“เท้ง ณัฐพงษ์” แนะนายกฯ
แนวทางแก้ปัญหาสารพิษแม่น้ำกกหลังความเดือดร้อนเข้าเดือนที่ 4 ชี้ความท้าทายปัจจุบัน
ประเทศไทยขาดผู้นำที่สร้างความเชื่อมั่นทั้งการแก้ไขปัญหาภายใน-ภายนอกประเทศ
วันนี้
(11 มิถุนายน 2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุธ หัวหน้าพรรคประชาชน
โพสข้อความระบุว่าความท้าทายของประเทศไทยในปัจจุบัน คือ
การขาดผู้นำประเทศที่สร้างความเชื่อมั่นทั้งการแก้ไขปัญหาภายในและภายนอกประเทศ
หนึ่งในปัญหาที่คนไทยกำลังประสบอยู่
คือปัญหา #สารพิษในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ที่ผมลงไปรับฟังปัญหามาด้วยตัวเองหลายครั้งในจังหวัดเชียงราย
ซึ่งมีพี่น้องประชาชนสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา จนถึงตอนนี้ก็เข้าเดือนที่
4 แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น
เหตุการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มครั้งใหญ่ในปี 2567 ที่ อ.เมืองเชียงราย และ
อ.แม่สาย นั้นมีความเป็นไปได้สูงว่า
อาจมีสาเหตุมาจากการเปิดหน้าดินเป็นวงกว้างจากการทำเหมืองที่ต้นน้ำด้วย
วิกฤตของจังหวัดเชียงราย
เชียงใหม่ ที่ประสบปัญหาทั้งน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม และพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำ
ถือเป็นวิกฤตที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศต้องกลับมาทบทวนนโยบายและแผนการรับมือที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายกันใหม่
ดังเช่น ปัญหาเหมืองที่เกิดขึ้นอยู่นั้น
ถึงแม้อยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยของรัฐบาลทหารพม่า
แต่ก็อยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังชาติพันธุ์ว้าซึ่งอยู่ในพื้นที่
ส่วนบริษัทเอกชนที่ทำเหมืองแร่แห่งนี้ก็เชื่อได้ว่า เป็นกลุ่มทุนสัญชาติจีน
เป็นต้น
ในส่วนของพรรคประชาชน
ประธานคณะกรรมาธิการที่ดินฯ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ
และผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย ได้เข้าพื้นที่ไปรับฟังปัญหา
และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริงอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวผมเอง
ได้ถือโอกาสการเข้าพบท่านหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในวันที่ 4 มิถุนายน
2568 ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความกังวลและหารือในกรณีดังกล่าว
จาก
“ความซับซ้อนของปัญหา” ที่มีความเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายนี้เอง
การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโดยอาศัยการดำเนินงานจากฝ่ายไทยเพียงลำพัง เช่น
การสร้างฝายดักตะกอนที่ฝั่งไทย ฯลฯ นั้น ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด
ผมจึงขอส่งข้อเสนอแนะและเสนอแนวทางในการดำเนินงานไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
ดังต่อไปนี้
1.
เจรจาพูดคุยกับกองกำลังชาติพันธุ์ว้า
เพื่อบริหารจัดการการทำเหมืองอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่ปล่อยสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม
ซึ่งการเจรจานั้นอาจไม่สามารถทำผ่านรัฐบาลหรือกระทรวงการต่างประเทศได้
เพราะคู่สนทนาไม่ใช่รัฐ แต่อาจทำผ่านกองทัพบกภายใต้การสั่งการของรัฐบาลไทย เพื่อใช้กลไกการพูดคุยกันทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการให้เกิดการแก้ไขปัญหาร่วมกันในพื้นที่
ซึ่งผมเชื่อว่าหน่วยงานความมั่นคงของไทย
ต้องมีความสัมพันธ์กับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในพื้นที่ติดกันกับชายแดนไทยอยู่แล้ว
2.
การประสานงานอย่างเข้มข้นกับประเทศจีน เพื่อสืบค้นที่มาที่ไป
รายละเอียด การทำธุรกรรม การนำเข้าและส่งออกสินค้าต่าง ๆ
ของบรรดาบริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานทำเหมืองแร่ในพื้นที่ต้นน้ำ
เพื่อนำไปสู่การลงโทษ หรือมีมาตรการเชิงเศรษฐกิจต่อกลุ่มทุนเหล่านี้ต่อไป
ซึ่งข้อเสนอของผมในส่วนนี้
สอดคล้องกับท่าทีของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย
ที่แสดงออกถึงความพร้อมให้ความร่วมมือในการติดตามตรวจสอบเอกชนจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยมลพิษครั้งนี้
ท่าทีเหล่านี้
ก็สอดคล้องกับกรณีที่รัฐบาลจีนเคยเป็นตัวตั้งตัวตีหลักในการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ฝั่งตรงข้าม
อ.แม่สอด จ.ตาก ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หากรัฐบาลไทยเอาจริงเอาจัง
แสดงท่าทีและลงมือปราบปรามทุนเทาทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใดอย่างไร
รัฐบาลจีนก็จะไม่ทนกับปัญหาทุนจีนสีเทาที่สร้างผลกระทบในประเทศอื่นอย่างนั้น
ดังนั้น ความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน
จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากที่สุด
3.
รัฐบาลไทยสามารถใช้กลไกความร่วมมือพหุภาคีในภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับลุ่มน้ำในบริเวณนี้เพื่อแก้ไขปัญหาได้หลายเวที
ได้แก่ กลไกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือกลไกกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ฯลฯ
เป็นต้น โดยรัฐบาลควรใช้กลไกพหุภาคีเหล่านี้ ในการเดินหน้านำเสนอข้อมูล หลักฐาน
ข้อกฎหมาย
และความเห็นเพื่อส่งข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลและหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้อง
ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ปัญหาแม่น้ำเป็นพิษนี้
คือ อีกหนึ่งตัวอย่างของปัญหาที่มี “ความซับซ้อน” สูง
รัฐบาลไม่สามารถโยนภาระให้เป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งในไทยเพื่อแก้ไขปัญหาได้
เพราะต้องอาศัยการเจรจาพูดคุยในเวทีระหว่างประเทศ
มีแต่รัฐบาลเท่านั้นที่ต้องถือบทบาทนำในการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้
และหากปล่อยไว้ก็จะเป็นวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม
ที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณแม่น้ำกก แม่น้ำสาย
และแม่น้ำโขงทุกราย
ซึ่งจะฝังรากลึกและกินระยะเวลายาวนานไปจนถึงรุ่นลูกหลานของพวกเขาในอนาคตครับ
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #พรรคประชาชน #สารษพิษแม่น้ำกก #แม่น้ำกก