วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ : สรุปภารกิจเมื่อเป็นประธาน นปช. (ปลายปี 2553 - ต้นปี 2557) ในบันทึกไว้เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นใหม่ในเรื่ององค์กรประชาชน และเพื่อให้คนรุ่นเก่า ไม่บิดเบือน!!!


บันทึกไว้เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นใหม่ในเรื่ององค์กรประชาชน และเพื่อให้คนรุ่นเก่าไม่บิดเบือน!!!


ประเด็นการชุมนุมกดดันรัฐบาลเพื่อการประกันตัว

 

การทวงความยุติธรรมด้วยการจัดชุมนุมและแรลลี่ระหว่างสี่แยกราชประสงค์กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แรก ๆ จัดทุกเดือน ต่อมาจึงเป็นทุกปีที่มีการตั้งเวที สลับที่แยกราชประสงค์และเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยเราใช้ทุนส่วนตัวเอง (เหมือนกับค่าบุคลากรสำนักงานนปช.) ยกเว้นบางปีที่มีวีดีโอคอลจาก นายกฯ ทักษิณ ก็จะมีการช่วยเหลือการจัดจอเพิ่ม เครื่องเสียงเพิ่ม ผู้คนมากันมากมายทุกครั้งในการจัดชุมนุมโดยไม่ต้องมีค่ารถให้ แม้ในระหว่างที่พวกแกนนำถูกจองจำ ดิฉันเอาภรรยาแกนนำอุ้มลูกขึ้นเวทีด้วยซ้ำ คนมามากจนคนในพรรคเพื่อไทยตกใจว่าการจัดชุมนุมทวงความยุติธรรมให้คนเป็นคนตายจะมีปัญหาถูกปราบปรามอีก แต่ดิฉันก็ถามเขาว่าถ้าไม่จัดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะให้ไปจัดที่ไหน? ผู้คนมามากจนทำให้ผู้ปราบปรามและรัฐบาลรู้ว่าคนเสื้อแดงยังอยู่ ยังมีมาก ยังเรียกร้องความยุติธรรมอยู่ จนในที่สุดก็ได้เตรียมเลือกตั้งใหม่ในปี 2554 ดิฉันและคุณจตุพร (เป็นสส.) ได้ไปกระทั่งชุมนุมหน้าศาลฎีกา สนามหลวง จนสุดท้ายมีการตระเตรียมการเลือกตั้งในปี 2554 แกนนำได้ออกจากคุกในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 เราสามารถจัดเวทีต้อนรับที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กว่าพวกเขาจะได้ออกมาและผ่านการเลือกตั้ง 2554 ได้ตำแหน่งสส. เป็นรัฐมนตรี คนที่สู้นอกคุก รวมทั้งมวลชน น่าประหลาดใจที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของแกนนำนปช.ที่ติดคุก เท่าที่ดิฉันสัมผัสความคิดและคำพูดหลังจากนั้น

ภาพ : ประชาไท วันที่ 10 ธ.ค. 53 ชุมนุมครบรอบ 8 เดือนหลังเหตุการณ์ 10เมษา53

ดิฉันไม่ถือเป็นเรื่องบุญคุณ แต่ถือเป็นภารกิจที่ต้องทำให้ดีที่สุด และต้องทำอย่างมีศักดิ์ศรี แต่อย่างหนึ่งที่ดิฉันเป็นประธานนปช.คือ ดิฉันไม่ได้รับเงินพรรคการเมือง ทั้งจากพรรคหรือจากผู้ใหญ่ใด ๆ ในการทำงานตั้งแต่ต้น จนกระทั่งได้เข้าสู่การเตรียมการเลือกตั้งในปี 2554 ดิฉันได้รับการทาบทามจากคนสำคัญนอกพรรคเพื่อไทย ในการตรวจสอบการเลือกตั้งทั่วประเทศในปี 2554 ว่าจะทำได้ไหม ดิฉันรับโครงการนี้ เพราะถือว่าได้ประโยชน์ คือจับผิดการซื้อเสียง เพราะเราและพรรคเพื่อไทยขณะนั้นเชื่อว่า เลือกตั้งครั้งนี้ (2554) จะชนะแน่ แต่ต้องระวังการซื้อเสียง ดิฉันเห็นว่าได้ประโยชน์กับประชาชนไทยและองค์กรนปช. ที่ดิฉันเป็นประธาน เพื่อสนับสนุนให้มีแกนนำและการจัดตั้งคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ให้เป็นผู้ตรวจสอบทุกจุดการเลือกตั้ง เราใช้คนนับแสนคน (ผู้มาติดต่อเขามองไม่เห็นว่าองค์กรใดจะทำได้) นี่จึงเป็นโอกาสดีในการยกเครื่องสำนักงานและการประสานงาน การจัดตั้งคนเสื้อแดงทุกเขตการเลือกตั้งทั่วประเทศ เราอาจไม่สามารถรายงานผลการเลือกตั้งแบบ Real Time ได้ทัน แต่การประชาสัมพันธ์การตรวจสอบการเลือกตั้งในชนบททุกเขต ทำให้ได้ผลในเชิงจิตวิทยาการเมืองได้ และการสร้างพละกำลังให้ผู้สมัครใจตรวจสอบการเลือกตั้ง (ไม่ใช่หัวคะแนนพรรค) ได้เข้ามาทำงานนี้อย่างกระตือรือร้น นี่เป็นการ reset แกนนำเสื้อแดงครั้งใหญ่สำหรับองค์กรนปช. และการจัดตั้งสำนักงานนปช.ที่มีมือไม้และอุปกรณ์ win-win ทั้งพรรคการเมือง (ที่ไม่ต้องการโกงไม่ต้องการจ่ายเงิน) ทั้งประชาชนไทย ทั้งประเทศไทย และทั้งองค์กรนปช. แกนนำบางคนมองไม่เห็นหรือไม่สนใจ ผลงานนี้ที่ดิฉันถือว่ายิ่งใหญ่พอควร สร้างความเข้มแข็งให้เสื้อแดงนปช. หลังจากหมดกำลังจากการถูกปราบปราม 2553 แล้ว ผลการเลือกตั้งเพื่อไทยก็ชนะ ได้ Popular Vote บัญชีรายชื่อ 15.7 ล้านเสียง ชนะประชาธิปัตย์ถล่มทลาย


3 ก.ค. 54 พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ได้คะแนนเสียง 15.7 ล้านเสียง

แกนนำบางคนต้องการแสดงผลงานต่อพรรค ก็มาถามดิฉันว่าประชุมแกนนำทั่วประเทศได้ไหม ดิฉันก็บอกว่า “ด้าย” ทั้ง ๆ ที่เขาพ้นคุกมาไม่นาน ยังไม่มีงานมวลชนเลย จะขอให้ประชุมแกนนำทั่วประเทศ จะขอให้ส่งรายชื่อผู้ถูกจองจำในเรือนจำ รายชื่อ ฯลฯ ก็ได้ทั้งนั้น เวลานั้น เอกชัย หงส์กังวาน ก็มาอยู่ทำงานช่วงหนึ่ง เขามีหน้าที่ไปเยี่ยมคนในเรือนจำ เอาตัวเลขต่าง ๆ ของคนในเรือนจำตลอด ดิฉันก็ถึงขนาดเคยเข้าไปคุยกับผู้ถูกควบคุมในเรือนจำนับร้อยคน ยังทำมาแล้ว แต่ถ้าใครอยากได้อะไรก็มาขอจากเรา ก็ให้หมด เพื่อนำไปส่งพรรคการเมือง

 

ถ้าพูดถึงการทวงความยุติธรรมนับจากที่ดิฉันเป็นประธานนปช.มา ส่วนที่พรรคเพื่อไทยได้ร่วมด้วย ดิฉันว่าแกนนำที่พยายามมาพูดแก้ตัวรู้ไม่เท่าดิฉันหรอก เพราะรัฐมนตรียุติธรรมและฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ประสานงานกับดิฉันโดยตรง ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องมาพูดแก้ตัวให้พรรคเพื่อไทย เพราะตัวแกนนำบางคนก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากอยู่กับพรรค เป็นสส. เป็นเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ และเป็นรัฐมนตรี ตัวอย่างคือ

 

-      การขอพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษ 112 บางคน

-      การจัดสถานที่ความเป็นอยู่ที่เหมาะสม แต่คนที่ถูกคดี 112 ที่ไม่อาจย้ายไปคุกใหม่ได้

-      ที่สำคัญ คุณที่บางเขน พวกคุณไปถามรัฐมนตรียุติธรรมขณะนั้นได้ว่ามาร่วมมือ และในฐานะประธานนปช. ดิฉันผลักดันมีการประชุม ติดตามจนเกิดเรือนจำหลักสี่บางเขนขึ้นมา ที่ดิฉันพูดเพราะเห็นอ้างลอย ๆ ว่าพรรคทำ ดิฉันบอกได้ว่า รัฐมนตรีร่วมกับดิฉันที่เป็นประธานนปช. ขณะนั้น ทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ถูกจองจำที่ถูกตัดสินคดี (ในทัศนะดิฉันมีข้อสงสัยอยู่มากในกระบวนการยุติธรรม) โดยที่ดิฉันอ้างยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่แยกผู้ถูกคุมขังทางการเมืองออกจากผู้ถูกคุมขังในคดีอื่น ๆ และได้ตรวจสอบการ Renovate พร้อมช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับคนในเรือนจำเกี่ยวกับอาหาร 2 มื้อ และอื่น ๆ ที่จำเป็น ที่น่าขันคือแกนนำสส.ทั้งหลายที่เคยรับปากจะจัดเงินช่วยเหลือประจำเดือนแก่คนในเรือนจำหลักสี่ กลับไม่รักษาคำพูด แต่ดิฉันจำเป็นต้องรักษาคำพูดโดยการจ่ายเงินส่วนตัวฝ่ายเดียว และให้อาหารกลางวันเป็นของผู้ประสงค์จะจ่าย แต่บอกตรง ๆ ว่าไม่มีจากพรรคและสส.เลย

 

ที่เรือนจำหลักสี่ อ.ธิดา เยี่ยมผู้ต้องขังทางการเมือง

ที่ดิฉันพูดเรื่องนี้เพราะบางคนพูดไม่ครบ เลือกพูดแก้ตัวให้พรรค ดิฉันไม่โทษพรรคเพื่อไทยขณะนั้น เพราะส่วนที่ตอบตกลงตามข้อเรียกร้องของเรา เช่น เงินเยียวยา และกระทรวงยุติธรรม โดย พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก ก็ประสานงานกับเราดีมาก และส่วนที่ช่วยเหลือคดีความคืบหน้าไปมาก จนเป็นเหตุให้เมื่อดิฉันมาทำคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53) ดิฉันเชิญพี่วิรุฬห์ ฟื้นแสน, ทนายโชคชัย อ่างแก้ว, ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี, อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ มาร่วมประชุมกัน เพื่อร่างข้อเรียกร้องและจัดตั้งคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 ไม่ใช่ดิฉันทำเอาเองตามความคิดของตนเอง


ญาติผู้ต้องขัง ขอบคุณ อ.ธิดา ที่ผลักดันให้มีเรือนจำหลักสี่
แยกขังนักโทษการเมืองออกจากอาชญากรรมทั่วไป

แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยเปิดดีลข้ามขั้วไปอยู่ข้างฝ่ายกระทำต่อประชาชน ฝ่ายสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ฝ่ายอำมาตย์/เผด็จการ เราก็รู้ได้ว่าเขาไม่อาจทวงความยุติธรรมให้ประชาชนได้แน่นอน เพราะยามมีอำนาจเป็นรัฐบาล เพื่อไทยตัดสินใจผิดหลายเรื่อง ไม่ฟังความเห็น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เอาแบบนปช. (ที่สสร.มาจากการเลือกตั้ง จัดตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเอง) และปรามาสผู้ต่อต้านนิรโทษสุดซอย โดยเฉพาะคนเสื้อแดง (ไม่รู้คิดได้ยังไง) ไปจนเรื่องไม่ยอมเซ็นรับอำนาจ ICC เข้ามาสืบสวนผู้ทำการฆ่าประชาชน

 

ดิฉันแปลกใจมากที่อดีตแกนนำนปช. สายพรรค/สายการเมือง มองไม่เห็นหรือไม่ตระหนักว่า คนเสื้อแดงนปช.ยังเข้มแข็ง ทำงานมากมาย ทั้งการชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา กลายเป็นว่าพยายามเกาะพรรคการเมืองและผู้นำ โดยไม่ได้สนใจการทำงานของเรา ตลอดเวลาที่พวกเขาไปมีอำนาจในพรรคการเมืองด้วยตำแหน่งต่าง ๆ ในรัฐบาล

 

ดิฉันเพียงแต่แปลกใจมาก ๆ เท่านั้น ดิฉันไม่ได้คิดเรื่องบุคคลและผลประโยชน์ เพราะดิฉันทำเพื่อความก้าวหน้าของประเทศและของประชาชน ส่วนใครจะเอาไปเป็นผลประโยชน์ของตนในฐานะผู้เดินตามพรรคการเมือง ดิฉันไม่ว่าอะไร แต่ขออย่าไปสร้างความเข้มแข็งให้กับปฏิปักษ์ประชาชน และทำให้เกิดการแบ่งแยกเสียหายในหมู่นักต่อสู้

 

ดิฉันชินกับการผิดคำพูดของคนสายการเมืองเสมอมา แต่การข้ามขั้วถูกขนานนามว่า “ตระบัดสัตย์” นี่ไม่ใช่เรื่องศีลธรรม แต่นี่คือการทรยศต่อพี่น้องประชาชนนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การผิดคำพูดในเรื่องเงินทองและการทำงานมีมาเสมอ ดิฉันจำเป็นต้องเงียบเฉยไว้ แม้จะเหยียบหัวเราและประชาชนขึ้นสูงก็ยังรับได้ แต่ถ้าการเดินเกมการเมืองเป็นอุปสรรคขัดขวางการต่อสู้ที่ก้าวหน้าของประชาชน เราจำเป็นต้องแสดงทิศทาง หลักการ การต่อสู้ของประชาชนให้ชัดเจน ไม่ขึ้นกับบุคคลและพรรคการเมืองใดก็ตาม

 

สรุปภารกิจของเราเมื่อเป็นประธานนปช. ในปลายปี 2553 ถึงต้นปี 2557

 

-      ตั้งสำนักงาน  ดังที่กล่าวแล้วว่าเรามีแต่ห้อง ไม่มีสำนักงานทำงานจริง ภารกิจประสานกับรัฐบาลเพื่อดูแลผู้ถูกคุมขังในเรือนจำให้ได้ประกันตัว ได้อภัยโทษ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นดังได้กล่าวมาแล้ว คือประสานให้ได้ที่คุมขังหลักสี่และการเยียวยา

-      ภารกิจการดูแลติดตามคดีที่ทนายความอิสระ ทนายความนปช. ทนายความของพรรค ในการต่อสู้คดีให้คืบหน้ามากขึ้น

-      ภารกิจประสานงานมวลชน การปราศรัยเพื่อจัดตั้งประธานนปช. แต่ละจังหวัด (ที่มาจากการเลือกตั้ง) แต่มีจำนวนมากที่ตั้งตัวเองเป็นประธาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

-      ภารกิจโรงเรียนการเมืองนปช. เกืบอทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งต้องเตรียมเอกสารประกอบการเรียน การจัดวิทยากร และประสานมวลชนทั่วประเทศ

-      ภารกิจการทวงความยุติธรรม การจัดงานรำลึกเหตุการณ์เมษา-พฤษภา53 การชุมนุมในวาระเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ประท้วงวุฒิสมาชิกสายอนุรักษ์ที่มาจาการแต่งตั้ง การประท้วงศาลรัฐธรรมนูญ ประท้วง คอป., ป.ป.ช.

-      ภารกิจการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนปช. ต่างจากพรรคเพื่อไทย และล่ารายชื่อได้ร่วมแสนราย

-      ภาคกิจการประสานงานทนายอัมสเตอร์ดัม เพื่อนำคดีสู่ศาลโลก (ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุจากพรรค) จนได้อัยการ ICC มาเจรจาขอให้พรรคเพื่อไทยเซ็นอนุญาตให้เขามาสืบสวน

-      ภารกิจด้านงานต่างประเทศ ผ่านสถานทูตต่าง ๆ และสื่อต่างประเทศ เราได้ประสานงานเป็นประจำกับประเทศที่สนับสนุนการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการ เรามีทั้งานเอกสารชี้แจงและการพบปะด้วยตนเอง ผ่านเอกอัครราชทูต 3-4 รุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโต้ คอป. (คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ) ที่เผยแพร่ผลงานผิด ๆ เรื่องเรามีชายชุดดำ โดยคณะของนายสมชาย หอมลออ

-      ภารกิจงานเอกสาร โต้หน่วยงานยุติธรรม องค์กรอิสระ ไปจนถึงศาลรัฐธรรมนูญ เป็นงานเขียนของดิฉันล้วน ๆ แม้จนหมดวาระการเป็นประธานนปช. ก็ยังช่วยทำงานให้กับประธานนปช.คนใหม่

-      การสร้างสื่อของนปช. มี Blog UDD Red, Twitter, Facebook UDD news ซึ่งยังอยู่ถึงปัจจุบันนี้

 

ทั้งหมดนี้ดิฉันไม่ได้เขียนเพื่อแสดงความดีเด่นอะไร เพราะมวลชนเสื้อแดงส่วนมากพอจะทราบแล้ว นอกจากคนที่ผลประโยชน์ตนเอง ปิดบังดวงตาไว้ ดิฉันเขียนเพื่อให้คนรุ่นหลังทราบว่า การทำงานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะนี่ไม่ใช่องค์กรปฏิวัติ ที่จะกลั่นกรองคนด้วยอุดมการณ์นักปฏิวัติ และในขณะเดียวกันก็ถูกครอบงำด้วยผลประโยชน์ส่วนตนที่ยึดโยงกับพรรคการเมือง แกนนำที่เราสร้างขึ้นจำนวนมากก็วิ่งเข้าหาแหล่งเงินและอำนาจ ไม่ใช่นักต่อสู้มีอุดมการณ์จริง

 

เรายังทำไม่ได้ดี แต่ดิฉันและคนเสื้อแดงได้พยายามทำสุดกำลังมาตลอดเวลานับสิบปี