานให้กับประธานนปช.คนใหม่
- การสร้างสื่อของนปช.
มี Blog
UDD Red, Twitter, Facebook UDD news ซึ่งยังอยู่ถึงปัจจุบันนี้
ทั้งหมดนี้ดิฉันไม่ได้เขียนเพื่อแสดงความดีเด่นอะไร
เพราะมวลชนเสื้อแดงส่วนมากพอจะทราบแล้ว นอกจากคนที่ผลประโยชน์ตนเอง ปิดบังดวงตาไว้
ดิฉันเขียนเพื่อให้คนรุ่นหลังทราบว่า
การทำงานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
เพราะนี่ไม่ใช่องค์กรปฏิวัติ ที่จะกลั่นกรองคนด้วยอุดมการณ์นักปฏิวัติ
และในขณะเดียวกันก็ถูกครอบงำด้วยผลประโยชน์ส่วนตนที่ยึดโยงกับพรรคการเมือง แกนนำที่เราสร้างขึ้นจำนวนมากก็วิ่งเข้าหาแหล่งเงินและอำนาจ
ไม่ใช่นักต่อสู้มีอุดมการณ์จริง
เรายังทำไม่ได้ดี
แต่ดิฉันและคนเสื้อแดงได้พยายามทำสุดกำลังมาตลอดเวลานับสิบปี